คณะแพทย์ มมส ยัน ไม่มีแผนให้ทุน ‘น้องโวลต์’ เพิ่ม ชี้เงินบริจาคเพียงพอแล้ว ห่วงปมการระรานทางไซเบอร์

คณะแพทย์ มมส ยัน ไม่มีแผนให้ทุน ‘น้องโวลต์’ เพิ่ม ชี้เงินบริจาคเพียงพอแล้ว ห่วงปมการระรานทางไซเบอร์

จากกรณีที่มีการนำเสนอข่าว และโลกออนไลน์เผยแพร่เรื่องราวของ น.ส.ณัฐวดี เหล่าบุบผา หรือโวลต์ อายุ 18 ปี นักเรียนโรงเรียนกาฬสินธุ์พิทยาสรรพ์ ต.โพนทอง อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ ที่สอบติดแพทย์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม (มมส) แต่ฐานะทางบ้านยากจน โดยมีการเปิดรับบริจาค

กระทั่งนายอำเภอเมืองกาฬสินธุ์ พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ไปตรวจสอบ พบมีผู้ใจบุญบริจาครวมจำนวนเงินกว่า 2,700,000 บาท และได้ปิดรับบริจาคไปแล้ว เนื่องจากเพียงพอสำหรับการเรียนแพทย์แล้วนั้น

ต่อมา เรื่องดังกล่าวกลับกลายเป็นประเด็นร้อนขึ้นมาอีกครั้ง เนื่องจากโลกออน์ไลน์สังเกตภาพจากคลิปวิดีโอต่างๆ ของน้องโวลต์ที่ออกมาก่อนหน้านี้ พบ “ไอแพดโปร” ซึ่งมีราคากว่า 25,000 บาท

Advertisement

นอกจากนี้ยังมี แอปเปล เพนซิล ขวดน้ำหอมดิออร์ยี่ห้อหรู รถยนต์ อินเตอร์เน็ตไวไฟ การจัดฟัน มีการตั้งข้อสงสัยว่าจนจริงหรือไม่ กระทั่งแฮชแท็ก “จนทิพย์” เป็นอันดับ 1 ในทวิตเตอร์ มีการพูดคุยกันมากว่า 2 แสนครั้ง

ภายหลังน้องโวลต์ชี้แจงว่า การจัดฟันและไอแพดโปรนั้น ตนได้เงินมาจากการทำงานพาร์ทไทม์ สำหรับ “น้ำหอม” ซื้อมาในอินเตอร์เน็ตมือสอง ราคา 300 บาท มีน้ำหอมเหลือก้นขวด เอามาตั้งไว้เฉยๆ ไม่ได้ใช้ ส่วนรถยนต์ไม่ใช่ของครอบครัวตนเอง แต่เป็นของน้าที่ซื้อให้ลูกสะใภ้ใช้ พร้อมย้ำว่า ครอบครัวยากจนจริงๆ

อ่านข่าว : น้องโวลต์ สาวกาฬสินธุ์ ขอบคุณธารน้ำใจไทยช่วยให้มีเงินเรียนแพทย์ มมส จะทำให้ดีที่สุด สานฝันให้สำเร็จ
#จนทิพย์ พุ่งที่ 1 ทวิต ชาวเน็ตจับโป๊ะ เด็กเก่งติดหมอ จนไม่จริง มีไอแพด-น้ำหอมแบรนด์หรู
น้องโวลต์ น้ำตาคลอเคลียร์ดราม่า ‘จนทิพย์’ ไอแพด-ดัดฟัน ทำงานเก็บเงินตั้งแต่ม.ต้น

Advertisement

ล่าสุด ฝ่ายกิจการนิสิต คณะแพทยศาสตร์ มมส เผยแพร่ คำชี้แจงจากคณบดีคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม (ผศ.นพ.เทพลักษ์ ศิริธนะวุฒิชัย) ถึงคณาจารย์ บุคลากร และนิสิตคณะแพทยศาสตร์ทุกท่าน กรณี นางสาวณัฐวดี เหล่าบุบผา (น้องโวลต์) วานนี้ (15 พฤษภาคม) ระบุว่า จากกรณีการนำเสนอข่าวผ่านสื่อและสังคมออนไลน์ของ น.ส.ณัฐวดี เหล่าบุบผา หรือน้องโวลต์ ที่ผ่านการคัดเลือกเข้าศึกษาหลักสูตรแพทยศาสตรบัณฑิต คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ปีการศึกษา 2564 ที่ครอบครัวประสบปัญหาความเดือดร้อนเรื่องค่าใช้จ่ายในการศึกษา เนื่องจากครอบครัวมีฐานะยากจน ตามที่สื่อนำเสนอไปแล้วนั้น ผมจะขอลำดับเหตุการณ์ให้ทุกคนได้ทราบดังนี้

ข้อ 1 วันศุกร์ที่ 7 พฤษภาคม พ.ศ.2564 (ช่วงบ่าย) คณะดำเนินการสอบสัมภาษณ์ผู้ผ่านการคัดเลือกที่มีสิทธิเข้ารับการสอบสัมภาษณ์ ผ่านระบบออนไลน์

ข้อ 2 วันศุกร์ที่ 7 พฤษภาคม พ.ศ.2564 (ช่วงเย็น) คณะประกาศรายชื่อผู้ผ่านการคัดเลือกเข้าศึกษาหลักสูตรแพทยศาสตรบัณฑิต บนเว็บไซต์ของคณะ

ข้อ 3 วันเสาร์ที่ 8 พฤษภาคม พ.ศ.2564 สื่อท้องถิ่นนำเสนอข่าวการสอบติดคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ของ น.ส.ณัฐวดี เพื่อขอรับความช่วยเหลือเบื้องต้นจากผู้มีจิตเมตตา ทั้งนี้ “คณะแพทยศาสตร์ไม่ทราบเรื่องการขอรับความช่วยเหลือดังกล่าว” แต่อย่างใด

ข้อ 4 วันอาทิตย์ที่ 9 พฤษภาคม พ.ศ.2564 คณะแพทยศาสตร์ได้รับการติดต่อจากองค์กร มูลนิธิ และผู้มีจิตเมตตาหลายท่าน แสดงความประสงค์บริจาคทุนการศึกษาให้ น.ส.ณัฐวดี ซึ่งทางคณะได้ตอบปฏิเสธผู้มีจิตเมตตาทุกท่านในขณะนั้น เนื่องจากยังไม่ถึงวันยืนยันสิทธิเข้าศึกษา (10-11 พ.ค. 64) และยังไม่ได้มีการสัมภาษณ์นิสิตเพื่อพิจารณาทุน

ข้อ 5 วันจันทร์ที่ 10 พฤษภาคม พ.ศ.2564 มหาวิทยาลัยมหาสารคามประสานคณะแพทยศาสตร์ ขอพบ น.ส.ณัฐวดี เพื่อรับฟังปัญหาความเดือดร้อนของครอบครัวและจะได้พิจารณาหาแนวทางช่วยเหลือที่เหมาะสม เนื่องจากมีกระแสคำถามบนสังคมออนไลน์เกี่ยวกับทุนการศึกษาสำหรับเด็กเรียนดีแต่ยากจน ของคณะแพทยศาสตร์และมหาวิทยาลัยมหาสารคาม

ข้อ 6 วันอังคารที่ 11 พฤษภาคม พ.ศ.2564 (ภาคเช้า) อธิการบดีมหาวิทยาลัยมหาสารคาม ผู้บริหารมหาวิทยาลัย และผู้บริหารคณะแพทยศาสตร์ ได้พบนิสิต มารดา และคณาจารย์โรงเรียนกาฬสินธุ์พิทยาสรรพ์ เพื่อรับฟังปัญหาและข้อมูล จึงได้ทราบว่ามียอดเงินบริจาคในขณะนั้น จำนวน 2.7 ล้านบาท (ซึ่ง น.ส.ณัฐวดีมีความตั้งใจที่จะปิดบัญชีรับบริจาคตั้งแต่วันจันทร์ แต่เป็นวันหยุดราชการ)

ทางคณะแพทยศาสตร์และมหาวิทยาลัยมหาสารคามจึงไม่ได้ให้ความช่วยเหลือเพิ่มเติมใดๆ แต่ได้ให้คำแนะนำในการวางแผนการใช้จ่ายตลอดการศึกษา ซึ่งทางคณะได้รายงานข้อมูลให้ผู้มีจิตเมตตาที่แสดงความประสงค์บริจาคทุนไว้ก่อนหน้านี้เพื่อทราบ ท่านได้พิจารณาและแสดงความจำนงบริจาคทุนให้แก่นางสาวณัฐวดีเป็นค่าธรรมเนียมการศึกษา จำนวนแปดหมื่นบาท ผ่านกองทุนการศึกษาและพัฒนานิสิตคณะแพทยศาสตร์

ข้อ 7 วันอังคารที่ 11 พฤษภาคม พ.ศ.2564 (ภาคบ่าย) คณะแพทยศาสตร์ทราบว่า น.ส.ณัฐวดีเดินทางไปปิดบัญชีที่ธนาคาร

ข้อ 8 วันพุธที่ 12 พฤษภาคม พ.ศ. 2564 คณะได้ทราบกระแสข่าวบนสื่อสังคมออนไลน์ที่ตั้งคำถามเกี่ยวกับการเปิดรับบริจาคเมื่อวันที่ 8 พ.ค. 64 ทางคณะติดตามและรวบรวมข้อมูล

ข้อ 9 วันพฤหัสบดีที่ 13 พฤษภาคม พ.ศ.2564 คณะประชุมเพื่อหาแนวทางตรวจสอบข้อเท็จจริง

ข้อ 10 วันศุกร์ที่ 14 พฤษภาคม พ.ศ.2564 (ภาคบ่าย) ตัวแทนคณะแพทยศาสตร์ได้เดินทางไปเยี่ยมบ้าน น.ส.ณัฐวดี อำเภอเมือง จังหวัดกาฬสินธุ์ พบสภาพบ้านพักอาศัยมีขนาดเล็ก ไม่เป็นสัดส่วน ไม่มีประตูบ้าน สภาพบ้านไม่ปลอดภัย

สำหรับการวางแผนการใช้เงินบริจาค ทราบว่า น.ส.ณัฐวดีจะเขียนแผนค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการศึกษาตลอดหลักสูตรแพทยศาสตรบัณฑิต นำเสนอให้คณะกรรมการ ซึ่งนายอำเภอเมืองกาฬสินธุ์จะเป็นผู้แต่งตั้ง เพื่อพิจารณาและให้ความเห็นชอบ

ทั้งนี้ “คณะแพทยศาสตร์ไม่มีแผนให้ทุนการศึกษาแก่นางสาวณัฐวดีเพิ่มเติม” แต่อย่างใด เนื่องจากเงินบริจาคมีจำนวนเพียงพอ อนึ่ง คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม มีแนวทางการพิจารณาช่วยเหลือนิสิตระดับปริญญาตรีที่ประสบปัญหาขาดแคลนทุนทรัพย์ทุกหลักสูตร

อย่างไรก็ตาม บนสื่อสังคมออนไลน์ยังคงมีข้อสงสัยในประเด็นอื่น “ทางคณะแพทยศาสตร์ จะดำเนินการสำรวจข้อเท็จจริงเพิ่มเติมและประชุมพิจารณากันต่อไป”

ทั้งนี้ คณะแพทยศาสตร์ มีความเป็นห่วงต่อปัญหาการระรานทางไซเบอร์ (Cyberbullying) เพื่อเป็นการลดปัญหาดังกล่าว เสนอให้ผู้ติดตามข่าวสารไตร่ตรองข้อมูล/ข้อความต่างๆ ด้วยความรอบคอบ ไม่ส่งต่อข้อมูลอันเป็นเท็จ รับฟังความคิดเห็นหรือมุมมองที่แตกต่างของผู้อื่น วิเคราะห์วิจารณ์ด้วยเหตุผล และหลีกเลี่ยงการใช้ถ้อยคำที่รุนแรง

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image