เสียงอีกมุม ตีกลับ ‘เพจแบรนด์ดัง’ ร่วมกระแสไลฟ์ ‘พระสงฆ์แบทเทิล’ ชี้อาจต้องคิดให้มากกว่านี้

เสียงอีกมุม ตีกลับ ‘เพจแบรนด์ดัง’ ร่วมกระแสไลฟ์ ‘แบทเทิลพระสงฆ์’ ชี้อาจต้องคิดให้มากกว่านี้

เป็นปรากฎการณ์ทางสังคมที่ได้รับความสนใจอย่างมากในโลกออนไลน์ขณะนี้ สำหรับกระแสความนิยมชมไลฟ์ของ พระมหาไพรวัลย์  กระทั่งมีแมทช์หยุดโลก เมื่อสองพระสงฆ์ขวัญใจชาวเน็ต  พระมหาไพรวัลย์ และ พระมหาสมปอง มีกำหนดการไลฟ์ร่วมกันในค่ำคืนที่ผ่านมา (วันที่ 3 กันยายน) และในการไลฟ์ครั้งนั้นเองมียอดผู้เข้าชมสูงถึง 2 แสนราย สะท้อนให้เห็นถึงกระแสความนิยมที่พุ่งพรวด

อ่าน : ส่องความเห็น เมื่อ 2 พระดัง ไลฟ์สดดึงคนชมเป็นล้าน จนแบรนด์ทั่วไทยแห่รายงานตัว

ทว่า ในห้วงเวลาเดียวกันนี้ บรรดาเพจของแบรนด์ดัง คนดัง จำนวนมากก็ต่างกระโจนเข้าร่วมชมไลฟ์สด และร่วมคอมเมนต์ กระทั่งมีคนกล่าวว่า เป็นการรวมตัวแอดมินเพจโดยมิได้นัดหมาย และมีจำนวนมากที่สุดในไลฟ์เดียว ซึ่งเรื่องราวทั้งหมดก็อยู่ในสายตาของชาวเน็ต

แน่นอนว่ากับปรากฎการณ์ดังกล่าว มีทั้งคนที่มองเป็นเรื่องขำขัน ขณะเดียวกันก็มีอีกหลายฝ่ายที่มองว่า ปรากฎการณ์ที่เพจแบรนด์ดังเข้าร่วมเกาะกระแสความนิยมในครั้งนี้ “อาจจะไม่เวิร์ก ?” 

Advertisement

หลายฝ่ายมองว่าเป็นกลยุทธ์ทางการตลาด ซึ่งหลายเพจก็ทำได้ดีคอมเมนต์ได้อย่างมีจังหวะ และเหมาะสม ทว่าหลายๆ แบรนด์ก็เหมือนจะคอมเมนต์ได้ไม่เหมาะสมนัก

ทั้งนี้ เพจ Poetry of Bitch ได้สรุป 5 เหตุผลจากชาวเน็ต กระแสตีกลับแบรนด์ในไลฟ์ พส. (พระสงฆ์) ไว้ว่า

1.ด้วยระบบของเฟซบุ๊ก เมื่อเพจใหญ่มาคอมเมนต์ มันจะแสดงคอมเมนต์ของเพจก่อน ทำให้คอมเมนต์ของคนธรรมดาตกลงไปอยู่ข้างล่าง ซึ่งคนส่วนใหญ่อยากอ่านคอมเมนต์คนธรรมดา คอมเมนต์ฮา ๆ ของบรรดาจะเทย มากกว่าคอมเมนต์ของเพจใหญ่

Advertisement

2.คนรู้สึกเหมือนเป็นคอมเมนต์ฝากร้าน ไทอินเนียนขายของ หายอดเอนเกจเมนต์หรือฟรีมีเดียให้ตัวเองมากกว่า และพอมีจำนวนมาก ๆ เข้าก็ทำให้รู้สึกว่าน่ารำคาญ แล้วยังทำให้พระไม่ได้ปฏิสัมพันธ์กับญาติโยม ซึ่งพระมหาไพรวัลย์ก็ยอมรับว่าท่านเองก็โดนตำหนิไปด้วย และทำให้ไม่ได้อ่านคอมเมนต์ของชาวจ๊อก

3.คนมองว่าบางเพจบางแบรนด์อิกนอร์เรื่องความเป็นอยู่ของประชาชนและสถานการณ์บ้านเมืองมาโดยตลอด เคยขอให้ call out ก็เมินเฉย แต่พอเวลาอย่างนี้กลับรีบมาเกาะชายผ้าเหลือง สามารถพูดเล่นเอาฮาไร้สาระได้ทุกเรื่อง ไปทุกแห่งที่มีกระแส แต่พูดความจริงไม่ได้

4.คนมองว่าพระมหาไพรวัลย์เป็นพระประชาธิปไตย ท่านยืนหยัดและพูดเรื่องนี้มาตลอดตั้งแต่ตอนที่ยังไม่มีกระแส หรือแม้แต่พระมหาสมปองเองก็เคยแสดงความคิดเห็นทางการเมืองจนโดนมหาเถรสมาคม (มส.) ตักเตือนมาแล้ว แต่ตอนนี้บรรดาแบรนด์และเพจอิกนอร์ต่าง ๆ ซึ่งไม่เคยต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยกลับมาเกาะกระแสพระประชาธิปไตย คนจึงตั้งคำถามว่าถ้า 2 พส.ไลฟ์เรื่องการเมืองจะมีเหลือสักกี่แบรนด์กี่เพจที่กล้าเข้ามาแสดงตัว

5.บางแบรนด์คอมเมนต์เลยเถิดไม่เหมาะสม เช่น เพจออฟฟิเชียลของห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งขอให้พระช่วยครางเป็นชื่อห้าง เพจนิตยสารออนไลน์และเพจทีวีออนไลน์นิมนต์พระทั้ง 2 รูปไปเล่นซีรีส์วาย เป็นต้น ซึ่งคนมองว่าไม่จำเป็นต้องมองในแง่ของศาสนา แค่มองในแง่ของมารยาทก็ไม่ได้แล้ว

จากกระแสตีกลับและท่าทีแอนตี้ที่เกิดขึ้นทำให้หลายฝ่ายมองว่า อาจทำให้ต่อไปนี้แต่ละแบรนด์ต้องคิดให้รอบด้านมากขึ้นก่อนคอมเมนต์หรือแชร์อะไรในอนาคต

ขอบคุณเพจ Poetry of Bitch

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image