‘เจ้เล้ง’ ขอโทษจากใจจริง มีดราม่าแอร์-สจ๊วต ยอมรับปากไว ไร้เจตนาดูหมิ่น หวังได้รับโอกาสพิสูจน์ตัวเอง

‘เจ้เล้ง’ ขอโทษจากใจจริง มีดราม่าแอร์-สจ๊วต ยอมรับปากไว จากนี้จะมีสติในการสื่อสารให้มากขึ้น ขอทุกคนให้อภัย-มอบโอกาสพิสูจน์ตัวเอง

จากกรณีที่ เจ้เล้ง เจ้าของร้านเจ้เล้ง ดอนเมือง อัดคลิปเกี่ยวกับการทำก๋วยเตี๋ยวเส้นใหญ่สูตรฮ่องกง เผยแพร่ผ่านช่องยูทูบ โดยช่วงหนึ่งมีการกล่าวถึงอาชีพพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินว่าเด็กรุ่นใหม่เวลาทำงานอาชีพนี้ต้องมีสติ เคยเป็นขี้ข้าบนเครื่องบิน แล้วกลายเป็นขี้ข้าบนดิน มันไม่ได้แพงขนาดนั้น

“40 กว่าเป็นสจ๊วตเป็นแอร์อะไร เคยเป็นขี้ข้าบนเครื่องบินอะ (ขำ) มาตอนนี้เป็นขี้ข้าบนดิน มันไม่ได้แพงขนาดนั้น แอร์กับสจ๊วตเจ้เล้งห้ามลูกหลานเป็นเลย (เคี้ยวหมากฝรั่งไปพูดไป) มันก็คือคนใช้บ้านเรา แต่คนใช้ดีหน่อยคนใช้บนอากาศ มาทำคอสูงตั้งเชียวนะ เอาล่ะ มึงก็คนใช้บนอากาศไม่มีอะไร (เคี้ยวหมากฝรั่งต่อ) ‘เราสั่งให้ทำอะไรต้องทำ’ แต่เจ้เล้งก็ไม่ค่อยงี่เง่ากับเค้าหรอก ดังนั้น กูห้ามทุกคนเป็นแอร์โฮสเตส ถ้ามึงอยากทำมาเป็นคนใช้บ้านกูมา กูให้ได้เลยห้าหมื่นแสนนึง มึงทำให้ได้อย่างเค้าแล้วกัน ลูกหลานเจ้เล้งจะไม่มีเป็นแอร์โฮสเตส เพราะเป็นอาชีพที่หางานอื่นต่อไม่ได้ มันเป็นธุรกิจที่จบสั้นๆ” เจ้เล้งระบุ

ภายหลังได้มีผู้ที่อยู่ในแวดวงการบิน และโลกโซเชียลต่างวิจารณ์การแสดงออกของเจ้เล้งจำนวนมาก ทั้งประเด็นการดูถูกอาชีพ ตลอดจนการเคี้ยวหมากฝรั่งระหว่างพูดคุย

ล่าสุด (9 ธันวาคม) เจ้เล้งเปิดเผยผ่านรายการ เรื่องเด่นเย็นนี้ ช่อง 33 HD ว่า คลิปดังกล่าวทำไว้นานมากแล้ว ไม่คาดคิดว่าจะถูกดึงขึ้นมาเป็นกระแส

Advertisement

และว่า ถ้าจะทำงานตอนนี้ อาชีพข้างล่างเงินเดือนบนดินไม่ได้หายากเลยที่เงินเดือนเท่ากับแอร์โฮสเตสตอนนี้ เด็กจะได้หาอาชีพอื่นทำ ไม่ใช่ว่าจะฝันใฝ่เป็นแบบนั้น งานแอร์โฮสเตสไม่ใช่งานสบาย เขาไม่ได้นอน ที่พูดคืออย่างนี้ ไม่เกี่ยวกับดูถูกแอร์ ไม่ได้ไปด่าอะไรเขาเลย ลงซะเยอะเกินไป

นอกจากนี้ เจ้เล้งยังโพสต์ข้อความขอโทษจากใจจริงทางเพจเฟซบุ๊ก ร้านเจ้เล้ง ranjaeleng พร้อมชี้แจงว่า จากกรณีที่ดิฉัน เจ้เล้ง น.ส.อารยา ลาภชีวะสิทธิฉัตร ได้อัดคลิปทำอาหารในวันที่ 13 กันยายน 2564 ซึ่งส่วนหนึ่งได้กล่าวพาดพิงถึงอาชีพแอร์โฮสเตสกับสจ๊วตตามเนื้อความดังคลิปนั้น ซึ่งส่งผลกระทบต่อ เกียรติ ศักดิ์ศรี และคุณค่าของอาชีพนั้นๆ ดิฉันไม่ได้สบายใจในคำพูดที่ดิฉันกล่าวออกไปเลย ซึ่งพูดไปตามประสาคนปากไว โดยมิได้มีเจตนาดูหมิ่น หรือเหยียดบุคคล และอาชีพใดๆ ด้วยความโกรธเกลียดเลย

“ดิฉันไม่มีคำใดมาแก้ตัว หรือคำอธิบายใดๆ นอกจากคำว่าขอประทานโทษจากใจจริง โดยต่อไปนี้จะมีสติในการสื่อสารให้มากยิ่งขึ้น พร้อมปรับทัศนคติและมุมมองในการอยู่ในโลกสังคมออนไลน์สมัยใหม่

Advertisement

“จึงขอให้ทุกคนที่เจ้เล้งได้กล่าวพาดพิง รวมไปถึงชาวเน็ตที่คอมเมนต์ให้อภัยและให้โอกาสเจ้เล้งได้พิสูจน์ตัวเองด้วยนะคะ”

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image