เปิดใจเจ้าของแคมเปญ ‘เลิกใช้เลขไทย ในเอกสารราชการ’ หลายสถานการณ์ใช้แบบ ‘ไม่บันยะบันยัง’ จ่อยื่นหนังสือถึงสภา แนะหัวหน้าหน่วยงานราชการทำสิ่งที่เป็นเหตุเป็นผล
เมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม สืบเนื่องกรณีโลกออนไลน์ให้ความสนใจอย่างมากต่อแคมเปญ ‘ขอให้ใช้เลขอารบิกในเอกสารราชการไทย เพื่อความพัฒนาในด้านดิจิทัล’ ในเว็บไซต์ change.org (อ่านข่าว โซเชียลผุดแคมเปญ ‘เลิกใช้เลขไทยในเอกสารราชการ’ คนลงชื่อเห็นด้วยพรึบ)
‘มติชน’ ได้สอบถามไปยัง นายปฏิพัทธ์ สุสำเภา ผู้ริเริ่มแคมเปญดังกล่าว โดยนายปฏิพัทธ์กล่าวว่า ได้รับแรงผลักดันจากปัญหาที่พบหลังการเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เนื่องจากตนเป็นวิศวกรที่มีหน้าที่จัดทำข้อมูลเกี่ยวกับคะแนน โดยพบว่าข้อมูลที่ได้รับมาเป็นไฟล์พีดีเอฟ และตารางส่วนที่เป็นคะแนนถูกกรอกด้วย ‘เลขไทย’ ส่งผลให้ตนและผู้ร่วมงานต้องช่วยกันพิมพ์เป็นระยะเวลานานกว่า 5-6 ชั่วโมง เพื่อให้ได้ผลคะแนนที่เป็น spreadsheet สำหรับใช้ในการคำนวณได้ ขณะนั้นรู้สึกแปลกใจว่าเหตุใดจึงเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นได้ จึงไปหาข้อมูลว่าอะไรเป็นปัจจัยที่ทำให้ต้องใช้เลขไทยในเอกสารราชการ
เมื่อสอบถามว่ารู้สึกอย่างไรที่มีคนให้ความสนใจเป็นจำนวนมาก นายปฏิพัทธ์กล่าวว่า รู้สึกเซอร์ไพรส์ เพราะตอนแรกก็ไม่ได้นึกว่าจะมีคนให้ความสนใจขนาดนี้ พอมีคนมาเห็นจำนวนมากก็คิดว่าอย่างน้อยได้กระตุ้นการตั้งคำถามว่าทำไมมันจึงมีเหตุการณ์ลักษณะนี้
“ทำไมเอกสารราชการที่เป็นอิเล็กทรอนิกส์หลายๆ ครั้งที่เนื้อหาข้างในเกี่ยวข้องกับเรื่องที่จำเป็นจะต้องใช้เลขอารบิก แต่ทางราชการตัดสินใจใช้เลขไทย อย่างเช่น ชื่อเว็บไซต์ หรือเอกสารเชิญประชุมทางโปรแกรมออนไลน์ ซึ่งให้รหัสผ่านมาเป็นเลขไทย พอมาดูแล้วมันไม่ค่อยสมเหตุสมผลเท่าไร ขอใช้คำว่า ใช้กันแบบไม่บันยะบันยัง” นายปฏิพัทธ์กล่าว
นายปฏิพัทธ์กล่าวต่อไปว่า ตอนที่ทำแคมเปญก็ยังไม่ค่อยได้นึกอะไรมากเท่าไร คิดเพียงว่าอย่างน้อยขอตะโกนออกมาดังๆ ก่อนว่ามันมีปัญหานี้ แต่ก็มีการคิดไว้คร่าวๆ ว่าคือปัญหานี้เกิดขึ้นจากการขอความร่วมมือจากภาครัฐ แล้วพอแนวทางการขอความร่วมมือไม่ชัดเจน ทางราชการไทยก็มีแนวโน้มที่จะตีความทุกอย่างแบบสุดโต่งอยู่แล้ว เพราะฉะนั้น คิดว่าในลำดับถัดไปคงจะต้องเข้าทางรัฐ
“ตอนนี้ที่นึกได้เร็วๆ ก็อาจจะผ่านทางนิติบัญญัติ การยื่นหนังสือกับทางรัฐสภา แต่ก็ต้องเรียนตามตรงว่ายังไม่ได้ทำงานกับทางภาครัฐ เพราะตอนนี้ตะโกนอยู่ข้างเดียว ตนคิดว่าเมื่อทางภาครัฐเริ่มทำงานวันพรุ่งนี้ก็จะเริ่มกระบวนการ บอกว่าข้อกังวลของเราคืออะไร โดยจัดทำหนังสือเพื่อยื่นอย่างเป็นทางการ
ผมคิดว่าหลายๆ เรื่องที่เราบอกว่าประเทศเราจะเป็นดิจิทัล ส่วนหนึ่งมันก็มาได้ดี เข้าใจว่าข้าราชการหลายๆ ท่านก็อยากทำให้ดี มีหลายคนมาบ่นให้ฟังหลังไมค์ พบว่าคนทำงานก็อยากแก้ไข ซึ่งเรื่องนี้ค่อนข้างแก้ได้ง่ายมาก เพราะต้นเรื่องเป็นแค่การขอความร่วมมือ และหลายๆ ครั้งภาครัฐเองก็บอกว่าเรื่องการใช้เลขไทย หรือไม่ใช้เลขไทยขึ้นอยู่กับดุลพินิจของแต่ละหน่วยงาน เพราะฉะนั้น ก็ต้องการแค่หัวหน้าหน่วยงานที่กล้าหาญ และอยากทำให้เรื่องข้อมูลดิจิทัลมันเป็นสากล วันพรุ่งนี้ก็ลุกขึ้นมาประกาศได้เลยว่าสามารถใช้เลขอารบิกในเอกสารของหน่วยงานตัวเองได้เลย ตนหวังแค่นี้ อย่างน้อยก็ให้เขาทำสิ่งที่เป็นเหตุเป็นผล และผลักดันความเชื่อของตัวเองออกมาให้ได้” นายปฏิพัทธ์กล่าว
