แอดมินกรุ๊ป ‘ย้ายประเทศกันเถอะ’ อัพเดตชีวิต ได้กรีนการ์ด ‘แคนาดา’ หลังย้ายไปครบปี

แอดมินกรุ๊ป ‘ย้ายประเทศกันเถอะ’ อัพเดตชีวิต ได้กรีนการ์ด ‘แคนาดา’ หลังย้ายไปครบปี

พฤษภาคม 2564 เฟซบุ๊กกรุ๊ป “ย้ายประเทศกันเถอะ” นับได้ว่าเป็นกระแส สะท้อนสังคมไปทั่วประเทศ โดยมีจำนวนสมาชิกที่เข้าไปในกรุ๊ปนับถึงปัจจุบัน พุ่งไปถึง 1.1 ล้านราย ในช่วงเวลาที่ สถานการณ์การเมืองในประเทศไทยกำลังร้อนแรง ทั้งการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่ถึงทางตัน และ ยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ซึ่งทำให้คนรุ่นใหม่หลายคนผิดหวังกับสภาพสังคมและปัญหาเชิงโครงสร้าง

ซึ่งแอดมินได้เปิดเผย จากความคิดว่า “ใครๆ ก็อยากมีชีวิตที่ดีขึ้น”

ต่อมาเฟซบุ๊กกรุ๊ปดังกล่าวเปลี่ยนมาใช้ชื่อ โยกย้าย มาส่ายสะโพกโยกย้าย พร้อมการรีวิวให้ความรู้ อย่างการสอบภาษาอังกฤษ หรือลู่ทางการใช้ชีวิตในประเทศต่างๆ

โดย Poowanut Tanwattanakul แอดมินกรุ๊ปดังกล่าว ก็อัพเดตข้อมูลของตัวเองเป็นระยะ ว่าได้เดินทางไปอยู่ที่แคนาดาตั้งแต่เมื่อปีก่อน

Advertisement

28 กุมภาพันธ์ เขาได้เล่าเรื่องชีวิตที่แคนาดาไว้ว่า

“สวัสดีจากแคนาดา ตอนนี้เริ่มปรับตัวได้บ้างแล้ว หลังจากพยายามต่อสู้กับอากาศหนาวมาสองวีค อัพเดตให้ฟังกันหน่อย ถือว่าเป็นการเติมไฟให้คนอื่นๆ
– ใครได้ย้ายประเทศสมใจแล้วบ้าง ย้ายแล้วเป็นยังไง
– ใครกำลังเตรียมอะไร ถึงไหนแล้วบ้าง
อาจไม่มีเวลาทำหน้าที่แอดมินเท่าไหร่ เพราะยังจัดการเอกสาร ธุรกิจของตัวเองไม่เรียบร้อย อันนี้ต้องขอโทษจริงๆ อยากมีเวลามากกว่านี้
ไว้จะมาไลฟ์ ตอบคำถามทีเดียวเลย สัญญา และยังเป็นกำลังใจให้ทุกคนที่อยากย้ายเสมอนะ หนีมาให้ได้นะ มันดีมากๆ เลย”

ก่อนจะเล่าเรื่องต่อเมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม 2022 ว่า

Advertisement

“สวัสดีจ้า แอดมินเอง หายไปนาน วันนี้แวะมาอัพเดตสภาพจิตใจให้ฟัง ตั้งแต่ย้ายมาอยู่นี่ ความทะเยอทะยาน อยากประสบความสำเร็จ ความกระเสือกกระสนอยากรวย ความอยากได้อยากมี หายไปเกือบหมดเลย ตอนอยู่ไทย รู้สึกว่าต้องไปให้ไกลที่สุด เพราะรู้อยู่แก่ใจว่า ประเทศนี้ไม่มีรัฐสวัสดิการ ไม่มีอนาคต ไม่เป็นประชาธิปไตย และไม่มีวันเจริญได้ในช่วงอายุขัยของตัวเอง ฉะนั้นทางเดียวที่จะอยู่รอดและมีความสุขในประเทศเหี้ยๆ นี่ได้ คือต้องรวย ต้องมีเงินเยอะๆ เอาไว้ซื้อประกันสุขภาพไว้รักษาตอนป่วย เอาไว้ซื้อรถขับจะได้ไม่ต้องพึ่งคมนาคมที่ไม่ทั่วถึง เอาไว้ใช้ปรนเปรอชีวิต ตามไลฟ์สไตล์คนตอแหล เดินพารากอน เดินสยาม กินใช้วันละพันสองพัน ตีเทนนิสชั่วโมงละ 300-500 อยากทำอะไรก็ใช้เงินซื้อ มันง่ายดี
ตอนอยู่ไทย ก็เลยไม่เคยหยุดไปต่อซักที เปิดร้านอาหารปังแล้ว ไปเปิดผับ เปิดผับปังแล้วไปทำสตูดิโอแต่งงาน มีเงินเท่าไหร่เอาไปลงทุนหมด คลอดธุรกิจบ่อยกว่าแม่พันธุ์หมาในฟาร์มอีก ไม่ค่อยได้ใช้เงินที่ตัวเองหามาเล๊ยยยเงินต่อเงิน ใช้หนี้หม๊ด
.
แต่พอย้ายมาอยู่ที่นี่ ค้นพบเลยว่า เราไม่จำเป็นต้องรวยขนาดนั้น เราไม่จำเป็นต้องประสบความสำเร็จไปกว่านี้ เราก็มีชีวิตที่มั่นคงและมีความสุขได้เหมือนกัน ประกันสุขภาพไม่จำเป็นต้องมี รักษาฟรีเกือบ 100% ยิ่งถ้าทำงานประจำ ยิ่งมีสวัสดิการเยอะไปอีก ทั้งทำฟัน นวด ตัดแว่น นั่นนี่ รถราคาถูกกว่าไทย 2-3 เท่า ซื้อได้ง่ายๆ ไปไหนมาไหนใช้เวลา 10-15 นาที เหลือเวลาใช้ชีวิตเพียบเลย อยากทำไรก็ได้ทำ น้ำมันรถเติมเดือนละครั้งยังเหลือ มีไลฟ์สไตล์ตอแหลได้เหมือนกัน แต่ไม่ต้องจ่ายเงิน พื้นที่สาธารณะเพียบ ไม่ต้องใช้เงินซื้อ
อยากตีเทนนิส ตีวอลเลย์ ไปได้เลยคอร์ตฟรี อยากเดินเล่นไปเดินสวน มีทั่วเมือง ฟรี อยากปิ้งบาบีคิว มีเตามีโต๊ะตามสวนให้ฟรี ชีวิตแทบไม่มีค่าใช้จ่ายอะไรอีกเลย นอกจากค่ากิน ค่าอยู่
.
อยู่ไทย ใช้เงินเดือนละ 100,000-150,000 บาท อยู่ที่นี่ ใช้เงินเดือนละไม่ถึง 30,000 บาท พอมีเวลาว่าง ได้กลับมานั่ง Reflect ตัวเอง
ถึงได้เข้าใจว่า เห้ย การอยู่ในประเทศที่พัฒนาแล้ว เราไม่จำเป็นต้องรวยและประสบความสำเร็จขนาดนั้นก็ได้
ตอนนี้คิดได้แล้วว่า เราพอละ เราประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน ในระดับที่พิสูจน์กับทุกคนแล้วว่า เรามีความสามารถประมาณนึง เราทำให้ครอบครัวภูมิใจ และที่สำคัญเราภูมิใจในตัวเองแล้ว
ต่อไปนี้ จะหยุดขยายธุรกิจที่ไทย หาธุรกิจเล็กๆ ทำที่นี่ ให้พอมีอะไรทำแก้เบื่อ แล้วใช้ชีวิตให้คุ้มค่าดีกว่า (ถึงแม้เพื่อนๆ จะไม่เชื่อว่ากูหยุดได้ก็ตาม555) ยังยืนยันว่า ไม่มีความคิดกลับไปอยู่ไทย เพราะมีความสุขกับความสงบทางจิตใจที่นี่มาก”

ภาพจาก Poowanut Tanwattanakul

ล่าสุด แอดมินก็ได้โพสต์เล่า ด้วยว่าได้รับบัตร Permanent Resident หรือกรีนการ์ดแคนาดา เป็นวีซ่าถาวร ที่มีสถานะเท่าเทียมพลเมืองแคนาดาทุกประการ ยกเว้นไม่สามารถลงสมัครรับเลือกตั้ง/ลงคะแนนเสียงเลือกตั้ง

ซึ่งเขาได้บอกไว้ว่า “สวัสดีจ้า แอดมินเอง PR Card มาถึงแล้วในที่สุด ดีใจมาก เปิดตู้ไปรษณีย์มา กรี๊ดลั่น ตีลังกาล้อเกวียนรอบหมู่บ้าน 1 ปี พอดีเลย หลังบินเข้ามาที่แคนาดา ผิดแผนไปร้อยตลบ เปลี่ยนแผนจนหน้ามืด รอจนใจจะขาด จนปลงได้ จนกลับมาใจขาดอีกรอบ หมดสิ้นซักที กับการรอคอย
ไว้มาเล่าให้ฟังโดยละเอียด ขอสรุปให้กระชับเข้าใจง่ายๆ ก่อน
เป็นกำลังใจให้คนที่กำลังจะโยกย้ายทุกคน
สู้ต่อไป หนีมาให้ได้ !!”

ซึ่งมีคนเข้าไปร่วมแสดงความยินดี พร้อมทั้งคอมเมนต์จำนวนมาก ให้กับโพสต์ดังกล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image