ส.ศิวรักษ์-สถาบันชุมชนฯ โพสต์อาลัย ‘บัณฑร อ่อนดำ’ ผู้เป็นมากกว่านักวิชาการที่ให้ความรู้แก่คนจน
จากกรณี ผศ.บัณฑร อ่อนดำ ผู้บุกเบิกงานพัฒนาสังคมสู้เพื่อคนจน ได้เสียชีวิตในวัย 88 ปี โดยจะมีพิธีสวดพระอภิธรรม วันที่ 2-5 เมษายน ที่วัดหัวลำโพง ศาลา 9 และฌาปนกิจ วันที่ 6 เมษายนนั้น
อ่าน : สิ้น ‘บัณฑร อ่อนดำ’ ผู้บุกเบิกงานพัฒนาสังคม
เมื่อวันที่ 2 เมษายน สถาบันชุมชนท้องถิ่นพัฒนา – LDI ได้โพสต์อาลัยต่อการจากไปของ ผศ.บัณฑร อ่อนดำ โดยระบุว่า ชาวสถาบันชุมชนท้องถิ่นพัฒนา ขอไว้อาลัยต่อการจากไปของ ผศ.บัณฑร อ่อนดำ นักวิชาการอาวุโสที่เคารพรัก ผู้บุกเบิกงานพัฒนาสังคม และการเคลื่อนไหวของคนจนเพื่อสร้างสังคมที่เป็นธรรม
อาจารย์ได้จากไปเช้ามืดวันนี้ที่ขอนแก่น หลังจากพักฟื้นร่างกายจากภาวะเจ็บป่วยมายาวนาน ลูกหลานจะพาร่างอาจารย์มาบำเพ็ญกุศลที่วัดหัวลำโพง ศาลา 9 เย็นนี้
อาจารย์บัณฑร เป็นมากกว่านักวิชาการที่เรียนรู้ ให้ปัญญาแก่คนจน อาจารย์ยังใช้ทุ่มเทตลอดชีวิตเพื่อเสริมสร้างพลังชุมชนให้มีความเข้มแข็ง และยังร่วมขับเคลื่อนปฏิรูปประเทศจากฐานล่างด้วยการลงมือทำจริง ไม่ล่องลอยอยู่ในอากาศ หรือติดกับดักวาทกรรม
ขอให้อาจารย์ไปสู่สุคติ พวกเรา LDI ยืนยันสานต่อภารกิจของอาจารย์อย่างไม่เลิกรา
ขณะที่ นายสุลักษณ์ ศิวรักษ์ นักคิดและนักเขียนเจ้าของนามปากกา ส.ศิวรักษ์ โพสต์ผ่านเฟซบุ๊ก “Sulak Sivaraksa” ระบุว่า แด่ บัณฑร อ่อนดำ
ผมขอแสดงความเสียใจเป็นอย่างมาก ที่คุณบัณฑร อ่อนดำ จากโลกนี้ไปแล้ว คุณบัณฑรเป็นนักวิชาการที่ตั้งใจสอนหนังสือ วิจัย และทำงานโดยมุ่งที่ความยุติธรรมในสังคมเป็นหลัก
หลังจากการเป็นอาจารย์ประจำคณะสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ระหว่างปี พ.ศ.2515-2523 แล้ว ยังทำงานเป็น NGO อย่างน่าทึ่ง คิดถึงประโยชน์ตัวเองน้อย คิดถึงประโยชน์ของคนส่วนใหญ่เป็นสำคัญ
ถ้าผมจำไม่ผิด คุณบัณฑรเป็นผลผลิตของศาสนจักร เข้าใจว่าเคยบวชอยู่ที่วัดราชประดิษฐ์ ก่อนจะไปเรียนต่อสาขาสังคมวิทยาชนบท จากมหาวิทยาลัยคอร์แนล ประเทศสหรัฐอเมริกา
เมื่อครั้งเป็นอาจารย์ธรรมศาสตร์ คุณบัณฑรมีส่วนร่วมทั้งโครงการบัณฑิตอาสาสมัคร และโครงการพัฒนาลุ่มน้ำแม่กลอง ซึ่งทั้งสองโครงการนี้อาจารย์ป๋วย อึ๊งภากรณ์ ได้ริเริ่มขึ้น และน่าดีใจที่เมื่อ พ.ศ.2557 คุณบัณฑรได้รับรางวัลเกียรติยศ สันติประชาธรรม สำหรับผู้อุทิศตนเพื่อสังคมตามแนวทางของอาจารย์ป๋วยอีกด้วย (ดูภาพประกอบในคอมเมนต์)
คุณบัณฑรกับผมมีความสัมพันธ์ในทางส่วนตัวกันหลายต่อหลายเรื่อง
ในช่วงท้ายของชีวิตคุณบัณฑรล้มป่วยลง แต่ก็มีจิตใจที่เข้มแข็ง ระยะหลังนี้ไปพำนักที่ขอนแก่น ซึ่งมีคนช่วยดูแลในยามเจ็บไข้ได้ป่วย และเท่าที่ทราบ เขาก็จากไปอย่างสงบ
มีงานสวดพระอภิธรรมศพที่วัดหัวลำโพง (ดังภาพในคอมเมนต์) จึงขอแจ้งข่าวให้ญาติมิตรและศิษย์หาของคุณบัณฑรทราบ ด้วยความอาลัยจากใจจริง
