“ช้างศึก” ทีมชาติไทย ชุดใหญ่ ร่วมแข่งขันฟุตบอลรายการพิเศษ “ไชน่า คัพ 2019” ที่ประเทศจีน นัดแรกเฉือนชนะ “เจ้าภาพ” จีน 1-0 จาก “เจ” ชนาธิป สรงกระสินธ์ เข้ารอบชิงชนะเลิศพบยอดทีมของโลก อุรุกวัย วันที่ 25 มีนาคม เวลา 18.35 น.
สำหรับเกมแรกที่ชนะทีมชาติจีน นักเตะไทยได้รับคำชมว่าทำผลงานได้ยอดเยี่ยม โดยเฉพาะ “เมสซี่เจ” ชนาธิป ตัวรุกจาก คอนซาโดเล ซัปโปโร่ ได้รับคัดเลือกเป็นแมนออฟเดอะแมตช์
“เฮงซัง” นายวิทยา เลาหกุล อุปนายกฝ่ายพัฒนาเทคนิค สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ภาพรวมแล้วทีมไทยเล่นดี แต่ยังมีเกมรับที่ต้องรับทั้งทีม ส่วนแดนกลางครองบอลนาน เมื่อเสียบอลแล้วจะโดนเจาะได้ ขณะที่ ชนาธิป เล่นได้ดี สิ่งที่โดดเด่นมากคือการเปลี่ยนทิศทาง การเล่นในจังหวะที่รวดเร็ว ทำให้ทีมได้เปรียบ สร้างโอกาสทำประตูได้
“เมสซี่เจโอเคอยู่แล้ว และก็มีพัฒนาการขึ้นเรื่อยๆ การที่ไปเล่นลีกชั้นนำเอเชีย อย่าง เจลีก ยิ่งทำให้ทำผลงานดีขึ้นเรื่อยๆ น่าสนใจมากกับที่ได้เจอกับทีมระดับโลกอย่าง อุรุกวัย”
ส่วนในรายของ “นิว” ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์ กองกลางจากโออิตะ ทรินิตะ หลังจากไปเล่นเจลีก ก็ดีขึ้นอย่างชัดเจน ช่วยเกมรับได้อย่างมาก ตอนไม่มีบอลกับตัว ก็สามารถกดดันคู่แข่งได้ นี่คือสิ่งที่ ฐิติพันธ์ ได้เรียนรู้มาจากเจลีก ด้าน “อุ้ม” ธีราทร บุญมาทัน จากโยโกฮามา เอฟ มารินอส ทำได้ตามมาตรฐานอยู่แล้ว
“นักเตะที่เล่นต่างประเทศ เป็นแกนของทีม แต่นักเตะในไทยลีกก็สำคัญ ที่ยกระดับขึ้นมาเพื่อไปพร้อมๆ กัน ให้ทีมไทยแกร่งยิ่งขึ้น ผมอยากให้ทุกคนแสดงผลงานออกมา มีโอกาสเข้าตาแมวมอง หากเขาประทับใจฟอร์มแต่แรก โดยเฉพาะการเล่นสถานการณ์สำคัญ ก็จะตามเรื่อยๆ แต่ถ้าดูทีแรกแล้ว ไม่ถูกใจ ก็อาจจะไม่มองแล้ว”
ผู้สื่อข่าวถามว่า เวลานี้ ชนาธิป ดีพอจะเล่นในยุโรปหรือไม่ นายวิทยากล่าวว่า ด้วยฝีเท้าแล้ว ชนาธิปสามารถไปได้เลย เรื่องรูปล่างเล็ก ก็ไม่มีปัญหา เควิน คีแกน ก็ตัวเล็ก ฟุตบอลสมัยนี้เน้นเล่นกับพื้นอยู่แล้ว เจ ปรับแค่เรื่องอย่าครองบอลเยอะ ถ้ามีโอกาสไปยุโรป เชื่อว่า ชนาธิป สามารถเอาตัวรอดได้
