การแข่งขันมวยสากลโอลิมปิกเกมส์รอบคัดเลือกโซนเอเชีย/โอเชียเนีย ที่กรุงอัมมาน ประเทศจอร์แดน เมื่อวันที่ 10 มีนาคม เป็นการชกรอบรองชนะเลิศ เริ่มที่รุ่น 69 กก.หญิง ใบสน มณีก้อน พบ เฉิน เนียน ชิน จากไทเป ตลอดการชกทั้ง 3 ยกแม้ ใบสน จะเสียเปรียบเรื่องของประสบการณ์แต่ก็ปักหลักสู้กับนักชกไทเปแบบไม่เกรงกลัวศักดิ์ศรี แถมออกหมัดเข้าเป้าได้หลายหมัด ครบยก ใบสน พ่ายคะแนนขาดลอย 0-5 เสียง จบเส้นทางแค่เพียงรอบรองได้เหรียญทองแดงปลอบใจ พร้อมกับตั๋วไปโอลิมปิกเกมส์ หลังการชก ใบสน กล่าวว่า ตนสู้อย่างเต็มที่แล้วไม่เสียใจที่แพ้ยอมรับประสบการณ์ยังเป็นรอง แต่จากนี้เป็นต้นไปตนจะฝึกซ้อมอย่างหนักเพื่อเป้าหมายข้างหน้าคว้าเหรียญโอลิมปิกเกมส์ 2020 ให้ได้
รุ่น 52 กก.ชาย “เจ้าเหลิม” ธิติสรรค์ ปั้นโหมด พบ ชาห์โคบิดิน ซอยรอฟ จากอุซเบกิสถาน ตัวเต็งในรุ่นนี้ ตลอดการชกทั้ง 3 ยก เจ้าเหลิม ไม่ได้เรงกลัวฝีมือ พยายามเค้นฟอร์มเก่งดักต่อยทำคะแนนได้อย่างแม่นยำรวดเร็วจนนักชกคาอุซเบกิสถานเข้าไม่ติด ครบยก ธิติสรรค์ ปั้นโหมด เป็นฝ่ายชนะขาดลอย 4-1 เสียงผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศพบกับจีน หลังการชก “เจ้าเหลิม” กล่าวว่า พอใจและประทับใจกับฟอรฺ์มการชกของตัวเองในวันนี้มาก ยอมรับว่าก่อนชกตนเป็นรอง แต่ทีมสต๊าฟโค้ชแก้เกมให้ตนดูการชกของ อุซเบฯ ตลอดจนทำให้ตนจับทางได้ และรู้ว่าต้องทำอย่างไรให้ชนะ เข้าไปเจอกับจีนในรอบชิงฯ ไม่น่ากลัวเท่าไหร่ถ้าเทียบกับอุซเบฯ และเกาหลีใต้ที่ตนชนะมาแล้ว ถึงตอนนี้ตนมั่นใจในโอลิมปิกเกมส์ 2020 ต้องมีเหรียญให้แฟนมวยได้ชื่นชมแน่นอน อย่างไรก็ตามต้องขอบคุณผู้ใหญ่ทุกคนสต๊าฟโค้ช สมาคมมวยและที่ขาดไม่ได้โรงเรียนกีฬาพิษณุโลก และโรงเรียนกีฬานครราชสีมาที่ให้โอกาสกับตนจนทำให้ประสบความสำเร็จในวันนี้
ส่วนผลเมื่อคืนวันที่ 9 มีนาคมที่ผ่านมา โดยในรุ่น 69 กก.ชาย “เจ้าเอ็ม” วุฒิชัย มาสุข ที่แพ้ในรอบ 8 คนสุดท้าย ต้องมาลุ้นโควตาใบสุดท้ายกับ เมนซ่า โอกาซาวา จากญี่ปุ่น หากชนะจะไปรอพบกับนักชกจีนในรอบชิง ผลปรากฎว่า เจ้าเอ็ม พลาดท่าพ่ายให้กับนักชกปลาดิบชวดเข้าไปลุ้นโควตาสุดท้าย โดย เจ้าเอ็ม กล่าวว่า เสียใจที่ไม่สามารถคว้าตั๋วไปโอลิมปิกเกมส์ได้ ยอมรับว่าก่อนชกกดดันมากเพราะต้องชนะเท่านั้น เลยทำให้ชกแบบเกร็งๆ ทั้งที่นักชกญี่ปุ่นคนนี้ก็เคยเจอกันมาแล้วไม่เป็นไรตนยังไม่ท้อพร้อมสู้ต่อในเลกที่สองเพื่อคว้าโควตาให้ได้
รุ่น 57 กิโลกรัมชาย คัด 6 คนไปโอลิมปิก เกิดการพลิกล็อคเมื่อ “เจ้าสด” ฉัตร์ชัยเดชา บุตรดี ที่เจอกับ เหงียน วาน ดวง จากเวียดนาม คู่ปรับเก่าที่เจ้าสดเพิ่งชนะมาที่ซีเกมส์ที่ฟิลิปปินส์ เกมการชกยกแรกเริ่มไม่ถึงนาที สด พลาดไปโดนหมัดเข้าที่ท้ายทอยอย่างจังร่วงให้กรรมการนับ 8 แต่ยังลุกขึ้นสู้ต่อ ปรากฎว่า พลาดไปโดนหมัดซ้ายเข้าที่กกหูร่วงให้กรรมการนับเป็นหนที่สอง กรรมการยุติการชกและให้เวียดนามเป็นฝ่ายชนะอาร์เอสซีในยก 1 แต่ เจ้าสด ยังมีโอกาสในการไปลุ้นตั๋วกับเกาหลี ถ้าชนะได้ตั๋วโอลิมปิกเกมส์ทันที ซึ่ง เจ้าสด กล่าวว่า ยังงงๆ ที่กรรมการสั่งยุติการชกเร็วทั้งที่ตนก็บอกว่าพร้อมชก แต่ยอมรับ 2 นับนั้นพลาดไป โดนหมัดจริง โดยเฉพาะหมัดแรกเข้าที่ท้ายทอยยอมรับว่ามึนมากอาจเพราะเป็นจุดรวมสำคัญ และนับที่ 2 ไม่หนักแต่เป็นช่วงที่ตนกำลังถอยพอดี ไม่เป็นไรตนยังมีโอกาสแก้ตัว อย่างไรก็ต้องคว้าตั๋วไปโอลิมปิกเกมส์ให้ได้
รุ่น 51 กิโลกรัมหญิง “เจ้าเฟี้ยว” จุฑามาศ จิตพงศ์ พบกับ ซึคิมิ นามิกิ จากญี่ปุ่น ตลอดการชกทั้ง 3 ยก เจ้าเฟี้ยว ที่รูปร่างได้เปรียบกลับชกพลาดเป้า ต่างกับนักชกปลาดิบที่แม้ตัวจะเตี้ยกว่าแต่ก็ใช้ความรวดเร็วชิงต่อยหมัดก่อนได้อย่างแม่นยำ ครบยก จุฑามาศ พ่ายไป 0-5 เสียง แต่ยังมีลุ้นตั๋วโอลิมปิกเพราะรุ่นนี้คัดเอา 6 คน โดยจุฑามาศจะเข้าไปเจอกับอุซเบกิสถาน ถ้าชนะก็จะคว้าตั๋วโอลิมปิกทันที โดย เจ้าเฟี้ยว กล่าวว่า วันนี้ตนพลาดเอง ยอมรับว่านักชกญี่ปุ่นคนนี้ชกยากมากเขารวดเร็วชกได้อย่างปราดเปรียวว่องไวเข้าออกเร็ว เลยทำให้ตนชกไม่ค่อยเข้าเป้า ไม่เป็นไรเมื่อยังมีโควตาให้ลุ้นตนก็จะทำอย่างเต็มที่เพื่อคว้าโควตามาให้ได้
รุ่น 60 กก.หญิง “น้องแต้ว” สุดาพร สีสอนดี พบ เรย์ โคห์น่า จากอุซเบกิสถาน ตลอดการชกทั้ง 3 น้องแต้ว ออกหมัดได้อย่างจะแจ้ง นักชกอุซเบฯ พยายามเดินเข้าหา แต่ก็ยังทำอะไรไม่ได้ ครบยก สุดาพร สีสอนดี เป็นฝ่ายชนะคะแนนผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศพบกับ เกาหลีใต้ พร้อมคว้าตั๋วไปโอลิมปิกเกมส์เป็นคนที่ 3 ของทีมไทย หลังการชก “น้องแต้ว” กล่าวว่า เป็นอีกวันที่ดีใจที่สุด เพราะเป็นครั้งที่ตีตั๋วไปโตเกียวได้สำเร็จ ขอบคุณทุกคนที่ให้การสนับสนุนตอนนี้ตนมุ่งเป้าต้องคว้าเหรียญโอลิมปิกเกมสืกลับมาให้ได้เพื่อเป็นเกียรติประวัติและชื่อเสียงของประเทศ
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
