ทรู อารีน่า หัวหิน สปอร์ตคอมเพล็กซ์ระดับพรีเมียร์ใจกลางเมืองหัวหิน ร่วมกับโรงเรียนแทร็ลล์ อินเตอร์เนชั่นแนล สคูล, ทรู คอร์ปอเรชั่น, โครงการพาร์ค24, และบริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด ต้อนรับการมาเยือนประเทศไทยเป็นครั้งแรกของทีมสโมสรฟุตบอลเวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน รุ่นอายุไม่เกิน 16 ปี จากประเทศอังกฤษ ระหว่างวันที่ 14 – 17 กรกฎาคม เพื่อจัดการแข่งขันนัดพิเศษ “เดอะ เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน หัวหิน ทัวร์นาเมนต์ 2017” ระหว่างทีมเวสต์บรอมและทีมไทยแลนด์ออลสตาร์ รุ่นอายุไม่เกิน 16 ปี และกิจกรรม “ฟุตบอลคลีนิก” ให้แก่เยาวชนในพื้นที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ โดยร่วมกับทรู คอร์ปอเรชั่น, โครงการพาร์ค 24 และบริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด เพื่อมอบโอกาสและพัฒนาศักยภาพให้นักกีฬาเยาวชนไทยได้เรียนรู้เทคนิคการแข่งขันและประลองฝีเท้ากับนักเตะจากทีมฟุตบอลระดับโลกซึ่งเคยเล่นให้กับทีมชาติอังกฤษมาแล้ว ซึ่งถือเป็นการร่วมกันวางรากฐานและผลักดันวงการฟุตบอลไทยให้แข็งแกร่งและก้าวสู่สายตาโลก
สำหรับการมาเยือนของทีมฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษครั้งนี้ ถือเป็นการมาเยือนประเทศไทยเป็นครั้งแรกของทีมเยาวชนรุ่นอายุไม่เกิน 16 ปีของสโมสรฟุตบอลเวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน หนึ่งในทีมดาวเด่นของรายการพรีเมียร์ลีก นำโดย มร. ปีเตอร์ กิลเบิร์ต โค้ชเยาวชนทีมอคาเดมีทีมเวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน พร้อมนักเตะเยาวชนรุ่นอายุไม่เกิน 16 จำนวน 16 คน ซึ่งเป็นหนึ่งในทีมที่แข็งแกร่งที่สุดของเวสต์บรอม ที่ติดอันดับ 4 สถาบันอคาเดมียอดเยี่ยมของรายการพรีเมียร์ลีกอังกฤษ โดยสามารถเอาชนะทีมแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด อาร์เซน่อล เชลซี และเอฟเวอร์ตันได้ในฤดูกาลนี้ สมาชิกในทีมยังประกอบด้วยผู้เล่นดาวรุ่งของอังกฤษมากกว่า 5 คนเคยลงแข่งขันให้กับทีมชาติอังกฤษและสกอตแลนด์มาแล้ว
นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ อดีตรองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานที่ปรึกษาการจัดการแข่งขัน เป็นประธานแถลงข่าวการแข่งขันนัดพิเศษ โดยมี มร. โรเบิร์ต เทร็ลล์ ผู้อำนวยการ โรงเรียนแทร็ลล์ อินเตอร์เนชั่นแนล สคูล มร. ปีเตอร์ กิลเบิร์ต โค้ชเยาวชนมืออาชีพ ทีมอคาเดมีจากทีมเวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน มร. ลี ดาวน์นิ่ง โค้ชเยาวชน ทีมอคาเดมี่ทีมเวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน และนายวสวัต ตันติประภา ผู้จัดการทั่วไป ทรู อารีน่า หัวหิน ร่วมแถลง พร้อมด้วยนายดนัย ธาดาตั้งสกุล ผู้จัดการทั่วไป ประจำภูมิภาคตะวันตก บริษัท ทรู คอร์ปปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) นายสุวิทย์ ปรางค์จันทร์ ผู้จัดการฝ่ายการกีฬา บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด และมร. เจมมี่ คลาสก์ โค้ชทีม Thailand All Star เข้าร่วมงาน ณ ทรู อารีน่า หัวหิน
ฯพณฯสุวัจน์ ลิปตพัลลภ อดีตรองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นับเป็นโอกาสที่ดีที่ประเทศไทยของเราได้ต้อนรับทีมสโมสรฟุตบอลที่มีชื่อเสียงจากพรีเมียร์ลีกประเทศอังกฤษ “เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน” ถือเป็นครั้งแรกในการมาเยือนไทย ซึ่งการมาในครั้งนี้ได้มีการจัดการแข่งขันฟุตบอลเยาวชนนานาชาตินัดพิเศษ เป็นการสร้างชื่อเสียงและสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับเมืองหัวหิน ให้กลายเป็นศูนย์กลางการรองรับทางด้านกีฬาระดับโลกของเมืองไทย นอกจากนี้ยังเป็นการส่งเสริมให้นักกีฬาฟุตบอลเยาวชนของไทย ได้พัฒนาฝีมือกับทีมที่มีประสบการณ์และชื่อเสียงระดับโลก เพื่อเป็นการเพิ่มพูนทักษะและประสบการณ์ในการเล่นให้กับตนเอง เพื่อที่จะก้าวเข้าสู่การเป็นนักฟุตบอลทีมชาติไทยที่จะสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศชาติในอนาคต ทั้งนี้มีนักกีฬาเยาวชนไทยที่ได้ให้ความสนใจที่จะเข้าร่วมกิจกรรมของงานนี้เป็นจำนวนมาก รวมไปถึงนักเตะเยาวชนจากโครงการ “สานฝัน” ของทรู คอร์ปอเรชั่นอีกด้วย
ในฐานะเจ้าบ้าน เราได้มีการจัดการต้อนรับอย่างอบอุ่น มีการจัดกิจกรรมร่วมกันขึ้นเพื่อเป็นการแลกเปลี่ยนประสบการณ์โดยใช้กีฬาเป็นสื่อกลางกระชับความสัมพันธ์ โดยได้รับความร่วมมือจากหลายๆภาคส่วนที่ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของด้านการกีฬาในการช่วยพัฒนาประเทศ ผมขอขอบคุณสโมสรเวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน, โรงเรียนนานาชาติเทร็ลล์ ที่ร่วมมือกับทางทรู อารีน่า หัวหิน และผู้ให้การสนับสนุน ทรู คอร์ปอเรชั่น, โครงการพาร์ค 24 และไทย เบฟเวอเรจ ที่ทำให้เกิดกิจกรรมดีๆในครั้งนี้ขึ้น
มร. โรเบิร์ต แทร็ลล์ ผู้อำนวยการ โรงเรียนแทร็ลล์ อินเตอร์เนชั่นแนล สคูล ในฐานะหนึ่งในผู้สนับสนุนการจัดกิจกรรมครั้งนี้ กล่าวว่า “โรงเรียนแทร็ลล์ อินเตอร์เนชั่นแนล สคูล รู้สึกภาคภูมิใจเป็นอย่างยิ่งที่ได้ร่วมมือกับ ทรู อารีน่า และผู้สนับสนุนรายอื่น ๆ จัดกิจกรรมนำทีมฟุตบอลจากลีกระดับโลกมาสู่เมืองไทยในครั้งนี้ ซึ่งนับเป็นโอกาสดีสำหรับนักกีฬาไทยในการแสดงศักยภาพให้เป็นที่ยอมรับจากสโมสรฟุตบอลชั้นนำของสหราชอาณาจักร พร้อมร่วมฝึกซ้อมและใช้เวลาร่วมกับนักกีฬาระดับโลกอย่างใกล้ชิด โดย โรงเรียนแทร็ลล์ อินเตอร์เนชั่นแนล สคูล มุ่งมั่นผลักดันให้นักฟุตบอลระดับหัวกะทิของเราเข้าสู่สโมสรฟุตบอลชั้นนำในสหราชอาณาจักรมาโดยตลอด นักกีฬาของเราจึงมีการเตรียมพร้อมที่ดีอยู่เสมอ ซึ่งทำให้มีฝีมือทัดเทียมกับนักกีฬาอื่น ๆ ในสหราชอาณาจักรและสามารถเข้าร่วมกับทีมชั้นนำได้อย่างรวดเร็ว และเนื่องจากชาวไทยจำนวนมากต่างมีความฝันที่ต้องการก้าวไปสู่รายการเวิลด์คัพ ดังนั้น นี่จึงเป็นโอกาสที่หาได้ยากยิ่งสำหรับประเทศไทยที่ทางฟีฟ่าได้ประกาศว่า รายการแข่งขันฟุตบอลเวิลด์คัพจะเพิ่มจำนวนทีมเข้าแข่งขันจากเดิม 32 ทีม เป็น 48 ทีมใน 8 ปีข้างหน้า ทำให้คนไทยก้าวเข้าใกล้ความฝันมากยิ่งขึ้น และกิจกรมครั้งนี้ถือเป็นโอกาสสำคัญของนักกีฬาเยาวชนไทยในการปูทางสู่ความสำเร็จในอนาคต”
“วิสัยทัศน์ของทรู อารีน่า สอดคล้องกับสโมสรฟุตบอลเวสต์บรอมวิชเป็นอย่างมาก” มร. ปีเตอร์ กิลเบิร์ต ผู้โค้ชเยาวชนทีมอคาเดมี่ทีมเวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน กล่าว “แม้ว่าโดยปกติ เราจะคัดเลือกจุดหมายการเดินทางเฉพาะประเทศในยุโรป แต่เนื่องจากเรามีความสัมพันธ์อันดีกับโรงเรียนแทร็ลล์ อินเตอร์เนชั่นแนล สคูล และต้องการมอบประโยชน์คืนสู่วงการฟุตบอลผ่านการจัดกิจกรรมเพื่อสังคมอีกทางหนึ่ง การเดินทางมาเยือนประเทศไทยครั้งนี้จึงถือเป็นประสบการณ์เพื่อการเรียนรู้สำหรับนักกีฬา ผ่านการสัมผัสกับวัฒนธรรมที่แตกต่าง ร่วมประลองฝีมือกับทีมไทยที่มีสไตล์การเล่นที่แตกต่าง และพบปะสังสรรค์กับนักฟุตบอลชาวไทย รายการพรีเมียร์ลีกถือเป็นเป้าหมายของนักฟุตบอลจากทั่วโลก รวมทั้งจากเอเชีย หากประเทศไทยสามารถพัฒนาทักษะของนักกีฬาเยาวชนไปได้อย่างต่อเนื่อง ด้วยการนำทีมไปแข่งขันกีบทีมอื่น ๆ นอกโซนเอเชีย สักวันหนึ่งนักกีฬาไทยจะมีโอกาสเข้าร่วมทีมระดับพรีเมียร์ลีกได้อย่างแน่นอน”
นายธีรศักดิ์ อรุณเริ่มวัฒนะ ผู้อำนวยการกลุ่มด้านการสื่อสารเพื่อการสร้างแบรนด์ และบริหารสื่อโฆษณา บมจ. ทรู คอร์ปปอเรชั่น กล่าวถึง ความร่วมมือในครั้งนี้ว่า ทรูฯ มีความยินดีอย่างยิ่งที่ได้ร่วมจัดกิจกรรมฟุตบอลกับทีมทีมเวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน ทีมพรีเมียร์ลีกชั้นนำจากประเทศอังกฤษ ซึ่งจัดโดยทรู อารีน่า หัวหิน ถือเป็นกิจกรรมเพื่อสังคมที่สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของบริษัท ในการเปิดโอกาสให้เยาวชนไทยได้เรียนรู้และพัฒนาศักยภาพทางด้านกีฬากับนักกีฬาฝีมือระดับโลกอย่างใกล้ชิดผ่านการฝึกซ้อมและลงแข่งขันจริงในสนามเดียวกัน และปูเส้นทางสายกีฬาแก่เยาวชนไทยให้ก้าวสู่สนามแข่งขันระดับมืออาชีพยิ่งขึ้น และเป็นกิจกรรมที่สร้างเสริมสุขภาพพลานามัยให้แก่เยาวชนอีกด้วย ทั้งนี้ ทางทรูได้จัดกิจกรรม ‘ฟุตบอลคลินิก’ โดยแบ่งออกเป็น 2 ช่วง ในช่วงแรกเป็นกิจกรรมฟุตบอลคลีนิคให้แก่เยาวชนที่ด้อยโอกาสจากโครงการ “ทรูปลูกปัญญา” ซึ่งเป็นโครงการเพื่อสังคมของบมจ. ทรู คอร์ปอเรชั่น ที่เปิดโอกาสให้โรงเรียนในพื้นที่ห่างไกลได้เข้าร่วมกิจกรรมที่มีประโยชน์และเข้าถึงแหล่งความรู้ได้เท่าเทียมกับเด็กในเมืองใหญ่ อันนำมาซึ่งการพัฒนาเยาวชนของประเทศได้อย่างยั่งยืน และในช่วงที่สอง เป็นการฝึกซ้อม ‘ฟุตบอลคลินิก’ 3 ชั่วโมง ให้แก่เยาวชนที่มีใจรักกีฬาฟุตบอลที่ได้รับการคัดเลือกจากโครงการ “สานฝัน” จำนวน 20 คน โดยกิจกรรมทั้งหมดนี้ เป็นการมอบโอกาสให้เยาวชนไทยได้เรียนรู้เทคนิคการแข่งขันจากนักเตะระดับโลกจากทีมฟุตบอลชั้นนำซึ่งเคยเล่นให้กับทีมชาติอังกฤษมาแล้วเป็นครั้งแรก
นายวสวัต ตันติประภา ผู้จัดการทั่วไป ทรู อารีน่า หัวหิน กล่าวว่า “ทรู อารีน่า หัวหิน ร่วมสานฝันของแฟนบอลทั่วประเทศในการสนับสนุนทีมฟุตบอลไทยไปสู่สนามระดับโลก โดยจะรับหน้าที่เป็นเจ้าภาพสถานที่จัดการแข่งขันฟุตบอลเยาวชนนัดพิเศษนัดนี้ ด้วยสนามฟุตบอลที่สามารถใช้สำหรับการแข่งขันระดับโลกตามมาตรฐานของฟีฟ่าและผ่านการตรวจสอบทุกขั้นตอนโดยทีมระดับพรีเมียร์ลีก ที่สามารถรับรองว่า สนามฟุตบอลของทรู อารีน่า หัวหิน เป็นหนึ่งในสนามที่ดีที่สุดของประเทศไทยที่มีคุณภาพเทียบเท่าสนามระดับพรีเมียร์ลีกในประเทศอังกฤษ พร้อมทั้งสิ่งอำนวยความสะดวกและอุปกรณ์ด้านการกีฬาชั้นเลิศ ในการฝึกซ้อมให้นักกีฬาสามารถปรับปรุงและรักษาสมรรถภาพร่างกายก่อนการแข่งขัน นอกจากนี้ โรงแรมอินเตอร์คอนติเนตัล หัวหิน รีสอร์ท ภายใต้พราว เรียล เอสเตท ยังจัดหาห้องพักชั้นเลิศสำหรับนักกีฬาและทีมงานของสโมสรฟุตบอลเวสต์บรอมวิช การมาเยือนของทีมพรีเมียร์ลีกอังกฤษครั้งนี้ นอกจากเป็นการส่งเสริมด้านกีฬาให้กับเมืองหัวหินและประเทศไทย ยังเป็นการส่งเสริมภาพลักษณ์ด้านการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจการท่องเที่ยวของมืองหัวหินและเมืองไทย
ทั้งนี้ ทีมฟุตบอลพรีเมียร์อังกฤษจะร่วมทำกิจกรรม ที่ทรู อารีน่า หัวหิน ประกอบด้วย 2 กิจกรรมหลัก คือ การแข่งขันนัดพิเศษรุ่นเยาวชน ระหว่างทีมเวสต์บรอมและทีมไทยแลนด์ออลสตาร์รุ่นอายุไม่เกิน 16 ปี กำหนดจัดในวันเสาร์ที่ 15 กรกฎาคม 2560 เวลา 18.00 – 21.00 น. ซึ่งเป็นการแข่งขันระหว่างทีมเยาวชนไทยถือเป็นการมอบโอกาสให้เยาวชนไทยได้เรียนรู้และประลองฝีเท้ากับทีมฟุตบอลชั้นนำจากอังกฤษ และกิจกรรมเพื่อสังคม “ฟุตบอลคลินิก” โดยทีมเวสต์บรอมวิชเป็นผู้ดำเนินการสอนเทคนิคการเล่นฟุตบอลให้แก่นักเรียนและเยาวชนในพื้นที่ใกล้เคียง สนับสนุนโดย บมจ. ทรู คอร์ปอเรชั่น โครงการพาร์ค 24 และบริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด
