นายชาตรี ศิษย์ยอดธง ประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วัน แชมเปี้ยนชิพ การแข่งขันมวยกรงรายการใหญ่ ที่จัมาแล้ว 10 รายการ ในหลายประเทศอย่างอินโดนีเซีย, มาเลเซีย, ฟิลิปปินส์, สิงคโปร์,พม่า, มาเก๊า, นครเซี่ยงไฮ้ เปิดเผยว่า ที่ผ่านมา 10 สังเวียนได้รับกระแสตอบรับที่ดีเกินความคาดหมาย แต่ละสนามมีผู้ชมให้การตอบรับเข้ามาชมกันแน่นขนัดทุกสนาม เป็นที่น่าพอใจอย่างมาก โดยโปรแกรมการต่อสู้ในปีนี้ยังเหลืออยู่อีก 4 สนามใหญ่ที่อยากให้แฟนกีฬามวยกรงคอยติดตามได้แก่ รายการที่ 11 ของปีที่เมืองย่างกุ้ง ประเทศพม่า ในวันที่ 3 พฤศจิกายน ซึ่งจะมีนักชกไทยขึ้นสังเวียนด้วยนั่นคือ “เปี๊ยก” พงษ์ศิริ มิตรสาธิต จะฟาดปากกับเจรามี่ ไมเอโด้ จากฟิลิปปินส์ ในรุ่นสตรอว์เวต ต่อด้วยรายการที่ 12 ของปี ที่กรุงมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ ในวันที่ 10 พฤศจิกายน จะมีนักชกไทยขึ้นเวทีอีกรายคือ “มาก” อนัตพงษ์ บุญราษฎร์ จะดวลเดือดกับ รีซ แม็คลาเรน นักสู้ออสเตรเลีย ในรุ่นฟลายเวต
นายชาตรีกล่าวต่อว่า รายการที่ 13 ของปี ซึ่งถือเป็นรายการใหญ่รวมแชมป์จากทั่วโลกมาประชันกันจะต่อยที่สิงคโปร์ วันที่ 24 พฤศจิกายน โดยรายการนี้ไม่มีนักชกไทยขึ้นเวทีเพราะต้องเก็บตัวรักษาร่างกายไว้ต่อยรายการสุดท้ายของปี ที่อิมแพค อารีน่า เมืองทองธานี วันที่ 9 ธันวาคม โดยขุนพลนักสู้มวยกรงของไทยจะขึ้นเวทีต่อหน้าแฟนชาวไทยครบครัน นำโดย “ตอง” ชนนภัทร วิรัชชัย, “ไทนี่ ดอลล์” ริกะ อิชิเกะ แฟนสาวของชนนภัทร, “รงค์” เดชดำรงค์ ส. อำนวยศิริโชค, สะเก็ดดาว เพชรพญาไท, “จัก” ยอดสนั่น ศิษย์ยอดธง, “เปี๊ยก” พงษ์ศิริ และ กฤษดา คงศรีชาย
“สำหรับคู่ชกของเหล่านักสู้จากเมืองไทยที่จะขึ้นสังเวียนส่งท้ายปี 2017 ที่อิมแพค เมืองทองธานีนั้น อยู่ระหว่างการประกบคู่และยังไม่ได้ประกาศอย่างเป็นทางการ แต่รับรองว่าทุกคู่จะต้องดุเดือด สะใจแฟนๆ กีฬาที่ชื่นชอบศิลปะการต่อสู้แบบผสมผสานหรือ เอ็มเอ็มเอ อย่างแน่นอน” นายชาตรีกล่าว
นายชาตรีกล่าว ผู้ก่อตั้ง “วัน แชมเปี้ยนชิพ” กล่าวในตอนท้ายว่า จากความสำเร็จในปีนี้จึงเป็นที่แน่นอนแล้วว่าปีหน้า 2018 ศึกมวยกรง “วัน แชมเปี้ยนชิพ” จะเพิ่มโปรแกรมแข่งขันอีก 10 รายการในรอบปี รวมเป็น 24 รายการ เพื่อประกาศให้ชาวเอเชียรับรู้ถึงความยิ่งใหญ่ของมวยกรงวัน แชมเปี้ยนชิพ โดยคาดหวังว่าปีหน้าทั้ง 24 รายการจะประสบความสำเร็จเหมือนปีนี้
