หลังจากสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ออกมาระบุว่า เตรียมจะส่งนักเตะทีมชาติไทย รุ่นไม่เกิน 21 ปี เข้าร่วมการแข่งขันกีฬาเอเชี่ยนเกมส์ 2018 ครั้งที่ 18 ที่กรุงจาการ์ต้า และเมืองปาเลมบัง ประเทศอินโดนีเซีย ในช่วงเดือนสิงหาคม แทนนักเตะทีมชาติไทย รุ่นไม่เกิน 23 ปี ซึ่งทำผลงานได้ไม่ดีในการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์เอเชีย 2018 รุ่นไม่เกิน 23 ปี ที่ประเทศจีน เมื่อช่วงเดือนมกราคมที่ผ่านมานั้น
“บิ๊กเสือ” นายสกล วรรณพงษ์ ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ในฐานะประธานคณะกรรมการเตรียมนักกีฬาทีมชาติไทย ชุดเข้าร่วมกีฬาเอเชี่ยนเกมส์ 2018 เปิดเผยว่า จริงๆ แล้วการส่งนักเตะรุ่นไม่เกิน 21 ปี เข้าร่วมการแข่งขันนั้น ส่วนตัวไม่เห็นด้วย เพราะกีฬาฟุตบอลเป็นกีฬามวลชน และมีผู้ติดตามเป็นจำนวนมาก ซึ่งหากส่งนักเตะรุ่นไม่เกิน 21 ปีไปแข่งก็จะเสี่ยง อาจทำให้ผลงานที่ออกมาอาจไม่เป็นไปตามเป้าที่ตั้งไว้ และเกิดเป็นกระแสต่อต้านตามมา
นายสกล กล่าวอีกว่า สำหรับทางออกในเรื่องนี้อาจจะต้องเป็นการส่งทีมชุดผสม ซึ่งมีทั้งนักเตะทีมชาติไทย รุ่นไม่เกิน 23 ปี อยู่ในทีมด้วย เพื่อเป็นตัวหลังประคองรุ่นน้อง และช่วยเก็บประสบการณ์ แต่อย่างไรก็ตาม หากสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ ต้องการจะส่งนักเตะรุ่นไม่เกิน 21 ปี ไปแข่งแทนนักเตะรุ่นไม่เกิน 23 ปีจริง และหากผลงานไม่เป็นไปตามเป้าหมาย ทางสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ ก็ต้องเป็นผู้รับผิดชอบด้วย
“ในช่วงกลางเดือนกุมภาพันธ์ ทาง กกท.จะมีการประชุมเตรียมนักกีฬาชุดเอเชี่ยนเกมส์ร่วมกับสมาคมกีฬาต่างๆ อยู่แล้ว เพื่อเป็นการรับทราบความคืบหน้าในการเตรียมนักกีฬา ดังนั้นก็จะหารือในเรื่องนี้กับสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ อีกครั้งหนึ่งถึงความเป็นไปได้ในการส่งนักกีฬาฟุตบอลชุดใดเข้าร่วมการแข่งขัน” บิ๊กเสือกล่าวทิ้งท้าย
