“เพชรพันล้าน เพชรสี่หมื่น” อภิเชษฐ์ นาคแก้ว และ “นกกระจิบ ศิษย์พ่อแอ๊ด” อานนท์ พลกระโทก ยังโชว์ฟอร์มได้อย่างร้อนแรง ผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศ การแข่งขันมวยไทยสมัครเล่นชิงแชมป์โลก ศึก “อิฟม่า มวยไทย เวิลด์ แชมเปี้ยนชิพ 2018” ที่ประเทศเม็กซิโก เมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม
รุ่นไลท์ฟลายเวตชาย รอบรองชนะเลิศ “เพชรพันล้าน เพชรสี่หมื่น” อภิเชษฐ์ นาคแก้ว นักมวยดาวรุ่งดวงใหม่ พบกับซูเบอร์ บาริน ตัวเก่งของตรุกี ตลอดเกมการชกทั้ง 3 ยก อภิเชษฐ์ ระมัดระวังตัวเองเป็นพิเศษ เข้าทำแต้มทั้งวงในและวงนอกแบบพิถีพิถันมากขึ้น แถมยังระวังคู่แข่งเตะตัดขาทำให้เสียเหลี่ยมมวยอีก ส่งผลให้ อภิเชษฐ์ เข้าวินเอาชนะ ซูเบอร์ ไปด้วยสกอร์ 3-0 เสียง ผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศไปพบกับ โอวีเยียร์ อาสรานเยฟ ชาวรัสเซีย
รุ่นฟลายเวตชาย “นกกระจิบ ศิษย์พ่อแอ๊ด” อานนท์ พลกระโทก อดีตแชมป์เก่า 4 สมัย ดวลเดือดกับ ซาราฟ มูตูซารีฟ ตัวเก่งจากรัสเซียอีกคน เริ่มเกมยกแรก อานนท์ ถูกคู่แข่งแดนหมีขาวเตะตัดขาล้มลงไปกองกับพื้นได้หลายครั้ง แต่จังหวะการเข้าทำที่จะแจ้งกว่าเป็นของนักชกไทยจึงขึ้นนำไปก่อน 10-9 คะแนน มาถึงยกสอง ซาราฟ เดินหน้าบุกทำแต้มหนักขึ้นเพื่อหวังจะทวงคืน แต่ “นกกระจิบ” ก็ยังเก๋าเอาตัวรอดมาได้ตลอด กระทั้งมาช่วงท้ายเกม ซาราฟ เข้าไปรัดตีเข่าวงในพร้อมกับสับศอกเข้าตรงหน้าผากของ “นกกระจิบ” ถึงกับแตกมีเลือดไหลออกมา และสตาฟฟ์โค้ชต้องมาห้ามเลือดเพื่อลุยต่อในยกที่สาม ซึ่งทางคู่แข่งชาวรัสเซียเมื่อเห็นเลือดนักชกไทยยิ่งคึกออกมาเดินหน้าบุกอย่างหนัก แต่ก็ไม่สามารถต้านทานประสบการณ์ความเก๋าของ “นกกระจิบ” ที่คอยถีบยันและชกวงนอกเอาชนะมาได้ 3-0 เสียง ลอยลำเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศไปพบกับ เยราเมน ซายาสซานอฟ จากคาซัคสถาน
ปิดท้ายกันที่รุ่นแบนตั้มเวตหญิง “ชมมณี ส.เต๊ะหิรัญ” หยาดรุ้ง เต๊ะหิรัญ ลงต่อยรอบก่อนรองชนะเลิศ พบกับนักชกลูกครึ่งสาวญี่ปุ่น-แคนาดา ยูมิโกะ คาวาโน่ ที่โอนสัญชาติมาชกให้กับประเทศแคนาดา ตลอดเกมการชกทั้งคู่แลกหมัดและเท้ากันอย่างดุเดือดกลางเวที แต่ด้วยความเก๋าเกมและชั่วโมงบินของ “น้องเซี้ยะ” ค่อนข้างเหนือชั้นกว่า ก่อนจะเป็นฝ่ายชนะไป 3-0 เสียง ผ่านเข้าสู่รอบ 4 คนสุดท้ายพบกับ โอลีน่า โอวานชินิโคว่า ของยูเครน
หลังการชก อ.สุรัตน์ เสียงหล่อ เฮดโค้ชทีมชาติไทย เปิดเผยว่า ฟอร์มการชกในวันนี้ของทั้ง 3 คนเป็นที่น่าพอใจ อาจต้องมีการแก้ไขบางจังหวะบ้างเล็กน้อย เพราะก่อนลงแข่งขันตัวเองได้กำชับนักมวยทุกคนแล้วว่า หากจะเอาชนะ ต้องต่อยให้ขาด อย่าประหยัดการออกอาวุธ หรือ ประมาทเด็ดขาด เพราะทุกชาติต่างจ้องล้มเราอยู่ ทุกครั้งที่ออกหมัดและเท้าไปจะต้องมีเป้าหมายและชัดเจนไม่ใช่มัวๆ เพราะหากต่อยแค่ได้สูสีเท่านั้น โอกาสที่เราจะแพ้มีสูงมาก ซึ่งในวันนี้ทั้ง “เพชรพันล้าน เพชรสี่หมื่น” อภิเชษฐ์, “ชมมณี ส.เต๊ะหิรัญ” หยาดรุ้ง และ “นกกระจิบ ศิษย์พ่อแอ๊ด” อานนท์ ทำได้ดีตามที่สั่งไป จะมีแค่ อานนท์ คนเดียวพลาดท่ามีแผลแตกที่หน้าผาก แต่ไม่น่ามีปัญหาอะไรมันยังไกลหัวใจเยอะ จากนี้ไปเรายังเหลือนักมวยไทยอีก 5 คนที่จะลุ้นเข้าไปสู่รอบรองชนะเลิศ และรอบชิงชนะเลิศให้ได้เพิ่มขึ้น เพื่อต้องการทำให้ได้ตามเป้าหมายคือ 6 เหรียญทองเป็นอย่างน้อย แต่ถ้าหากเกินมากไปกว่านั้นก็ถือว่า เป็นโบนัสของทีมงานสตาฟฟ์โค้ชและนักมวยไทยกันทุกคนที่เหน็ดเหนื่อยจนมาถึงจุดนี้
