‘บิ๊กสมชาย’ ตัดพ้อ กกท. ดองเรื่องรับจดทะเบียนนั่งนายกสมาคมกีฬาคิกบ็อกซิ่งฯ
“บิ๊กสมชาย” สมชาย พูลสวัสดิ์ ตัดพ้อยื่นจดทะเบียนนั่งนายกสมาคมกีฬาคิกบ็อกซิ่งฯ คนใหม่ไปยัง กกท. นานแล้วแต่ยังไม่ได้รับการพิจารณา ลั่นอยากทำงานเพื่อวงการแต่ทำอะไรไม่ได้ ท้อใจอาจจำใจถอยออกมาเพื่อรักษาชื่อเสียงตัวเองและสมาคม
ตามที่ พล.อ.กู้เกียรติ ศรีนาคา ขอลาออกจากตำแหน่ง “นายกสมาคมกีฬาคิกบ็อกซิ่งแห่งประเทศไทย” ด้วยเหตุผลภารกิจส่วนตัว ทำให้สมาคมกีฬาคิกบ็อกซิ่งฯ ดำเนินการจัดประชุมใหญ่ผ่านระบบออนไลน์ (Zoom) ไปเมื่อวันที่ 22 ตุลาคมที่ผ่านมา โดยมีผู้แทนการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) และตัวแทนฝ่ายกฎหมายของ กกท. เข้าร่วมประชุมในห้อง Zoom อยู่ด้วย ซึ่งผลปรากฏว่า ที่ประชุมมีมติเลือก “บิ๊กสมชาย” นายสมชาย พูลสวัสดิ์ อธิบดีกรมสรรพสามิต และผู้คร่ำหวดในวงการกีฬาของไทย และเคยดำรงตำแหน่งคณะกรรมการบอร์ด กกท. ดำรงตำแหน่ง “นายกสมาคมกีฬาคิกบ็อกซิ่งแห่งประเทศไทย” คนใหม่ ซึ่งหลังจากนั้นสมาคมกีฬาคิกบ็อกซิ่งฯ ดำเนินการเรื่องเอกสารการยื่นขอการรับรองจดทะเบียนไปยังนายทะเบียนนั่นคือ กกท. ตั้งแต่วันที่ 20 พฤศจิกายน 2566 และมีการลงเลขลับในเอกสารยื่นขอจดทะเบียนแล้วด้วยนั้น
ล่าสุดนายสมชาย พูลสวัสดิ์ “ว่าที่” นายกสมาคมกีฬาคิกบ็อกซิ่งแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ได้ส่งฝ่ายกฎหมายเดินทางไปยัง กกท. เพื่อสอบถามถึงความล่าช้าในการพิจารณารับรองการขอจดทะเบียนหลังจากที่ตัวเองได้รับการเลือกตั้ง ซึ่งเวลา 1 เดือนกว่าที่ผ่านมา ยังไม่สามารถเข้ามาช่วยงานสมาคมกีฬาคิกบ็อกซิ่งฯ ได้อย่างเต็มที่ ซึ่งตนอยากทราบสาเหตุว่าเพราะอะไรกระบวนการพิจารณาของ กกท. จึงยังไม่เรียบร้อย หรือว่าติดขัดในเรื่องคุณสมบัติประการใดของตัวเองหรือเปล่า ตนอยากที่จะเข้ามาทำงานเพื่อพัฒนาวงการคิกบ็อกซิ่งไทย และพร้อมทำงานอย่างเต็มที่ ซึ่งที่ผ่านมาได้ประสานงานกับสมาคมฯ และสังเกตการณ์อย่างใกล้ชิดในเรื่องที่สมาคมทำอยู่ ทั้งการพัฒนาบุคลากรผู้ฝึกสอน และผู้ตัดสินทั่วประเทศ รวมไปถึงการจัดการแข่งขันคิกบ็อกซิ่งชิงแชมป์ประเทศไทยล่าสุด ซึ่งตนก็มองว่า สมาคมกำลังเดินหน้ามาอย่างถูกทางแล้ว โดยตนยังได้แนะนำว่า จะต้องพัฒนาเรื่องของการเพิ่มสโมสรสมาชิกให้กว้างขวางมากยิ่งขึ้น
“ตอนชิงแชมป์ประเทศไทยผมก็ยังเริ่มทำงานไม่ได้ เพราะ กกท. ยังไม่รับรอง หลายคนก็สอบถามเข้ามา ผมเป็นคนกีฬา มีสปิริต ตั้งใจทำงาน แต่ไม่ดึงดัน ถ้า กกท. บอกมาว่า ผมติดขัดคุณสมบัติไม่ได้อย่างไร ผมก็พร้อมจะถอยออกมา เพราะต้องการรักษาชื่อเสียงของผมเอง และชื่อเสียงของสมาคมฯ ตอนนี้ผมจะทำอะไรก็ทำไม่ได้ ฝ่ายกฎหมายผมก็มาบอกว่า ได้ข้อมูลมาระดับหนึ่ง ข้อเท็จจริงไม่รู้เป็นยังไง ยังไม่ได้คุยกันในสมาคม ถ้าเป็นที่เรื่องคุณสมบัติของตัวผมเองผมก็พร้อมจะถอย ผมบอกตามตรงตอนนี้ผมไม่สบายใจถ้าคุณสมบัติของผมเป็นประเด็น ถ้ามันไม่สมบูรณ์ตามกฎหมาย ก็ขอให้แจ้งมา แต่ตอนนนี้ผมจะรอฟังคำตอบจากทาง กกท. เสียก่อนว่า ยังไม่รับจดทะเบียนรับรองผมเป็นนายกสมาคมกีฬาคิกบ็อกซิ่งฯ เพราะอะไร” บิ๊กสมชายกล่าวทิ้งท้าย
