อูดิเนเซ่ระบุตัวแฟนบอลเหยียดเมญองได้แล้ว ประกาศแบนตลอดชีวิต
สโมสรอูดิเนเซ่ในลีกกัลโช่ เซเรียอา อิตาลี ประกาศแบนแฟนบอลรายหนึ่งซึ่งถูกระบุตัวว่าใช้ถ้อยคำและแสดงท่าทีเหยียดผิวไมก์ เมญอง นายทวารผิวดำของเอซี มิลาน ในเกมที่ทั้ง 2 ทีมเจอกันเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา
เกมดังกล่าวกลายเป็นประเด็นดราม่าเมื่อเมญองพยายามฟ้องผู้ตัดสินเรื่องโดนแฟนบอลเจ้าถิ่นตะโกนเหยียดผิวด้วยการร้องเสียงลิงล้อเลียน แต่แม้โฆษกสนามจะประกาศขอความร่วมมือจากแฟนๆ สถานการณ์ก็ยังไม่ดีขึ้น สุดท้ายนักเตะมิลานจึงพร้อมใจกันวอล์กเอาต์ออกจากสนามในนาที 38 และเกมต้องหยุดไปประมาณ 8 นาที ก่อนกลับมาแข่งกันต่อ
ภายหลังการแข่งขัน เจ้าหน้าที่สนามและเจ้าหน้าที่ตำรวจร่วมกันดูภาพจากกล้องวงจรปิดจนระบุตัวแฟนบอลรายหนึ่งที่เหยียดผิวเมญองได้ และกำลังหาตัวคนผิดเพิ่มเติมอยู่
แถลงการณ์ของอูดิเนเซ่ระบุว่า แฟนบอลรายดังกล่าวจะโดนแบนจากสนามตลอดชีวิตโดยมีผลทันที สโมสรให้ความสำคัญในการส่งข้อความว่าจะไม่มีพื้นที่ของการเหยียดผิวและเหยียดเชื้อชาติในวงการฟุตบอลหรือในสังคม และจะเร่งระบุตัวเพื่อลงโทษผู้กระทำผิดเพิ่มเติม ไม่ให้เป็นการเสื่อมเสียต่อสโมสรและเมืองอูดิเน่
ภายหลังเหตุการณ์ดังกล่าว จานนี่ อินฟานติโน่ ประธานสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟ่า) ได้โพสต์เอ็กซ์ (ทวิตเตอร์เดิม) ระบุถึงเหตุการณ์ในแมตช์นี้ รวมถึงเกมลีกแชมเปี้ยนชิพของอังกฤษที่เคซีย์ พาลเมอร์ นักเตะโคเวนทรี โดนเหยียดผิวในเกมเตะกับเชฟฟิลด์ เว้นด์สเดย์ ว่า นอกเหนือจากหลักปฏิบัติการ 3 ขั้นตอน ได้แก่ หยุดเกม หยุดเกมรอบสอง และยกเลิกเกมแล้ว ควรจะเพิ่มเติมกฎว่าให้ปรับแพ้ทีมที่แฟนบอลแสดงพฤติกรรมเหยียดผิวเข้าไปด้วย นำไปสู่การยกเลิกการแข่งขัน รวมทั้งแบนแฟนบอลที่แสดงพฤติกรรมเหล่านี้จากสนามฟุตบอลต่างๆ ทั่วโลก รวมทั้งแจ้งความดำเนินคดีด้วย
