‘มาดามแป้ง’ เชื่อมั่น ‘ช้างศึก’ ถึงแชมป์อาเซียน ยืนยันมีอัดฉีดอีกแน่นอน

‘มาดามแป้ง’ เชื่อมั่น ‘ช้างศึก’ ถึงแชมป์อาเซียน ยืนยันมีอัดฉีดอีกแน่นอน

ความเคลื่อนไหว “ช้างศึก” ทีมฟุตบอลทีมชาติไทย ที่จะลงสนามในศึกฟุตบอลชิงแชมป์อาเซียน “เอเอฟเอฟ มิตซูบิชิ อิเลคทริค คัพ 2022” รอบชิงชนะเลิศ นัดแรก พบกับ “ดาวทอง” เวียดนาม” ที่มีดิ่ง สเตเดียม ในค่ำวันนี้ (13 มกราคม) เวลา 19.30 น. ถ่ายทอดสดทางช่อง 9 MCOT30 และ T Sports 7 นั้น

ล่าสุดเมื่อช่วงเช้าวันที่ 13 มกราคม ที่โรงแรมไฮแอท รีเจนซี่ กรุงฮานอย ประเทศเวียดนาม “มาดามแป้ง” นางนวลพรรณ ล่ำซำ ผู้จัดการทีมฟุตบอลทีมชาติไทย เปิดโอกาสให้สื่อไทยและสื่อท้องถิ่น ได้สัมภาษณ์สื่อไทยและสื่อเวียดนามที่เดินทางมาทำข่าวติดขอบสนาม

มาดามแป้ง กล่าวว่า เกมวันนี้ถือว่าเป็นเกมที่หนักที่สุด ไทยกับเวียดนามไม่เคยเจอกันในรอบชิงชนะเลิศมา 15 ปีแล้ว ถึงปีก่อนจะเจอกันในรอบรองชนะเลิศแต่ก็เป็นสนามกลาง คราวนี้เป็นเหย้า-เยือนที่มีแฟนบอลเต็มสนาม และเวียดนามก็ได้เปรียบด้วยอันดับโลกที่สูงกว่า นักเตะฟูลทีมกว่า แต่เราต้องเชื่อมั่นในตัวผู้เล่นไทยถึงแม้จะไม่ใช่ชุดที่ดีที่สุดก็ตาม

Advertisement

“เรื่องของอัดฉีดได้มีการพูดคุยกับนักเตะเอาไว้แล้ว และยังมีเงินรางวัลจากทางเอเอฟเอฟราวๆ 10 ล้านบาทอีก แต่ส่วนนั้นคงจะให้เป็นทางสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ เป็นผู้จัดการเอง แต่ในส่วนตัวแล้วจะมีเพิ่มให้อีกแน่นอนถ้าได้แชมป์” มาดามแป้ง กล่าว

ผู้จัดการทีมช้างศึก กล่าวต่อว่า สภาพสนามดูจากในรูปนั้นเล่นยากแน่นอน แต่นักเตะหลายคนเคยผ่านการเล่นที่สนามแห่งนี้มาแล้ว แฟนบอลของเวียดนามมีอารมณ์ร่วมค่อนข้างสูง ได้เห็นแฟนบอลเยอะตั้งแต่ตอนซีเกมส์ แม้ว่าจะไปเล่นที่สนามนามดิงห์ก็ตาม อย่างไรก็ตามไทยกับเวียดนามเป็นเพื่อนบ้านกัน ยังไงก็ต้องเจอกันตลอดอยู่แล้ว สิ่งที่อยากเห็นคือมิตรภาพหลังเกมมากกว่า แน่นอนว่าใน 90 นาทีเราต้องการชัยชนะ แต่มิตรภาพก็สำคัญ เราผ่านการเจอกับอินโดนีเซีย และมาเลเซีย ที่มีแฟนบอลเยอะมาแล้ว ดังนั้นนัดนี้ก็จะผ่านไปได้เช่นกัน

“จากวันนี้ไปจนถึงวันที่ 16 มกราคมจะเป็นช่วงเวลาที่สำคัญ ที่เราจะแสดงให้เห็นถึงการเป็นแชมป์อาเซียนอีกครั้งหนึ่ง” มาดามแป้ง กล่าวปิดท้าย

Advertisement

ก่อนหน้านี้ มาดามแป้ง ได้อัดฉีดให้กับทีมชาติไทยชุดนี้ไปแล้วทั้งสิ้น 10 ล้านบาท แบ่งเป็นผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศ 5 ล้านบาท และเข้าชิงชนะเลิศอีก 5 ล้านบาท

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image