ช่วงตลาดซื้อขายนักเตะซัมเมอร์ที่ผ่านมา มีกระแสข่าวหนาหูว่า แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สนใจอยากได้ตัว ชอน ลองสต๊าฟ กองกลางวัย 21 ปี ของ นิวคาสเซิล แต่สุดท้ายก็ไม่มีดีลดังกล่าวเกิดขึ้น
เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ปีศาจแดงไปเยือนสาลิกาดงในเกมพรีเมียร์ลีก นอกจากแฟนผีจะได้เห็นฝีเท้าของลองสต๊าฟเต็มๆ ตาแล้ว ยัง “จุก” กับประตูชัยของ แมทธิว ลองสต๊าฟ น้องชายวัย 19 ปีของชอนอีกต่างหาก!
พี่น้องคู่นี้ยืนเป็นมิดฟิลด์คู่กลางให้กับนิวคาสเซิลในเกมที่เซนต์เจมส์ปาร์ก เป็นการประเดิมสนามในแมตช์อย่างเป็นทางการนัดแรกของลองสต๊าฟคนน้องหลังจากเพิ่งขยับขึ้นมาจากระดับเยาวชนของสโมสร
โดยก่อนหน้านี้แมทธิวเคยลงเล่นคู่กับพี่ชายในศึก พรีเมียร์ลีก เอเชีย โทรฟี่ พบ เวสต์แฮม ที่ประเทศจีน ช่วงพรีซีซั่นมาแล้วหนหนึ่ง
พี่น้องลองสต๊าฟนับเป็นพี่น้องคู่แรกที่เล่นให้ทีมชุดใหญ่ของนิวคาสเซิลต่อจาก โชล่า และ แซมมี่ อาเมโอบี้ เมื่อหลายปีที่แล้ว
ฝันที่เป็นจริงของสองพี่น้องนั้น คนที่มองอย่างภาคภูมิใจเป็นพิเศษคงไม่พ้นผู้เป็นพ่อ เดวิด ลองสต๊าฟ ซึ่งหลายคนอาจจะไม่รู้ว่าเป็นบุคคลสำคัญที่มีชื่อเสียงในแวดวงกีฬาของสหราชอาณาจักรพอสมควร
เนื่องด้วยพ่อของพี่น้องลองสต๊าฟเป็นนักกีฬาฮอกกี้น้ำแข็งอาชีพเคยสังกัดทีม นิวคาสเซิล ไวเปอร์ส และ เชฟฟิลด์ สตีลเลอร์ส เคยติดทีมชาติสหราชอาณาจักรและได้รับการยกย่องว่าเป็นนักกีฬาฮอกกี้น้ำแข็งที่เก่งที่สุดในประเทศในยุคของตัวเอง
ภาพของเดวิดถูกประดับไว้ในศูนย์กีฬาฮอกกี้น้ำแข็งแห่งชาติที่เมืองน็อตติงแฮม และทุกวันนี้เขาก็ยังทำหน้าที่โค้ชควบนักกีฬาให้กับทีม วิตลีย์ วอร์ริเออร์ส อยู่
ที่น่ารักก็คือ เวลาคุณพ่อไปทำงานกับทีมวอร์ริเออร์ส ถ้าสองพี่น้องไม่มีตารางงานในวันนั้น ทั้งชอนและแม็ตตี้ก็จะติดสอยห้อยตามช่วยคุณพ่อขนอุปกรณ์ไปที่ลานน้ำแข็งด้วย
ความที่มาจากครอบครัวนักกีฬา คุณพ่อจึงมีบทบาทต่อแนวคิดและวิธีปฏิบัติของลูกๆ ในเส้นทางนี้พอสมควi อย่างหลังแมตช์กับ เลสเตอร์ ซิตี้ ที่นิวคาสเซิลแพ้เละ 0-5 ชอนก็รู้สึกค้างคาและหงุดหงิดตัวเองอยู่นาน
กระทั่งได้คุยกับกุนซือ สตีฟ บรู๊ซ รวมถึงได้ฟังคำสอนและคำแนะนำจากคุณพ่อในกลางสัปดาห์ ทำให้ตั้งหลักกลับมาได้ และเมื่อน้องชายได้มายืนข้างๆ ในสนามอีก ก็ยิ่งมีกำลังใจมากขึ้น
บรู๊ซกล่าวถึงครอบครัวลองสต๊าฟว่า เป็นครอบครัวนักกีฬาที่ภาคภูมิใจในประวัติในวงการกีฬาของตัวเองอย่างมาก แน่นอนว่าแค่ลูกชายคนหนึ่งได้เล่นฟุตบอลอาชีพก็น่าปลื้มแล้ว นี่เล่นถึง 2 คน ทั้งยังอายุแค่เพียง 19 และ 21 ปีเท่านั้น เป็นเรื่องที่พิเศษมากๆ
บรู๊ซกล่าวชมแม็ตตี้ว่า เป็นเด็กรุ่นใหม่ไฟแรง มีความมุ่งมั่นสูง ดูเขารักและสนุกที่จะได้เล่นฟุตบอลตั้งแต่ช่วงพรีซีซั่นแล้ว ได้ดูฟอร์มเวลากระชากบอลในช่วงซ้อมแล้วก็รู้สึกชื่นชม
แต่เมื่อได้เห็นในเกมระดับนี้กับทีมอย่างแมนฯยูถือว่ายอดเยี่ยม เพราะนักเตะหลายคนอายุ 20 กว่าแล้ว ยังไม่เคยสัมผัสกับชัยชนะเหนือปีศาจแดงมาก่อน แต่เขาทำได้ตั้งแต่นัดแรกที่ลงสนาม
ด้านเดวิด คุณพ่อของสองพี่น้องกล่าวในเช้าวันรุ่งขึ้นหลังจากเกมดังกล่าวว่า ยังช็อกไม่หายและภูมิใจมากๆ ทั้งครอบครัวภูมิใจกับผลงานของลูกๆ จนบรรยายออกมาเป็นคำพูดไม่ถูก เพราะไม่ใช่ทุกวันแล้วจะตื่นมากับโมเมนต์ที่ลูกชายสองคนช่วยทีมเอาชนะแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้
ก่อนที่คุณพ่อยอดนักกีฬาจะทิ้งท้ายว่า “เป็นเรื่องดีที่จะสนุกกับโมเมนต์ในเวลานี้ แต่เชื่อว่าเด็กๆ จะกลับมามุ่งมั่นตั้งใจฝึกซ้อมอย่างเต็มที่อีกครั้งในสัปดาห์นี้แน่นอน”
เป็นหลักการที่เปี่ยมไปด้วยวินัย สมกับที่เป็นนักกีฬาระดับตำนานของประเทศอย่างแท้จริง
