| ผู้เขียน | Stivie T |
|---|
คอลัมน์ เกรียนเขียนบอล By Stivie T : แด่เธอที่รัก
บางครั้งเราไม่รู้หรอกว่าคนคนหนึ่งต้องแบกรับอะไรเอาไว้มากแค่ไหนในช่วงเวลาหนึ่ง
ท่ามกลางผลงานที่ย่ำแย่ของ “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล ในช่วงที่ผ่านมาที่หลายคนนั้นพยายามหาคำตอบว่าเกิดอะไรขึ้นกับยอดทีมที่มีผลงานในบ้านเป็นที่ประจักษ์มากๆ ไม่เคยแพ้ใครมาถึง 68 เกมติดต่อกัน จะพลาดท่า “คาบ้าน” ถึง 3 นัดติดแบบนี้
จนสุดท้ายได้มีการเปิดปมขึ้นมาปมหนึ่ง นั่นคือการสูญเสีย อลิซาเบ็ธ คล็อปป์ บุคคลอันเป็นที่รักที่สุดของ เยอร์เก้น คล็อปป์ กุนซือของหงส์แดง
ช่วงเย็นวันที่ 10 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา มีการออกมาเปิดเผยว่า มารดาของคล็อปป์นั้นได้จากโลกไปอย่างสงบ และกุนซือชาวเยอรมันก็ไม่สามารถเดินทางกลับไปร่วมพิธีได้ด้วย เพราะกฎของเยอรมนีที่ห้ามคนจากอังกฤษเดินทางเข้า เพราะการแพร่ระบาดอย่างหนักของโควิด-19 ที่เป็นสายพันธุ์ใหม่
แค่เรื่องตรงนี้ก็นับว่าเศร้าแล้ว แต่บิลด์ สื่อใหญ่ในเมืองเบียร์ ออกมาเผยข้อมูลที่ลึกกว่านั้นคือจริงๆ แล้ว แม่ของคล็อปป์ เสียชีวิตไปตั้งแต่ 19 มกราคม หรือ 2 วันก่อนเปิดซีรีส์ทริปเปิลคาบ้าน ต่อเบิร์นลีย์ และคล็อปป์เองก็เก็บงำความลับนี้เอาไว้ โดยที่ไม่มีใครในทีมรู้แม้แต่คนเดียว
ขณะที่พิธีการต่างๆ ถูกจัดไปเรียบร้อย แต่ว่าไร้เงาลูกชายของอลิซาเบ็ธ คล็อปป์ กลับไปร่วมพิธี เพราะการงานและกฎระเบียบที่มีในตอนนี้
ถ้าลองมองย้อนกลับไป สิ่งหนึ่งที่หลายคนอาจจะไม่ได้สังเกตุคือในช่วง 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมา กุนซือชาวเยอรมัน มีสีหน้าที่ค่อนข้างอมทุกข์อยู่บ่อยครั้ง ราวกับว่าจิตใจของเขาไม่อยู่กับเนื้อกับตัว
หรือภาพการชูกำปั้นขึ้นสู่ท้องฟ้า เมื่อตอนที่โรแบร์โต้ ฟิร์มิโน่ พังประตูแรกในเกมที่ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ สเตเดียม เหมือนเป็นการคลายความกดดันที่มันจุกอกอยู่ในเวลานั้นก็ได้
สิ่งหนึ่งที่น่าชื่นชมอย่างมากสำหรับคล็อปป์ก็คือความเป็นมืออาชีพอย่างมาก เขาพยายามทำหน้าที่ของตัวเองอย่างเต็มที่ และได้เพียงรอโอกาสที่เหมาะสม ที่จะกลับไปยังบ้าน เพื่อจัดพิธีให้กับคุณแม่ของเขาอีกครั้ง
ที่ผ่านมาเราไม่ค่อยเห็นคล็อปป์พูดถึงแม่ตัวเองสักเท่าไหร่ อย่างในภาพยนต์สารคดี The End of The Strom ซึ่งนำเสนอเรื่องราวการเป็นแชมป์ลีกของลิเวอร์พูล ที่เข้าโรงภาพยนต์ในบ้านเราอยู่ตอนนี้ เราได้เห็นคล็อปป์ พูดถึงพ่อของตัวเองเป็นส่วนใหญ่
การปลดปล่อยความลับนี้ออกมา บางทีตัวคล็อปป์อาจจะไม่ได้อยากพูดถึงมันมากก็จริง แต่อย่างน้อยเขาก็ไม่ต้องรับมือกับมันคนเดียวอีกต่อไป
เขาสามารถมองหันไปหาทีมงาน, นักเตะในทีม รวมถึงแฟนบอล ที่พร้อมจะอยู่ข้างๆ ตามสโลแกนเสมอว่า “เราจะไม่มีวันเดินเดียวดาย”
เพื่อให้คล็อปป์ปลุกทีมขึ้นมา ไม่ใช่เพื่อใคร แต่เป็นเพื่อคนที่เขารักที่สุด ที่จากไปอย่างไม่มีวันกลับนั่นเอง
