“ชาดา” ลั่น จะให้ผมทำในนามแอร์ฟอร์ซ ผมก็ไม่เอา ก่อนโพสต์เล่ายาวเหยียด หลังทีมฟุตบอลอุทัย เจอปัญหาใหญ่
วันที่ 27 พ.ค.65 กลายเป็นอีกหนึ่งประเด็นใหญ่ หลังนายชาดา ไทยเศรษฐ์ รองหัวหน้าพรรคภูมิใจ ไทย สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดอุทัยธานี เขต 2 ได้ออกมาตั้งโพสต์ ถึงประเด็น ความเป็นมาของฟุตบอลทีมอุทัยและอนาคตทีมอุทัยน่าจะไปทางใด พร้อมกับทิ้งท้ายว่า “ขอผมพูดบ้างนะครับ{มีต่อ}” จึงทำให้เกิดข้อสงสัยว่า ฟุตบอลทีมอุทัยธานี ที่ดูเหมือนขณะนี้กำลังจะไปได้สวยงามเอามากๆ หลังเดินหน้าคว้าแชมป์ มาได้หลายสนาม แต่กลับเกิดปัญหาวงในอะไรขึ้น
โดยต่อมา เวลาประมาณ 16.47 น. วันนี้ นายชาดา ไทยเศรษฐ์ ได้ทำการโพสต์ เล่าเรื่องราวและประเด็นต่างๆว่า ” [ฟุตบอลอุทัย ต่อ] ทีมบอลในชื่ออุทัยฟอเรสท์ นั้นยุติไปตามกฎหมาย ต่อมา ทนายเด็กอุทัยได้พาคุณพีมาหาผม ว่าแอร์ฟอร์ซ มีปัญหากับกองทัพอากาศ จะขอมาใช้ชื่อทีมอุทัย ผมเห็นว่าโอเคเราจะได้ประโยชน์ไม่ต้องไล่ระดับใหม่ เริ่มทำได้สักระยะ เสี่ยชัยกรุณาให้สนับสนุนเงินมา ผมได้บอกกับเสี่ยชัยไปว่า สนับสนุนขนาดนี้เอาทีมไปทำเองเลยจะได้ชัดเจน เสี่ยชัยตกลงทำเองโดยเป้าหมายคือการโอนแอร์ฟอร์ซมาเป็นของอุทัยตามกฎหมาย ผมทราบว่าเสี่ยชัยก็ได้จ่ายเงินไปแล้ว
ต่อมาผมกลับจากต่างประเทศ น้องเบนซ์กับเสี่ยชัยโทรมาบอกว่าจะเลิกทำฟุตบอล ผมก็งงไปเลย ตกใจมาก เพราะมันกะทันหันมาก ถามว่ามีเหตุอะไรอื่นหรือป่าว เสี่ยชัยยืนยันว่าไม่มี ต่อมาเสี่ยชัยโทรมาบอกว่ากรณี บีบางประกง ลงเฟสนั้นเสี่ยชัยไม่สบายใจ และไม่เคยให้ข่าว กลัวว่าผมจะเข้าใจผิด ผมตอบเสี่ยชัยว่าผมไม่รู้บีเขียนอย่างไร มีคนพูดให้ฟังผ่านๆผมเชื่อว่าคนอย่างเสี่ยชัยไม่ทำแน่ สบายใจได้ ผมไม่โกรธเสี่ยชัย
โดยความจริงแล้วช่วงนี้ผมวุ่นวายเรื่องกฎหมายอ้อย ที่กำลังจะเข้าไม่เข้ากฎหมายงบประมาณปี 66 เข้าแก้รัฐธรรมนูญอีก ผมไม่รู้เรื่องข่าว และเสี่ยชัยก็ไม่สบายใจ ผมเองเข้าใจเสี่ยชัยดี แต่ที่ผมช็อคเรื่องเลิกทำบอล คือโครงการมีสนามมีอะไรเตรียมหลายอย่างช่วงน้องเบนซ์ทำ ผมไม่สนับสนุนอะไรเลยสักบาทมีแต่อัดฉีดบ้างบางครั้ง ยังคิดว่าจะช่วยอย่างไรดีเพราะมันต้องใช้เงินพอสมควร จนเมื่อสองวันนี้ลูกผมขอคุยกับผมว่าอย่าทำฟุตบอลเด็ดขาด ตอนนี้กระแสหาว่าไปแย่งเค้ามา เห็นเค้าทำดี ผมบอกลูกว่าอย่าไปสนใจ คนบ้านเราเขาเข้าใจเราดี ลูกบอกว่าคนอุทัยเค้าว่าพ่อกัน ผมก็คิดเลยว่าจะต้องลงเฟสเพื่อชี้แจง
และสิ่งที่ผมอยากบอกกับสังคม คือผมทำไม่ไหวครับ ทุกวันนี้ผมรับผิดชอบเรื่องของรายจ่ายนอกระบบไม่ใช่เรื่องผิดกฎหมายและไม่ได้ลำเลิกนะครับ ขอยกตัวอย่างเรื่องใหม่ครับ พี่น้องเกษตรกรกลุ่มส้มโอจะไปดูงานการปลูกส้มโอส่งออก มีรถแต่ขาดค่าน้ำมันค่าอาหาร กู้ภัยปฎิบัติหน้าที่รถยนต์เกิดอุบัติเหตุต้องชดใช้ค่ารถคู่กรณี ไหนจะคอมเด็กๆอีก เด็กประถมของอุทัยกว่า 7,000 คน ที่กระทรวงศึกษาปล่อยเป็นคนชั้นสองของประเทศ เหตุการณ์โควิดที่ผ่านมาก็ต้องใช้เงินเป็นจำนวนมากครับ ทุกวันนี้ก็หนัก ถ้าน้องเบนซ์ทำผมก็สบายใจ
แต่ที่สำคัญคือ วันนี้ทีมนี้ยังเป็นชื่อคุณพี ผมบอกเสี่ยชัยไปแล้วว่า ต้องโอนเป็นของชัยหรือน้องเบนซ์ ถ้าใครจะทำก็ว่ากันไป เพราะที่ผ่านมาบอกว่าผมเป็นประธานสโมสร ซึ่งมันไม่ใช่ ผมว่าถ้าไม่โอนมาเหมือนกับสิ่งน้องเบนซ์ทำมาก็ไม่มีคุณค่าใดๆเลย จะให้ผมทำในนามแอร์ฟอร์ซ ผมก็ไม่เอา และที่สำคัญถ้าโอนมาชื่อเบนซ์ ใครจะทำต่อก็รับไปเป็นชื่ออุทัยธานีเอฟซี และเบนซ์เป็นคนเริ่มต้น เป็นเกียรติยศกับตระกูลปั้นงาม ถ้าทำไปไม่รอดก็ไม่เกี่ยวกับน้อง ผมเองก็คิดหนักว่าทำอย่างไรดี ความเป็นชาดามันหาทางดิ้นรนแต่ไม่ใช่อุทัยเอฟซี ผมบอกได้เลยผมไม่ทำ
ผมเวลาก็ไม่มีต้องหาเงินอีก ถือว่าเรื่องชัดทำไม่ดีโดนอีก ยังไม่ทันไรก็โดนโดยใช่เหตุ ยังเสียใจกับกองเชียร์กับคนอุทัยเลยว่าไปเชื่อคนอื่น ผมถือว่าใครจะมองผมเช่นไรผมไม่สน แต่คนอุทัยเข้าใจผมดี ถึงวันนี้ผมยังไม่รู้เลยเค้าเอาอย่างไรกัน คนที่เหมาะสมที่สุดในโลกที่ทำทีมอุทัยคือน้องเบนซ์ครับ
เขียนยาวต้องขอโทษที่รบกวนเวลาทุกท่าน จริงๆแล้วยาวกว่านี้อีกครับ ขอบคุณทุกท่านที่อ่านจนจบครับ”
