ที่มา | อาทิตย์สุขสรรค์ มติชนรายวัน |
---|---|
ผู้เขียน | ชม นำพา [email protected] |
เผยแพร่ |
ด้วยความที่ร้านอาหารญี่ปุ่นฟิวชั่นมักมีการพลิกแพลงเรื่องการใช้วัตถุดิบ การปรุง และการนำเสนอที่สนุก ที่สำคัญอร่อยถูกปาก ทำให้อาหารญี่ปุ่นสไตล์นี้ได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ
ในกรุงเทพฯบอกเลยว่ามีให้เลือกเยอะ แต่ตัวเลือกเด็ดๆ ที่ไม่อยากให้พลาด คือ ร้าน KOI ตั้งอยู่ที่อาคารสาทรสแควร์ ชั้น 39
ร้านนี้ออกเสียงว่า “คอย” เป็นร้านอาหารญี่ปุ่นที่เปิดตัวสาขาแรกที่ลอสแองเจลิสในปี 2545 เปิดมาก็เรียกเสียงว้าวจากชาวแคลิฟอร์เนียได้อย่างน่าปลื้มใจ ผลตอบรับเกินคาดจนต้องขยายสาขาอีกหลายแห่ง ทั้งที่นิวยอร์ก ลาสเวกัส อาบูดาบี และที่กรุงเทพฯ
ร้าน KOI พิกัดอยู่ที่อาคารสาทรสแควร์ ชั้น 39 การเดินทางมาไม่ยาก นั่ง BTS ลงสถานีช่องนนทรี ตรงทางออก 1 จะมีทางเชื่อมเดินเข้าตึกได้เลย
มาค่ะ ไปสัมผัสบรรยากาศร้านกัน การตกแต่งของที่ร้านยังคงความเป็นธรรมชาติเรียบง่ายแบบญี่ปุ่น แต่แฝงไว้ด้วยความหรูหราทันสมัย กระจกใสบานใหญ่ให้ความรู้สึกโล่งโปร่งสบาย ทั้งยังมองเห็นวิวกรุงเทพฯกว้างไกลสุดสายตา แค่บรรยากาศก็กินขาดแล้วค่ะ
เราสั่งของเรียกน้ำย่อยมาก่อน เกี๊ยวซ่าโฮมเมด 4 ชิ้น จานนี้ได้ฟินกับความนุ่มของไส้เนื้อกุ้งล้วนๆ ในราคา 200 บาท ต่อด้วย ไคเซนสลัด 380 บาท เป็นสลัดซาชิมิรวม น้ำสลัดงาที่ปรุงสูตรพิเศษจากหอมใหญ่ คีบกันคนละหมุบละหมับแป๊บเดียวเกลี้ยงชาม
แซลมอนทาทากิ ราคา 260 บาท เชฟนำแซลมอนซาชิมิไปลนไฟ ได้แซลมอนรสมันเนื้อฉ่ำเสิร์ฟบนซอสพอนสึเปรี้ยวนิดๆ กินกับหอมใหญ่สไลซ์บางๆ ที่โรยหน้ามา จานนี้ปลื้มยกโต๊ะ
ชิราชิด้ง 540 บาท เป็นซาชิมิรวมเสิร์ฟบนข้าวญี่ปุ่น มีสารพัดปลา ตั้งแต่ทูน่า ปลาหางเหลือง แซลมอน ปลาเนื้อขาว หมึก ไข่หวาน หอยปีกนก ไข่กุ้ง ปูอัด และไข่ปลา
สำหรับคนชอบเบนโตะ แนะนำให้ลอง เบนโตะสเต๊กเนื้อออสเตรเลียผัดกระเทียมและซอสถั่วเหลือง ราคา 650 บาท สเต๊กเนื้อก้อนเล็กพอดีคำ เสิร์ฟพร้อม สลัดปูอโวคาโด เทมปุระกุ้งราดด้วยซอสสไปซี่มาโย โคบาชิหรืออาหารเรียกน้ำย่อยประจำสัปดาห์ (วันที่มาเชฟเสิร์ฟเป็นซูชิโรลชุบแป้งทอด) และข้าวผัดกระเทียม สำหรับคนที่สั่งเบนโตะจะมีซุปมิโสะ ผลไม้หั่นสด และชาเขียว เสิร์ฟให้ด้วย
นอกจากเมนูปกติที่ร้านยังมีลูกเล่นพิเศษ คือ จะมีเมนูพิเศษประจำเดือน อย่างเดือนสิงหาคม-กันยายนนี้ มี เบนโตะยากิซาบะ ราคา 320 บาท เป็นซาบะนอร์เวย์ที่ย่างบนเตาถ่าน เลือกปรุงรสได้ว่าจะเอา ซาบะเกลือทะเล หรือ ซาบะซอสเทริยากิ เสิร์ฟพร้อม ซุปมิโสะ สลัดผักรวม โคบายาชิประจำวัน ข้าวญี่ปุ่น และผักดอง จานผลไม้หั่นสด ขนมหวานประจำวันและชาเขียว
จานนี้ขอบอกว่าพลาดไม่ได้เลย ดูเป็นเมนูธรรมดาๆ ก็จริง แต่วิธีปรุงซาบะจัดว่าเด็ดมาก หนังแห้งกรอบ เนื้อในนุ่ม หอม อร่อยจนต้องซักว่าเชฟทำยังไง ก็ได้คำตอบมาว่าเชฟใช้เทคนิคพิเศษ คือ เอาเนื้อปลาไปดองกับน้ำปรุงสูตรพิเศษเพื่อดับกลิ่นคาว แล้วย่างเตาถ่านไฟอ่อนให้เนื้อปลาฟูนุ่ม ขณะที่ผิวนอกกรอบ เรียกว่าเป็นเทคนิคที่แอดวานซ์มากค่ะ
ตัวเลือกอีกอย่างของเมนูพิเศษประจำเดือนสิงหาคม-กันยายน คือ ชุดคุโรบูตะ คัทสึนิ ราคา 320 บาทเช่นกัน เป็นหมูดำคุโรบูตะทอดราดด้วยไข่ไก่และน้ำซุป เสิร์ฟพร้อม ซุปมิโสะ สลัดผักรวม ไข่ตุ๋น ข้าวญี่ปุ่น และผักดอง จานผลไม้หั่นสด ขนมหวานประจำวันและชาเขียว
นอกจากนี้ ยังมีอาหารที่เชฟแนะนำอีกหลายอย่างที่ต้องมาลองชิมกัน อย่างเช่น Crispy Rice topped with Spicy Tuna 450 บาท เป็นเมนูสตาร์ตเตอร์ที่ขายดีที่สุดของ Koi L.A. ในปี 2009 โดยมีรสชาติของเครื่องเทศไทยและเป็นเมนูที่ผสมผสานรสชาติของทั้งสองประเทศได้อย่างลงตัว ถึงเมนูนี้จะมีในร้านอื่น แต่ต้นกำเนิดคือ KOI จึงเป็นเมนูที่ต้องมาลองของที่นี่
Geleno Roll 580 บาท เมนูคลาสสิกของคอยที่มีส่วนผสมของสไปซี่ทูน่า แตงกวา ผักโขมกรอบ หอมใหญ่ และซอสคูซูพอนสึที่ได้รับรางวัลและเป็นที่นิยมของลูกค้าประจำ
Foie Gras & Seared Japanese Wagyu Sushi Fig Soy Glaze 1200 บาท เป็นการผสมผสานรสชาติที่กำลังพอดีจากฟัวกราส์ที่ละลายในปากกับรสชาติเข้มข้นของเนื้อวากิวและความหวานน้อยๆ จากซอสลูกฟิก เป็นเมนูที่เหมาะกับจานกลางเสิร์ฟแบบร้อน
ส่วนคนที่ชอบรสจัดจ้านขึ้นมาหน่อย ควรลอง Miso Bronzed Black Cod Saikyo Miso 990 บาท เสิร์ฟพร้อมผักสดสีสันสวยงาม ปลาคอดที่หมักไว้ในมิโสะสูตรพิเศษนาน 48 ชั่วโมง รับประทานคู่กับสาเก หรือ Chardonnay ดีมาก
สารพัดเมนูที่ว่ามานี้ อยู่ภายใต้การควบคุมของ เชฟฮิซาชิ อิวาตะ ซึ่งเป็นหัวหน้าเชฟ
ประสบการณ์เชฟไม่ธรรมดาเลย เชฟเริ่มจากศิลปะดั้งเดิมของการปรุงอาหารญี่ปุ่นแบบพื้นเมืองของเมืองโกเบ หลังจากนั้นเดินทางไปอเมริกา เริ่มต้นที่นิวยอร์ก ต่อด้วยลอสแองเจลิส ในฐานะพ่อครัวผู้บริหารฝ่ายซูชิ ทะยานขึ้นเป็นเชฟระดับโลก สั่งสมประสบการณ์และความเป็นตัวตน จนฝีมือจัดจ้านมีสไตล์เป็นของตัวเอง เดินทางมาประจำการเป็นพ่อครัวใหญ่ที่ร้านอาหาร KOI Bangkok ตั้งแต่ปี 2553 จนถึงปัจจุบัน
เชฟฮิซาชิยังเป็นผู้นำแวดวงฟิวชั่นญี่ปุ่นของกรุงเทพฯ มีวิธีการที่โดดเด่นและสร้างสรรค์ ทดลองทำอาหารกับส่วนผสมที่ไม่ใช่แบบดั้งเดิม เช่น พริกฮาลาปินโญ่ โหระพา มะม่วง และเสาวรส ทำให้เมนูที่กรุงเทพฯสนุกขึ้นมาก
ใครสนใจแนะนำให้สำรองที่นั่งล่วงหน้า โทร 0-2036-8899, 08-0353-5197 เวลาให้บริการ จันทร์-เสาร์ มื้อเที่ยง 11.30-14.30 น. ส่วนมื้อค่ำทุกวัน 18.00-23.30 น. หรือ ดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่เฟซบุ๊ก www.facebook.com/koirestaurantbkk