‘คิง เพาเวอร์ ไทย เพาเวอร์’ พาทัวร์ เมืองนครศรีฯ สัมผัส ‘พลังคนไทย’

‘คิง เพาเวอร์ ไทย เพาเวอร์’ พาทัวร์ เมืองนครศรีฯ สัมผัส ’พลังคนไทย’

“คิง เพาเวอร์” จัดทริปไปจังหวัดนครศรีธรรมราชระหว่างวันที่ 30 มีนาคม ถึง 1 เมษายน ที่ผ่านมา ขับเน้นให้เห็น “พลังคนไทย”

ทำให้ชาวคณะที่ร่วมเดินทางได้สัมผัสกับเอกลักษณ์ของนครศรีธรรมราช

วันแรกเมื่อเดินทางไปถึง ทุกคนได้ลิ้มลองรสชาติอาหาร นั่นคือ “ขนมจีนน้ำยา”

จังหวัดนครศรีธรรมราช ขึ้นชื่อเรื่องขนมจีนน้ำยา ชาวเมืองนครศรีฯ รับประทานขนมจีนกันตั้งแต่เช้า น้ำยาที่ได้รับประทานเป็นน้ำยาปู น้ำยา น้ำพริก แกงเขียวหวาน

Advertisement

เมื่อราดลงบนขนมจีนสดเส้นเล็ก เวลาตักเข้าปากแล้วให้รสชาติเอร็ดอร่อย หลายร้านที่นั่นปรับรสชาติไม่ให้เผ็ดมาก ทำให้นักท่องเที่ยวที่ไปเยือนสามารถรับประทานได้

ส่วนใครที่นิยมรับประทานผัก ขอบอกให้ไปลอง เพราะขนมจีนน้ำยารับประทานพร้อมผักสด เป็นรสชาติเด็ดสะระตี่

เมื่อท้องอิ่มก็ถึงเวลาไปไหว้พระ ชาวคณะเดินทางไปนมัสการพระบรมธาตุเจดีย์ ณ วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร นครศรีธรรมราช

Advertisement

จังหวัดนครศรีธรรมราชเป็นเมืองเก่า มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ เป็นเมืองสำคัญของอาณาจักร “ตามพรลิงค์” มีประวัติศาสตร์ทางพุทธศาสนามายาวนาน

ผู้ครองนครศรีธรรมราชฝักใฝ่พระพุทธศาสนา และสร้างพระบรมธาตุเจดีย์ภายในวัด

ยอดเจดีย์เป็นทองคำ ตัวเจดีย์รูประฆังคว่ำใหญ่โต ชาวคณะมีโอกาสได้ทอดผ้ารอบฐานเจดีย์ เพื่อเป็นสิริมงคล วัดพระมหาธาตุฯ นครศรีธรรมราช ไทยเสนอให้เป็นมรดกโลก ขณะนี้กำลังรอผลการพิจารณา

อิ่มบุญกันแล้ว ออกเดินทางกันต่อ

คราวนี้เป้าหมายคือ วัดเจดีย์ หลายคนไม่รู้จัก แต่ถ้าบอกว่าวัดดังกล่าวคือที่พำนักของ “ไอ้ไข่ เด็กวัดเจดีย์” หลายคนคงร้องอ๋อ

“ไอ้ไข่” เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ตามความเชื่อของคนที่เชื่อ

มีเรื่องเล่าเกี่่ยวกับ “ไอ้ไข่” หลากหลาย สรุปคือเป็นวิญญาณเด็กชายอยู่ที่วัดเจดีย์แห่งนี้

ผู้คนเชื่อว่า วิญญาณ “ไอ้ไข่” ให้โชคลาภแก่ผู้มาขอพร

ชื่อเสียง “ไอ้ไข่” โด่งดังมากโดยเฉพาะวงการคนเล่นหวย

อิทธิฤทธิ์จากความเชื่อ ทำให้ผู้คนทั่วสารทิศเดินทางไปเยือนจังหวัดนครศรีธรรมราช ผลักดันให้เศรษฐกิจภายในจังหวัดเฟื่องฟูสวนทางกับจังหวัดอื่นๆ ที่ได้รับผลกระทบจากโรคโควิด-19 ระบาด

การเดินทางไปวัดเจดีย์สะดวกสบาย เมื่อเข้าใกล้วัดเจดีย์ สิ่งที่สังเกตเห็นคือรูปปั้นไก่ที่มีจำหน่ายในฐานะเครื่องไหว้

รูปไก่ปั้นส่วนใหญ่เป็นไก่โต้ง แต่ก็มีรูปไก่แจ้ปะปนอยู่

ใครจะไปไหว้ “ไอ้ไข่” สามารถแวะซื้อไก่เงินไก่ทอง ซื้อเครื่องไหว้ รวมไปถึงประทัดได้

เสียงจากชาวคณะถามกันให้แซ่ดถึงวิธีการไหว้ไอ้ไข่ คำตอบไม่ยาก เพราะที่วัดมีเจ้าหน้าที่ชี้แนะทุกขั้นตอน

เมื่อเดินทางไปถึงวัดเจดีย์ ลงจากรถเดินเข้าวัดผ่านโบสถ์ที่มีรูปแกะสลายสวยงาม จากนั้นจะมีเจ้าหน้าที่มาแนะนำ หรือไม่ก็ทำตามคนที่เขาไป
ถึงก่อน

เริ่มจากวางเครื่องไหว้บนโต๊ะ แล้วทำการไหว้เบื้องหน้ารูปวาดไอ้ไข่ ไหว้เสร็จเดินไปด้านใน คราวนี้ไหว้ “ไอ้ไข่” ที่เป็นรูปปั้น มีคาถาบูชา “ไอ้ไข่” ความว่า “อิติ อิติ กุมารไข่เจดีย์ จะมะหาเถโร ลาภะ ลาภา ภะวัน ตุเม”

จุดนี้ไหวด้วยธูปเทียนดอกไม้ ส่วนทองคำเปลวเอาไปแปะกับรูปปั้นไอ้ไข่ จบจากจุดนี้ เจ้าหน้าที่สะกิดชาวคณะให้ไปต่อ บอกว่า รูปปั้นไอ้ไข้ที่ไหว้นี้ยังไม่ใช่ “ออริจินัล” เราต้องเดินเข้าไปที่ศาลาด้านในเพื่อไหว้รูปไม้แกะสลักไอ้ไข่ซึ่งเป็นรูปแกะสลักแต่ดั้งเดิม

ไปไหว้อีกรอบ ขอพรอีกครั้ง จากนั้นเอาประทัดไปจุดที่ลานจุดประทัดด้านนอกวัด

ก่อนขึ้นรถกลับที่พัก เหลือบเห็นหลายคนร่วมคณะ แวะอุดหนุนลอตเตอรี่

ทุกคนต่างมีความหวัง ลุ้นจะได้รางวัลที่ 1 ในวันที่ 1 เมษายน

จบการเดินทางวันแรก พบเห็นความหลากหลายของนครศรีธรรมราช

ทั้งอาหาร โบราณสถาน และมีความเชื่อ น่าสังเกตว่าทุกอย่างมีเรื่องเล่า ขับเน้นเสน่ห์และความน่าสนใจ

รุ่งขึ้น วันที่ 31 มีนาคม คิง เพาเวอร์ พาไปหมู่บ้านคีรีวง อ.ลานสกา จ.นครศรีธรรมราช ไปดูความสำเร็จจากโครงการ “คิง เพาเวอร์ ไทย เพาเวอร์ พลังคนไทย” ณ ที่หมู่บ้านคีรีวง มีความโดดเด่นเรื่องการย้อมผ้าด้วยสีธรรมชาติ

คิง เพาเวอร์ นำเอาจุดเด่นดังกล่าวมาขยายผล โดยแนะนำให้เข้าร่วมในโครงการ “คิง เพาเวอร์ ไทย เพาเวอร์ พลังคนไทย” นำเทคนิคการย้อมมาใช้

โดยมีทีมดีไซเนอร์ให้คำปรึกษา กระทั่งผลิตของที่ระลึกของสโมสรฟุตบอล เลสเตอร์ ซิตี้ ขึ้นมาได้

เป็นเสื้อ เป็นผ้าพันคอ เป็นหมวก และอื่นๆ

เป็นสินค้าจากคีรีวงที่ไปวางจำหน่ายในประเทศอังกฤษ และทุกช่องทางจำหน่ายของคิง เพาเวอร์ ในไทย

ผลปรากฏว่า ทั้งชาวต่างชาติและคนไทยต่างชื่นชอบ

สินค้าหมดสต๊อก

ถือเป็นความสำเร็จที่เกิดขึ้นจากโครงการ “คิง เพาเวอร์ ไทย เพาเวอร์ พลังคนไทย”

อัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา

โครงการ “คิง เพาเวอร์ ไทย เพาเวอร์ พลังคนไทย” นี้ บริหารงานโดย นายอัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์

เป็นโครงการเพื่อสังคมที่มุ่งพัฒนาและส่งเสริมความสำเร็จของคนไทย 3 ด้านหลัก

หนึ่ง คือ ด้านกีฬา มีอีกหลายโครงการรองรับ เช่น โครงการ “ล้านลูก ล้านพลัง สร้างฝันเด็กไทย”

ส่งเสริมเด็กๆ ในพื้นที่ห่างไกลมีโอกาสเป็นเจ้าของลูกฟุตบอล โครงการ “100 สนามฟุตบอล สร้างพลังเยาวชนไทย” ซึ่งเป็นสนามหญ้าเทียม

และยังมีโครงการ “Fox Hunt” ที่คัดเด็กไทยฝีมือทางบอลเข้าขั้น ส่งไปศึกษาและฝึกฝนที่สโมสร เลสเตอร์ ซิตี้ ประเทศอังกฤษ

ขณะนี้ “Fox Hunt” รุ่นที่เรียนจบได้รับคัดเลือกให้เข้าไปเล่นอยู่ในไทยลีก

สอง คือ ด้านดนตรี มีความสำเร็จหลายอย่างปรากฏให้เห็น

ที่ผ่านมา คิง เพาเวอร์ สนับสนุน การประกวดวงดุริยางค์เครื่องเป่านานาชาติแห่งประเทศไทย หรือ TIWSC กระทั่งวงที่ได้ชนะการประกวด สามารถไปแสดงฝีมือให้โลกได้เห็น สามารถชนะรางวัลระดับโลกสร้างชื่อเสียงให้ไทย

TIWSC เป็นเวทีประกวดที่ได้รับการยอมรับจากนานาชาติ และมีนักดนตรีจำนวนมากต้องการคว้าชัย เพื่อพิสูจน์ความสามารถตัวเอง

ในปีนี้ TIWSC ได้ขยายโอกาสเส้นทางสู่นักดนตรีมืออาชีพกับ THE POWER BAND ด้วยการจัดเวทีประกวดวงดนตรีสากลสมัยนิยมผสมเครื่องเป่า ผนวกเข้าไปอยู่ในสาขาของการประกวด TIWSC ด้วย

สาม คือ ด้านชุมชน ผลผลิตจากคีรีวงสู่เลสเตอร์ ซิตี้ อยู่ในด้านนี้

เป็นด้านที่ คิง เพาเวอร์ ใช้จุดแข็งของเครือในฐานะผู้เชี่ยวชาญการค้าปลีก และการชาวต่างชาติ เข้าไปให้คำแนะนำและส่งเสริมผลิตภัณฑ์พื้นบ้าน และสินค้าฝีมือคนไทยจากชุมชน

ผลักดันให้นำสินค้าเหล่านั้นไปจำหน่ายต่างประเทศ

ผลผลิตจากคีรีวงก็เป็นหนึ่งในนี้

เทคนิคการย้อมที่มีเอกลักษณ์จากหมู่บ้านคีรีวง ได้กลายเป็นต้นกำเนิดของคอลเล็กชั่นของที่ระลึกสโมสรเลสเตอร์ ซิตี้ ประเทศอังกฤษ

ชื่อคอลเล็กชั่น From Leaves to Lively Thai Dye Collection

ชื่อนี้มีความหมาย โดยทริป คิง เพาเวอร์ เยือนหมู่บ้านคีรีวง ได้ทำให้ทราบถึงความหมาย

ชาวคณะเดินทางไปยังหมู่บ้านคีรีวงท่ามกลางขุนเขาหลวง มี คุณอุไร ด้วงเงิน ประธานกลุ่มใบไม้บ้านคีรีวง ให้การต้อนรับ

คุณอุไรบอกว่า เดิมทำงานโรงงานทอผ้า แล้วกลับมาบ้านที่คีรีวง พบว่าชาวบ้านมีปัญหาเรื่องรายได้ จึงแสวงหาวิธีเพิ่มรายได้ให้ชุมชน

กระทั่งพบว่าการย้อมผ้าด้วยสีธรรมชาตินี่น่าจะช่วยชุมชนได้

คุณอุไรพบว่าสีธรรมชาติสามารถหาได้ในหมู่บ้านคีรีวง เช่น ใบมังคุด ให้สีส้ม สีน้ำตาล สีชมพู เปลือกลูกเหนียงให้สีน้ำตาล ฝักสะตอ ให้สีเทา สีน้ำตาล

หูกวาง ให้สีเหลืองเขียว ใบเพกาให้สีเขียว แก่นขนุนให้สีเหลือง เปลือกเงาะให้สีเทา

จากวัตถุดิบดังกล่าวนำมาทำให้เป็นสี และจากสีธรรมชาติเหล่านี้ก็นำไปย้อมผ้า

การมัดย้อมเป็นอีกวิธีหนึ่งที่สร้างเอกลักษณ์ให้เกิดขึ้น

ชาวคณะทุกคนได้ทดลองมัดผ้าก่อนย้อม การมัดผ้านี้เองทำให้ลวดลายบนผ้าไม่มีทางเหมือนกัน

ทุกลวดลายที่ปรากฏบนเนื้อผ้า จึงเป็นลวดลายเดียวที่มีอยู่ในโลก

อะไรที่เป็นสิ่งเดียว อะไรที่เป็นอย่างเดียวในโลก ฟังแล้วเพิ่มมูลค่าขึ้นเยอะ

เสร็จสิ้นภารกิจที่หมู่บ้านคีรีวง ขบวนรถเคลื่อนต่อไปยังอำเภอพิปูน จังหวัดนครศรีธรรมราช ไปกันที่โรงเรียนวัดมังคลาราม

วันนั้น โครงการ คิง เพาเวอร์ ไทย เพาเวอร์ พลังคนไทย จัดพิธีมอบสนามฟุตบอลให้โรงเรียนวัดมังคลาราม

ถือเป็นสนามฟุตบอลลำดับที่ 61 ของโครงการ “100 สนามฟุตบอล สร้างพลังเยาวชนไทย”

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

นายอัยยวัฒน์ที่ร่วมคณะเดินทางมาด้วย เป็นประธานการมอบ

มอบสนามฟุตบอล และมอบลูกฟุตบอลตามโครงการ “ล้านลูก ล้านพลัง สร้างฝันเด็กไทย” ให้โรงเรียนวัดมังคลารามด้วย

จากนั้นนายอัยยวัฒน์ร่วมทีมนักเตะจากโรงเรียนวัดมังคลารามลงฟาดแข้งกับทีมก้าวคนละก้าว ซึ่งมี อาทิวราห์ คงมาลัย หรือ ตูน บอดี้ สแลม นำทีม มี นาย-ณภัทร เสียงสมบุญ, ดีเจพุฒ-พุฒิชัย เกษตรสิน ร่วมทีม

ชาวคณะที่เดินทางทริปนครศรีธรรมราชครั้งนี้ หลายคนลงไปเตะฟุตบอลด้วย

การแข่งขันครั้งนี้ได้เห็นนายอัยยวัฒน์เล่นบอล มีน้องๆ นักเรียนโรงเรียนวัดมังคลารามได้โชว์ฝีเท้า

ได้ยินเสียงตอบรับสนามฟุตบอลแห่งนี้จากกองเชียร์ที่พิปูน แต่ละคนมีความสุขที่ชุมชนมีสนามฟุตบอล เด็กพิปูนที่อยากเล่นฟุตบอลจะมีโอกาสได้เล่นบนสนามหญ้าเทียม

ไม่แน่ว่า สักวันหนึ่งเด็กจากพิปูนจะกลายเป็นนักเตะทีมชาติไทยก็ได้

ใครจะไปรู้ !

นายอัยยวัฒน์บอกสาเหตุการผลักดันโครงการ “คิง เพาเวอร์ ไทย เพาเวอร์ พลังคนไทย” ขึ้นว่า คิง เพาเวอร์ เชื่อในการให้โอกาส และเชื่อว่าคนไทยมีศักยภาพ หากเราสามารถก้าวข้ามข้อจำกัดต่างๆ และเปลี่ยนอุปสรรคเป็นความท้าทาย

โครงการนี้ดำเนินการมาแล้ว 4 ปี และในปี 2564 คิง เพาเวอร์ ไทย เพาเวอร์ พลังคนไทย กำลังก้าวขึ้นสู่ปีที่ 5 โดยมีแผนพัฒนาชุมชน ด้วยการนำกลยุทธ์ “Together Beyond Boundaries” มาปรับใช้ให้เป็นรูปธรรม

เน้นการผนึกกำลังพันธมิตร บุคลากร และความเชี่ยวชาญขององค์กรไปประยุกต์ใช้ให้เกิดประโยชน์ร่วมกับความสามารถ และศักยภาพของท้องถิ่น สร้างให้เกิดคุณค่าเชิงเศรษฐกิจ และสังคมควบคู่กันไป

ผลจากการดำเนินการทำให้ คิง เพาเวอร์ ไทย เพาเวอร์ พลังคนไทย ได้รับรางวัลอันทรงเกียรติระดับโลก จากงานประกาศรางวัล “Asia Responsible Enterprise Awards” ด้าน Social Empowerment หรือการสร้างความเข้มแข็งให้สังคม 2 ปีซ้อน

นั่นคือ ปี 2019 และปี 2020 ตามลำดับ

นอกจากนี้ ยังได้รับรางวัลจากเวที ดีเอฟเอ็นไอ-ฟรอนเทียร์ เอเชีย แปซิฟิก อวอร์ด (DFNI-Frontier Asia Pacific Awards) สาขาผู้ประกอบการที่มีความรับผิดชอบต่อสังคมอย่างยั่งยืน (CSR or Sustainability Initiative of the Year)

เพิ่งรู้ว่า 4 ปีที่ผ่านมา คิง เพาเวอร์ ใช้งบประมาณกว่าพันล้านบาท เพื่อให้คนไทยมีคุณภาพชีวิตที่ดีและดำรงอยู่ได้อย่างยั่งยืน

และแล้ววันสุดท้ายของการเดินทางก็มาถึง

วันที่ 1 เมษายน ชาวคณะเดินทางกลับมาขึ้นเครื่องแอร์เอเชียที่สนามบินนครศรีธรรมราช

ก่อนขึ้นเครื่องบิน เป็นช่วงเวลาที่การประกาศผลการออกรางวัลจากกองสลากฯ กำลังสิ้นสุด

เมื่อผลรางวัลปรากฏ กรุ๊ปไลน์ก็คึกคัก ภาพลอตเตอรี่ที่ซื้อ และผลรางวัลที่ประกาศ ถูกนำมาเปรียบเทียบกัน

แล้วก็จบท้ายด้วยการส่งสติ๊กเกอร์ แทนเสียงเฮ

ขอแสดงความยินดีกับผู้มีโชค และขอเป็นกำลังใจให้กับผู้ที่เกือบถูกรางวัล

การท่องเที่ยวนครศรีธรรมราชทำให้มั่นใจว่าท้องถิ่นไทยน่าเที่ยว

ยืนยันว่าพลังคนไทยมีอยู่ทุกพื้นที่

คนไทยมีความสามารถ เมืองไทยมีความโดดเด่น ขอเพียงแค่ได้รับโอกาส ได้รับการสนับสนุน ความสามารถและความโดดเด่นเหล่านั้นก็พร้อมจะเปล่งประกาย

นายอัยยวัฒน์และคิง เพาเวอร์ ยืนยันหลายครั้งว่าเชื่อในพลังคนไทย

โครงการ คิง เพาเวอร์ ไทย เพาเวอร์ พลังคนไทย เกิดขึ้นเพราะความเชื่อนี้

โครงการนี้ได้ผลักดันพลังคนไทยให้ทอประกายบนเวทีโลก

คิง เพาเวอร์ ทำมาแล้ว 4 ปี และจะดำเนินเช่นนี้ต่อไปเป็นปีที่ 5 ด้วยความเชื่อมั่นในพลังคนไทย

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image