ตำรวจปทส. จ่อแฉคลิปกก.สอบตั้งคำถามชี้นำ ข้องใจส่อช่วยบิ๊กขรก.ประจวบฯหลุดคดี

จ่อแฉคลิปเสียงกรรมการโทรสอบปากคำตำรวจปทส. ส่อช่วยปลัดปกครองประจวบฯหลุดคดีหิ้วน้องเมียหนี 3 วัน

กรณีปลัดฝ่ายปกครอง พูดจาข่มขู่เจ้าหน้าที่ 4 หน่วยงาน ระหว่างทำบันทึกจับกุมผู้ต้องหา เมื่อวันที่ 10 กันยายน 2564 ภายหลัง นายวันชัย สิงห์โต ผู้อำนวยการส่วนอนุรักษ์สัตว์ป่า สำนักบริหารอนุรักษ์ที่ 3 (สบอ.3) อ.ชะอำ จ. เพชรบุรี จับกุมนายจอมขวัญ ขอสงวนนามสกุล อายุ 41 ปี ชาว อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ น้องภรรยาของข้าราชการฝ่ายปกครองรายหนึ่ง ถูกจับข้อหาครอบครองสัตว์ป่าคุ้มครอง แต่ระหว่างทำบันทึกจับกุมที่ สบอ 3 .มีการนำตัวผู้ต้องหาหลบหนีนาน 3 วันก่อนไปมอบตัวที่ สภ.หัวหินในวันที่ 14 กันยายน 2564

ความคืบหน้าวันที่ 6 ตุลาคม นายอนันต์ชัย ไชยเดช ทนายความชื่อดัง โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุว่า เปิดรายชื่อคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริง เมื่อวันที่ 22 กันยายน 2564 นายพัลลภ สิงหเสนี ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ในขณะนั้น ลงนามในคำสั่งแต่งตั้งกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง จ.อ.แก้ว คงวงศ์ ป้องกัน จ.ประจวบคีรีขันธ์ และก่อนที่ผู้ว่าราชการจังหวัดจะเกษียณอายุราชการ ได้เซ็นคำสั่งย้าย จ่าเอกแก้ว คงวงศ์ ปลัดป้องกันจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ไปเป็นปลัดอำเภอ กลุ่มงานบริหารงานปกครอง อ.สามร้อยยอด จ.ประจวบคีรีขันธ์

ขณะนี้กำลังมีการสอบสวนข้อเท็จจริงจากคณะกรรมการฯ ชุดดังกล่าว ได้แก่ 1. นางสาวชไมพร อำไพจิตร รองผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ประธานกรรมการ 2. นายธัชชัย ศุกระกาญจน์ กรรมการจากสำนักงานจังหวัด 3. นายชัยชาญ มูลมาก กรรมการจากสำนักงานปกครองจังหวัด 4.นายสมชาย นาคซื่อตรง กรรมการจากสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัด 5. นายสุวิทย์ อินกงลาด กรรมการจากสำนักงานปกครองจังหวัด

Advertisement

ด้วยความเคารพ ผมมีความเชื่อโดยสุจริตว่า คณะกรรมการทั้ง 5 ท่าน จะทำการสอบสวนข้อเท็จจริงอย่างตรงไปตรงมาโดยไม่เห็นแก่พวกพ้อง หรือการขอร้องใดๆ จากใคร ผู้ใด ตามคำสั่ง นร 1011/ว12 ลงวันที่ 21 สิงหาคม 2556 กำชับให้ผู้บังคับบัญชารักษาวินัยผู้ใต้บังคับบัญชา โดยมีหลักการและเหตุผลเหตุผลเพื่อให้มีความสอดคล้องกับบทบัญญัติ พรฎ.ว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี พ.ศ.2546 ความผิด “เป็นผู้บังคับบัญชาช่วยเหลือหรือปกปิดในความผิดวินัยอย่างร้ายแรง ซึ่งผู้ใต้บังคับบัญชาได้ก่อขึ้นเพื่อให้ผู้ใต้บังคับบัญชาพ้นผิดหรือผ่อนหนักเป็นเบาด้วยประการใดๆ เป็นเหตุให้เกิดความเสียหายแก่ราชการอย่างร้ายแรง” ระดับโทษ “ปลดออก”ผมจะติดตามการสอบสวนข้อเท็จจริงเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด ไม่ละทิ้งแน่นอนครับ

ด้านแหล่งข่าวจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ ปทส.ทำหน้าที่ในชุดจับกุม เมื่อวันที่ 10 กันยายน 2564 ระบุว่า ที่ผ่านมามีกรรมการฯบางรายโทรฯไปสอบถามข้อถามจริงกับเจ้าหน้าที่ถือว่าผิดมารยาท นอกจากนั้นมีการตั้งคำถามในเชิงชี้นำ อาจมีเจตนาช่วยเหลือผู้ที่ถูกตั้งกรรมการสอบสวน ขณะนี้อยู่ระหว่างการนำคลิปเสียงที่บันทึกไว้เสนอให้ผู้บังคับบัญชาได้รับทราบ หากผลการสอบสวนทำให้ผู้ถูกสอบไม่มีความผิด อาจจะต้องนำคลิปเสียงออกมาเผยแพร่ให้สังคมรับทราบ และทั้ง 4 หน่วยงานที่ร่วมกันจับกุมผู้ต้องหาจะร้องเรียนขอความเป็นธรรมถึงปลัดกระทรวงมหาดไทยคนใหม่ต่อไป เนื่องจากรายชื่อ 4 กรรมการเป็นข้าราชการสังกัดกระทรวงมหาดไทย ถือว่าอาจเข้าข่ายสอบสวนพวกเดียวกัน

Advertisement

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image