ไม่มีตัวอย่างต่อการพลิกผัน แปรเปลี่ยนของ “สถานการณ์” ทางการเมืองได้เท่ากับสถานะที่ไม่เหมือนเดิมของ 250 ส.ว.ที่จะเกิดขึ้นในอีกไม่กี่วันข้างหน้า
แรกที่มีการเปิด “ความคิด” นี้ก็คิดว่าเป็น “ไม้เด็ด”
เป็นไม้เด็ดอันเท่ากับเป็นหลักประกันให้กับการดำรงอยู่ในอำนาจของ คสช. ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อย่างชนิดที่เรียกว่า “ของตาย”
เพราะในขณะนี้ที่พรรคการเมืองต้องไปขอเสียงจาก 50 ล้านคน
คสช. และ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ก็สามารถแต่งตั้ง 250 ส.ว.อันเท่ากับเป็นพรรคการเมือง 1 ไปรอโหวตอยู่แล้ว
แค่หามาเติมอีก 126 ส.ส.ก็เรียบโร้ย
แต่จากเดือนธันวาคม 2561 ที่ปี่กลองการหาเสียงเลือกตั้งเริ่มขึ้นสถานะของ 250 ส.ว.ก็เริ่มถูกมองอย่างชนิดที่เรียกได้ว่าเป็นเหมือน “มนุษย์ต่างดาว”
ท่าทีจากพรรคภูมิใจไทย ท่าทีจากพรรคประชาธิปัตย์ชัดอย่างยิ่ง
ในเบื้องต้นมีแต่เสียงจากพรรคเพื่อไทย พรรคประชาชาติ พรรคไทยรักษาชาติ พรรคเพื่อชาติ และพรรคอนาคตใหม่ พรรคสามัญชน เท่านั้น
ที่ฟันธงว่า 250 ส.ว.คือ “พรรค คสช.”
ขณะที่พรรคภูมิใจไทย พรรคประชาธิปัตย์ ยังสงวนท่าที แต่เมื่อใกล้ถึงวันเลือกตั้งเสียงจากพรรคประชาธิปัตย์ พรรคภูมิใจไทยก็เริ่มแปรเปลี่ยน
เริ่มจากพรรคประชาธิปัตย์ว่า ต้องให้โอกาส ส.ส.ตกลงกัน
ความหมายก็คือ การเสนอหลักการที่ว่าพรรคใดได้รับเลือกมาเป็นอันดับ 1 จะต้องมีสิทธิในการจัดตั้งรัฐบาลก่อน
ต่อเมื่อพรรคอันดับ 1 จัดไม่ได้จึงเป็นพรรคอันดับรองลงมา
ตามมาด้วยพรรคภูมิใจไทยที่ประกาศหลักการว่า จะไม่ยอมให้พรรคการเมืองที่เป็นเสียงข้างน้อยไปจัดตั้งรัฐบาลโดยเอา 250 ส.ว.มาเป็นฐาน
นั่นเท่ากับเป็นการตีกันพรรคพลังประชารัฐโดยตรง
เชื่อได้เลยว่าท่าทีอันมาจากพรรคเพื่อไทย พรรคอนาคตใหม่ เมื่อผนวกเข้ากับท่าทีอันมาจากพรรคประชาธิปัตย์ พรรคภูมิใจไทย จะเป็นปัจจัยสำคัญ
1 กำหนดทิศทางการจัดตั้งรัฐบาล
ขณะเดียวกัน 1 กำหนดภาพลักษณ์และนำไปสู่บทนิยามความเป็น ส.ว.อย่างตรงกับสภาพความเป็นจริง
นั่นก็คือ 250 ส.ว.จะเหนือกว่า 500 ส.ส.ไม่ได้
ความหมายก็คือ 500 ส.ส.มาจากการเลือกของ 50 กว่าล้านคน ขณะที่ 250 ส.ว.มาจากการตัดสินใจของ คสช.โดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
การยืนหยัดของ พรรคเพื่อไทย พรรคอนาคตใหม่ พรรคภูมิใจไทย พรรคประชาธิปัตย์ สำคัญ
ปัจจัยนี้จะทำให้เกิดกระแสและการเคลื่อนไหวแบ่งฝ่าย แยกขั้วเด่นชัดระหว่างฝ่ายประชาธิปไตยกับ “อ-ประชาธิปไตย”
ตรงนี้จะมีผลกระทบต่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เน็ต-เน็ต
สถานการณ์ของ 250 ส.ว.จึงเป็นรูปธรรมสำคัญสะท้อนให้เห็นสภาวะพลิกผันแปรเปลี่ยนในท่ามกลางการต่อสู้ที่เป็นจริงในทางการเมือง
ที่คิดว่าเป็นฝ่าย “รุก” อาจมิใช่
ขณะเดียวกัน ที่คิดว่าเป็นฝ่าย “รับ” ก็อาจแปรเปลี่ยนก่อกระแสและสร้างสถานการณ์ช่วงชิงเข้าไปอยู่ในสถานะ “รุก” ได้
การศึกก็ดี การเมืองก็ดี ต้องศึกษาเป็น ใช้เป็น