บทนำมติชน 3 มีนาคม : ปิดสมัย – 4 ปีสภาผู้แทน
นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวขอบคุณรองประธานสภาผู้แทนราษฎรทั้งสองที่ช่วยงาน เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร วุฒิสภา เจ้าหน้าที่ทุกคน ก่อนที่เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรจะได้อ่านพระบรมราชโองการพระราชกฤษฎีกาปิดประชุมรัฐสภาสมัยประชุมสามัญประจำปีครั้งที่สอง ตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2566 และประธานสภาได้สั่งปิดประชุมเมื่อบ่ายวันที่ 28 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ซึ่งถือเป็นการรูดม่านปิดสมัยประชุมสภาผู้แทนราษฎรชุดที่ 25 ปีที่ 4 ก่อนที่สภาจะสิ้นสุดวาระ ในวันที่ 23 มีนาคม 2566 ที่จะถึงนี้
ประธานสภาผู้แทนราษฎรกล่าวว่า ตลอด 4 ปีพวกเราทุกฝ่ายทำงานหนัก ตนทราบดีเพราะเป็นผู้แทนมาถึง 16 สมัย เป็นประธานสภา 2 ครั้ง รู้ว่าสมาชิกทำงานหนักเพราะได้ร่วมทำงานหนักกับทุกคน จริงๆ แล้วควรประกาศผลงาน แต่จะไม่รบกวนเวลาเพราะสามารถประกาศในวาระอื่นได้ แต่ต้องการบอกว่าสิ่งที่เป็นผลดีที่เกิดขึ้นกับประชาชนไม่ว่าเรื่องใดก็ตาม ท่านทั้งหลายเป็นผู้ริเริ่ม โดยข้อหารือประมาณกว่า 13,000 เรื่อง มีผู้กล่าวไปแล้วว่าสำเร็จไปมากน้อยร้อยละเท่าไรซึ่งเป็นเรื่องที่น่าประทับใจ และสุดท้ายนี้ หวังว่าแม้จะไม่มีโอกาสกลับมาทุกคน แต่ขอให้เพื่อนๆ ส่วนใหญ่ได้กลับมาทำหน้าที่ ส.ส.ต่อไป
สภาผู้แทนฯชุดปัจจุบัน ประกอบด้วยสมาชิก 500 คน มาจากการเลือกตั้งแบบแบ่งเขต 350 คน และบัญชีรายชื่อ 150 คน บุคคลเหล่านี้เป็นตัวแทนประชาชนที่ได้รับมอบให้ใช้อำนาจ ผ่านกระบวนการเลือกตั้ง เป็นตัวแทนในการเข้าไปทำหน้าที่ในการบริหารราชการแผ่นดิน ในการพิจารณาเรื่องต่างๆ ตามที่รัฐธรรมนูญบัญญัติไว้ ไม่ว่าจะเป็นการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ ที่เสนอโดย ครม. ส.ส.ไม่น้อยกว่า 20 คน หรือผู้มีสิทธิเลือกตั้ง 1 หมื่นคน พ.ร.บ.งบรายจ่ายประจำปีงบประมาณ การอนุมัติ พ.ร.ก. การควบคุมการบริหารราชการแผ่นดิน ตั้งกระทู้ถาม อภิปรายทั่วไป เพื่อลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีรายบุคคลหรือทั้งคณะ ฯลฯ
ตลอดห้วง 4 ปี การทำงานของสภาชุดนี้ มีเรื่องที่ตกเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ในการทำหน้าที่ และการใช้อำนาจกว้างขวาง ที่เป็นเรื่องจับต้องได้ชัดเจนเป็นรูปธรรม อาทิ สภาล่ม ส่วนเรื่องที่จับไม่ได้ไล่ไม่ทัน คือไม่ทำหน้าที่ตรงไปตรงมาอย่างควรจะเป็น มีงูเห่า การแจกกล้วยเพื่อให้ลงคะแนนอย่างหนึ่งอย่างใด แม้แต่การผลักดันกฎหมายก็ถูกตั้งคำถาม ฉะนั้นในโอกาสปิดสมัยประชุมและครบวาระ 4 ปี สภา ประกอบไปด้วย ส.ส. 500 คน ซึ่งน่าเชื่อได้ว่าจำนวนไม่น้อยจะได้รับเลือกตั้งอีกครั้ง ควรที่จะต้องพิจารณาทบทวนการทำอำนาจหน้าที่ว่าได้ดำเนินการสมกับเป็นผู้แทนปวงชนชาวไทยแล้วหรือไม่ และมากน้อยเพียงใด เพื่อสร้างความเชื่อมั่นแก่ประชาชนยิ่งๆ ขึ้นไป ว่าระบอบประชาธิปไตย เป็นที่พึ่งหวังได้ จำต้องหวงแหนจรรโลง รักษาไว้ ซึ่งระบบการปกครอง ประชาธิปไตยที่ประชาชนมีส่วนร่วมปกครอง โดยมี ส.ส.เป็นผู้ใช้อำนาจแทน
