| ผู้เขียน | สถานีคิดเลขที่ 12 |
|---|
ผลจากการที่ 4 สิงหาคม ยังไม่มีการโหวตนายกรัฐมนตรีคนใหม่ เนื่องจากต้องรอศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาคำร้องกรณีรัฐสภามีมติห้ามเสนอชื่อ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ รอบที่ 2 ว่าเป็นการขัดกับรัฐธรรมนูญหรือไม่ โดยศาลรัฐธรรมนูญเลื่อนไปพิจารณา 16 สิงหาคม
ทำให้ประธานสภาต้องเลื่อนการโหวตนายกฯออกไปด้วย
เมื่อยังไม่มีนายกฯใหม่ ก็ยังตั้งรัฐบาลไม่ได้
ส่งผลให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่เตรียมอำลากลับไปนอนบ้านแล้วนั้น ยังต้องทำหน้าที่นายกฯรักษาการต่อไป
อาการเบื่อๆ อยากๆ ตอนนี้คงมีชีวิตชีวาขึ้นมาทันที เพราะมีเรื่องสำคัญที่นายกฯรักษาการอาจจะต้องลงมือเองเสียแล้ว
นั่นคือ การแต่งตั้งโยกย้าย ผบ.เหล่าทัพ และ ผบ.ตร. ที่ปีนี้เกษียณกันยกแผง
เป็นการแต่งตั้งโยกย้ายที่สำคัญอย่างยิ่ง เกี่ยวข้องกับอำนาจที่มีผลต่อความเป็นไปของรัฐบาลและต่อระบอบประชาธิปไตย บัดนี้อำนาจโยกย้ายดังกล่าวมาอยู่ในมือ พล.อ.ประยุทธ์แล้ว
ที่ผ่านมา พล.อ.ประยุทธ์ก็นิ่งๆ เฉยๆ คงมองว่าตามมารยาทแล้ว ต้องรอดูว่ารัฐบาลใหม่จะตั้งได้เร็วหรือไม่ โดยหากวันที่ 4 สิงหาคม มีการโหวตและได้นายกฯใหม่แล้ว เชื่อว่า พล.อ.ประยุทธ์คงต้องรอให้รัฐบาลใหม่ นายกฯใหม่ เป็นผู้ดำเนินการโผโยกย้าย ผบ.ทหารและตำรวจ
แต่เมื่อต้องยืดออกไป โดยต้องรอศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาในกลางเดือนสิงหาคมก่อน
วันเวลาโหวตนายกฯก็ต้องรอหลัง 16 สิงหาคม เช่นนี้แล้วรัฐบาลใหม่อาจจะต้องรอสิ้นเดือนหรือไปต้นเดือนกันยายน
อย่างนี้จำเป็นที่ พล.อ.ประยุทธ์จะต้องเป็นผู้พิจารณาแต่งตั้ง ผบ.เหล่าทัพและตำรวจเอง
ผลจากความล่าช้าของนายกฯใหม่และรัฐบาลใหม่ เพียงแค่ช้าไปอีกครึ่งเดือน ก็ทำให้เรื่องสำคัญๆ เรื่องใหญ่ๆ ต้องไปอยู่ในมือนายกรัฐมนตรีรักษาการไปในทันที
ยังมีอีกหลายกรณีที่จะมีผลกระทบเมื่อยังไม่มีรัฐบาลใหม่
เพราะโดยรวมแล้วรัฐบาลรักษาการมีข้อจำกัดมากมาย ไม่สามารถทำอะไรได้ถนัดนัก แล้วในแง่การทุ่มเททำงานก็คงลดน้อยหายไปด้วย เพียงแค่อยู่รอให้รัฐบาลใหม่เข้ามารับหน้าที่
ดังนั้น ปัญหาประเทศชาติ ปัญหาของประชาชน ก็พลอยขาดการดูแลอย่างเต็มที่จากรัฐบาลรักษาการ
ตอนนี้ร้อนแล้งอย่างหนัก เกษตรกรเดือดร้อนกันไปหมด
เรื่องง่ายๆ ไข่ไก่ก็แพง เพราะอากาศร้อน ต้องติดตั้งระบบน้ำเพื่อให้ไก่ออกไข่ได้ปกติ ต้นทุนก็เลยพุ่ง ส่งผลต่อผู้บริโภค
หรือเมื่อไม่นานมานี้ กรณีโกดังเก็บพลุและดอกไม้ไฟระเบิดวินาศ ที่มูโนะ นราธิวาส ก็มีปัญหาประสิทธิภาพของรัฐบาลในการเข้าไปดูแลแก้ไขปัญหาหรือวางมาตรการป้องกัน
ภาพรวมแล้วรัฐบาลรักษาการทำอะไรไม่ค่อยได้
แถมเรื่องใหญ่อย่างการแต่งตั้งโยกย้าย ผบ.ทหารและตำรวจ ซึ่งมีเวลาเป็นกรอบกำหนดว่าจะต้องแต่งตั้งในเดือนสิงหาคมนี้
พอไม่มีรัฐบาลตัวจริง ก็กลายเป็นอำนาจของรัฐบาลประยุทธ์
สุริวงค์ เอื้อปฏิภาน
