ผู้เขียน | สถานีคิดเลขที่ 12 |
---|
สถานีคิดเลขที่ 12 : ของขวัญที่ไม่ต้องการ โดย สุวพงศ์ จั่นฝังเพ็ชร
ซานตา “ครอน” โปรยปรายเชื้อไวรัสโควิด-19 กลายพันธุ์ “โอมิครอน” ของขวัญที่คนไม่ต้องการไปเกือบ 100 ประเทศแล้ว
สำหรับไทยคลัสเตอร์โอมิครอนที่กาฬสินธุ์ ก็น่ากังวล
กังวลว่าที่สุดแล้ว ไทยก็คงไม่พ้นที่จะเป็นพื้นที่ระบาดของเจ้าเชื้อกลายพันธุ์นี้
ทำให้บรรยากาศการเฉลิมฉลองคริสต์มาสและปีใหม่ที่กำลังจะมาถึง หงอยไปอีกปี
ทั้งที่ก่อนหน้านี้ มีความหวังว่าปลายปีนี้และต้นปีหน้า ปัญหาโควิด-19 น่าจะลดลง
แต่โอมิครอนก็มาทำลายไปดื้อๆ
นายธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย และประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ตอกย้ำเรื่องนี้
โดยเดิมนั้นคาดว่าผลจากมาตรการกระตุ้นใช้จ่ายภาครัฐและคลายล็อกมาตรการของภาครัฐเปิดประเทศ เปิดรับนักท่องเที่ยว และจัดเคาต์ดาวน์ จะกระตุ้นใช้จ่ายและเดินทางจนเกิดเงินสะพัด 1.3 แสนล้านบาท
แต่เมื่อความกังวลเรื่องโอมิครอนและหนี้ครัวเรือนยังสูง เงินจะสะพัดเหลือแค่ 8.5 หมื่นล้านบาท ทำสถิติมูลค่าต่ำสุดในรอบ 12 ปีนับจากปี 2554
และยอดใช้จ่ายและท่องเที่ยวต่อคนต่ำสุดในรอบ 15 ปี เฉพาะยกเลิกเคาต์ดาวน์กระทบต่อเศรษฐกิจ 3-5 หมื่นล้านบาท
ได้แต่หวังว่า สถานการณ์จริงคงจะไม่เลวร้ายลงไปกว่านี้
เมื่อวันที่ 23 ธันวาคม 2564 ที่วัดพุทธปัญญา จ.นนทบุรี นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) นำทีมผู้บริหารและบุคลากร สธ. จัดพิธีทำบุญอุทิศส่วนกุศลแด่ผู้เสียชีวิตจากโรคโควิด-19
ประเทศไทยพบผู้เสียชีวิตรายแรกตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2563 จนถึงปัจจุบัน (ตัวเลขเมื่อ 23 ธันวาคม 2564) เสียชีวิต 21,501 ราย
มีผู้ป่วยสะสม 2,175,809 ราย (ตั้งแต่ 1 เมษายน 2564)
แม้จะอยู่ในระดับกลางๆ เมื่อเทียบกับประเทศอื่นทั่วโลก
แต่จำนวนผู้เสียชีวิตและป่วยขนาดนี้ ก็ไม่ธรรมดา
นี่ยังไม่รวมความสูญเสียทางเศษฐกิจและสังคมอีกมหาศาล
อย่างไรก็ตาม ในห้วงเวลา (ที่เคย) มีความสุขนี้ อยากชี้ชวน มองอะไรที่เป็นไปในแง่บวกบ้าง
กล่อมขวัญตัวเองไว้จะได้ไม่หดหู่จนเกินไป
ยึดตามคำพูดของปลัดกระทรวงสาธารณสุข ก็เช่นวันนี้คนไทยฉีดวัคซีนได้ครบ 101 ล้านโดสไปแล้ว น่าจะทำให้เกิดความปลอดภัยของประเทศชาติมากขึ้น
ศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) แจ้งว่ากำลังมุ่งไปสู่เป้าหมายฉีดวัคซีนให้กับประชาชนคนไทยให้ได้ 120 ล้านโดส ภายในปี 2565
คือต้องฉีดอีกประมาณ 18 ล้านโดส ซึ่งน่าจะทำได้
และหวังร่วมกันว่า วัคซีนที่คนไทยฉีดไป รวมถึงเข็มกระตุ้นในอนาคต จะไม่สูญเปล่า สามารถมีภูมิคุ้มกันเชื้อโอมิครอนได้
ซึ่ง นพ.เกียรติภูมิปลอบใจไว้ว่าเชื้อโอมิครอน กระทรวงสาธารณสุขยังดูแลได้
โดยข้อสรุปตอนนี้คือความรุนแรงไม่มากกว่าเดลต้า อาจแพร่เร็วกว่า แต่อยู่ในระดับที่ควบคุมได้
ตอนที่เชื้อเดลต้าเข้าไทย มีการฉีดวัคซีนให้ประชาชนเพียง 20-30% เท่านั้น แถมความรู้ยังมีไม่มาก ซ้ำเติมกับตอนนั้นเตียงไม่พอ จึงรับมือกับเดลต้าไม่ดีพอ
แต่ตอนนี้มีเตียงเพียงพอ คือมีประมาณ 2 แสนเตียง ใช้ไป 3 หมื่นเตียง นอกจากนี้ยังมีระบบการรักษารองรับ การครอบคลุมวัคซีนมีมากขึ้น
น่าจะพอรับมือของขวัญที่ไม่ต้องการจาก ซานตา “ครอน” ได้
หวังว่าจะเป็นเช่นนั้นจริงๆ
ทั้งที่ไม่ค่อยไม่มั่นใจเอาเสียเลย