สถานีคิดเลขที่ 12 : ทางวิบาก ‘บิ๊กตู่’ โดย จำลอง ดอกปิก

สถานีคิดเลขที่ 12 : ทางวิบาก‘บิ๊กตู่’ ผลการเลือกตั้งซ่อม ส.ส.เขต 9 กทม.

สถานีคิดเลขที่ 12 : ทางวิบาก ‘บิ๊กตู่’ โดย จำลอง ดอกปิก

ผลการเลือกตั้งซ่อม ส.ส.เขต 9 กทม.ตกเป็นที่วิพากษ์ วิจารณ์

พรรคพลังประชารัฐกำลังอยู่ในช่วงขาลง ตกต่ำ

ความนิยมของประชาชนที่มีต่อพรรคการเมืองซึ่งเป็นแกนนำรัฐบาล มีปัญหา

การที่ชาวจตุจักร-หลักสี่ ปฏิเสธเลือกผู้สมัครของพลังประชารัฐ แต่หันไปให้ความไว้วางใจ ผู้สมัครฝ่ายค้าน จากพรรคเพื่อไทย เข้าไปทำงานในสภา

Advertisement

ตัดตอนได้ยากว่า ไม่เกี่ยวข้องกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา

อย่างน้อยที่สุด ช่วงรณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง ผู้สมัครพรรคพลังประชารัฐ ก็ชู พล.อ.ประยุทธ์ เป็นจุดขายสำคัญ

อย่างน้อยที่สุด การบริหารงานของรัฐบาล ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ เป็นหัวหน้าคณะ ซึ่งส่งผลต่อชีวิตความเป็นอยู่ของผู้คน

Advertisement

ก็เป็นหนึ่งในองค์ประกอบการพิจารณาตัดสินใจ เลือกใคร

ฉะนั้น ผลการเลือกตั้งจึงเป็นการส่งสัญญาณ ค่อนข้างชัด

ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง

แม้ไม่อาจ สรุปอย่างรวบรัดได้ว่า ประชาชนไม่เอา ‘บิ๊กตู่’ ก็ตาม

แต่กระนั้น การเลือกฝ่ายค้าน ไม่เป็นผลดี ต่อรัฐบาลแน่นอน

เป็นเรื่องที่รัฐบาลพึงต้องสำเหนียก เสียงเตือนไว้ หากคิดไปต่อ มีอนาคตทางการเมือง

พลังประชารัฐ ภายใต้การนำของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ พ่ายเลือกตั้งซ่อม 3 เขต รัวๆ ภายใน 2 สัปดาห์

จากเขต 1 ชุมพร เขต 6 สงขลา ถึงเขต 9 กทม.

2 พื้นที่แรกนั้น อาจไม่เท่าไหร่นัก ทั้งนี้ เนื่องจากเป็นเขตยึดครอง ที่นั่งเดิมของพรรคประชาธิปัตย์

แต่หลักสี่-จตุจักร ถือว่าเสียหาย

เพราะเป็นพื้นที่ยุทธศาสตร์สำคัญ

มิหนำซ้ำยังเป็นเขต แพ้ไม่ได้

ต้องยึดคืน รักษาที่นั่งของพรรค มิให้เสียไป เอาไว้ให้ได้

แต่ก็พ่าย อย่างหลุดลุ่ย

การไม่ได้รับความไว้วางใจจากประชาชน ใน 3 เขตเลือกตั้ง ทั้งที่ก่อนหน้านี้ เก็บตกเก้าอี้ ส.ส.จากการเลือกตั้งซ่อม ได้เป็นว่าเล่น ไม่ว่าจะเป็นที่ภาคเหนือ-อีสาน หรือปักษ์ใต้

เพื่อไทย-ประชาธิปัตย์ ล้วนแต่เสียที่นั่งให้กับพลังประชารัฐ

แต่ก็มาแพ้ติดๆ

คล้ายกับว่า ยิ่งอยู่นาน นับวันพลังประชารัฐ ยิ่งถดถอย

หากไม่ทบทวน ปรับกระบวนทัพ หาจุดเปลี่ยน จุดขาย

แม้รัฐธรรมนูญจะดีไซน์ ให้มีแต้มต่อ 250 ส.ว. เป็นนั่งร้านสืบทอดอำนาจก็ตาม

แต่ก็ไม่แน่นักว่า การเลือกตั้งใหญ่ครั้งต่อไป โจทย์จะง่ายเหมือนครั้งแรก

3 เขตเลือกตั้ง ส่งสัญญาณ เตือนภัยแล้ว

การเลือกตั้งครั้งต่อไป เส้นทางอาจวิบาก ยากเข็ญ

ทั้งนี้ เนื่องจากพรรคร่วมรัฐบาล ตั้งหลักได้แล้ว รู้ทาง จับทางถูก ว่าจะต่อกร รับมือ การรุกคืบของพลังประชารัฐ อย่างไร

ทรัพยากรเลือกตั้งก็มีพร้อม และอย่างค่อนข้างอุ่นหนาฝาคั่ง

ไม่ว่าประชาธิปัตย์ ไม่ว่าภูมิใจไทย

สู้ตรึงพื้นที่ได้ ไม่เป็นรองแน่นอน เห็นได้จากไม่สามารถตีแตก 2 เขตใต้ล่าสุด

ส่วนฝ่ายค้าน เพื่อไทย มีข้อได้เปรียบเรื่องมวลชน พื้นที่ฐานเสียงกว้างขวาง กระจายทั่วประเทศ ระดับแชมป์เลือกตั้งทั่วไป

ต้นทุนสูงอยู่พอประมาณ ยากที่ใครจะโค่นได้

นอกจากนี้ ยังได้อานิสงส์ จากความเพลี่ยงพล้ำของรัฐบาล จากการบริหาร จัดการโควิด และปัญหาเศรษฐกิจ ปากท้อง ผลกระทบที่เกิดขึ้นตามมา

ขณะที่พรรคก้าวไกล ก็เติบใหญ่ ไม่มีทีท่าแผ่ว สามารถขยายแนวคิด แนวร่วม แทรกซึมทั้งด้านลึก ด้านกว้าง กลายเป็นพรรคที่น่าจับตา มองข้ามไม่ได้เด็ดขาด

ตรงกันข้ามกับรัฐบาล กับพลังประชารัฐ เต็มไปด้วยปัญหา

ขัดแย้ง-บริหาร

อ่านจากผลเลือกตั้งเขต 9 กทม. และอีก 2 เขตปักษ์ใต้ ความพ่ายแพ้ แฮตทริก

อย่าว่าแต่จะพลิกสถานการณ์เลย

แค่ประคับประคอง จำนวนที่นั่ง ส.ส.มิให้ลดน้อยถอยลง พลังประชารัฐยังเหนื่อย

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image