ผู้เขียน | สถานีคิดเลขที่ 12 |
---|
สถานีคิดเลขที่ 12 : ลุ้น‘ล่ม-ไม่ล่ม’
แม้การอภิปรายทั่วไปโดยไม่ลงมติตามมาตรา 152 รัฐธรรมนูญจะไม่ใช่การอภิปรายไม่ไว้วางใจ แต่ก็ขอใช้คำสั้นๆ เพื่อความตื่นเต้นว่า “ซักฟอก”
กำหนดการที่พรรคร่วมฝ่ายค้านและวิป 3 ฝ่ายตกลงกันแล้วว่าจะดำเนินการ คือ วันที่ 15-16 กุมภาพันธ์
หัวข้อที่พรรคร่วมฝ่ายค้านประกาศจัดหนักคือการบริหารราชการแผ่นดินที่มีทั้งความล้มเหลวและมีกลิ่นไม่ชอบมาพากล
ส่วนฝ่ายรัฐบาลก็ประกาศพร้อมตอบทุกข้อกล่าวหา
ฟังดูแล้วก็น่าจะเป็นกระบวนการตามปกติของรัฐสภาตามรัฐธรรมนูญที่กำหนดอนุญาตให้
แต่ก่อนระฆังการซักฟอกจะตีขึ้นยกที่หนึ่ง กลับมีกระแสข่าวล็อบบี้ให้ล่มการซักฟอกครั้งนี้ด้วยองค์ประชุม
ลำพังหากแหล่งข่าวคือพรรคร่วมฝ่ายค้านก็คงจะมองแบบหนึ่ง แต่เมื่อมีวิปของรัฐบาลออกมายืนยันว่ามีการติดต่อทาบทาม
เรื่องที่เป็นกระแสก็มีเค้าความเป็นจริง
นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ รองประธานวิปรัฐบาล บอกว่า แนวคิดที่อยากจะให้องค์ประชุมไม่ครบนั้นมีจริง และได้มีการประสานงานกันแต่ได้ยืนยันไปว่า การอภิปรายเป็นข้อเสนอแนะของฝ่ายค้านที่จะสามารถตรวจสอบฝ่ายบริหารได้ ฝ่ายบริหารหรือพรรคใดไม่เข้าร่วมเป็นองค์ประชุม จะมีผลเสียหายอย่างน้อย 3 ประการ 1.หนีการตรวจสอบของฝ่ายค้าน
2.เป็นหน้าที่โดยตรงของฝ่ายรัฐบาลที่ต้องทำให้ครบองค์ประชุม
และ 3.ถ้าฝ่ายค้านเห็นว่าการไม่ครบองค์ประชุมมาจากฝ่ายรัฐบาล ฝ่ายค้านก็หาเหตุไปอภิปรายนอกสภาได้ ซึ่งจะยิ่งทำให้ฝ่ายรัฐบาลเสียหาย
ฉะนั้นพรรคร่วมรัฐบาลทุกพรรคควรร่วมมือกันให้การอภิปรายเป็นไปตามระเบียบวาระ
การให้สัมภาษณ์ของรองประธานวิปรัฐบาล เกิดข้อสงสัยว่าใครคือคนล็อบบี้ และทำให้น่าเชื่อว่ามีความเคลื่อนไหวจริง
ขณะเดียวกันก็ถือเป็นคำเตือนพรรคการเมือง
เพราะ ส.ส.ทำให้องค์ประชุมล่มกับ ส.ว.ทำให้องค์ประชุมไม่ครบนั้นแตกต่างกัน
และองค์ประชุมไม่ครบจากความเห็นต่าง กับองค์ประชุมไม่ครบจากการหนีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ก็แตกต่างกัน
สำหรับ ส.ว.มาจากการแต่งตั้ง ไม่มีใครลงโทษลงทัณฑ์ นี่จึงเป็นจุดอ่อนของ ส.ว.ที่ขาดการเชื่อมโยงกับประชาชน
ผิดกับ ส.ส.ที่มาจากการเลือกตั้ง การทำให้ประชาชนเสียใจย่อมมีโอกาสเสียใจ
นอกจากนี้ การใช้สภาเป็นเวทีในการซักฟอก หมายความว่า ทั้งฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาลต่างมีโอกาส
ฝ่ายค้านมีโอกาสทำให้สังคมเห็นจุดบอดของรัฐบาล แต่ถ้ามัวแต่ใช้วาทะโจมตีด่าทอ จนคนฟังเสียเวลา ก็ใช่ว่าจะได้แต้มต่อ
ฝ่ายรัฐบาล อาจเสียเปรียบด้านเวลา แต่ก็มีโอกาสใช้เวทีแถลงข่าวเพิ่มเติมข้อมูล สามารถใช้ประเด็นที่ฝ่ายค้านจุดมาแสดงผลงานต่อสังคมได้
วิธีการนี้ฝ่ายรัฐบาลเคยใช้ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจมาแล้ว
ดังนั้น ศึกซักฟอกวันที่ 15-16 กุมภาพันธ์ จึงไม่น่าจะเกิดเหตุสภาล่มเพราะองค์ประชุม
ทุกพรรค ทุกคน ล้วนมีเกียรติของตัวเอง
เมื่อมีเสียงทักเรื่ององค์ประชุมก็ต้องป้องกันมิให้เกิดเรื่อง
สภาไม่ควรล้มการซักฟอก เพราะเท่ากับไม่ยอมรับกลไกสภา
ถ้า ส.ส.ไม่ยอมรับกลไกสภา แล้วจะลงเลือกตั้งไปเพื่ออะไร
นฤตย์ เสกธีระ
[email protected]