สถานีคิดเลขที่ 12 : ตัวเปลี่ยนเกม โดย นฤตย์ เสกธีระ

การเลือกตั้งครั้งที่จะถึงนี้หลายคนคาดหวังว่าประเทศไทยจะเปลี่ยนไปสู่สิ่งที่ดีขึ้น

แม้ว่าขณะนี้การเลือกตั้งยังไม่เกิด แต่เริ่มมีการวิเคราะห์ก่อนเกมกันบ้างแล้ว

อย่าง นายวันชัย สอนศิริ ส.ว. ที่ออกมาทำนายดวงทำนายคนอยู่บ่อยๆ

ล่าสุด โพสต์ถึงความคิด ส.ว.ว่า หากพรรคเพื่อไทยไม่แลนด์สไลด์ ฟากฝั่ง ส.ว.จะแลนด์สไลด์ไม่เอาเพื่อไทยตอนโหวตเลือกนายกฯ

Advertisement

หมายความว่า พรรคเพื่อไทยและพรรคแกนนำที่ต้องการสนับสนุนแคนดิเดตนายกฯของพรรคเพื่อไทยขึ้นสู่เก้าอี้ผู้นำประเทศ ต้องมีเสียงรวมกันมากกว่า 376 เสียงในรัฐสภา

เรื่องเช่นนี้เคยเกิดมาแล้ว หากย้อนกลับไปดูการเลือกตั้งปี 2562 แม้พรรคเพื่อไทยได้ ส.ส.มากที่สุด แต่ในที่สุด พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ซึ่งได้รับการเสนอชื่อจากพรรคพลังประชารัฐ ก็ได้เป็นนายกฯ

คราวครั้งนี้ แม้ พล.อ.ประยุทธ์ไปอยู่พรรครวมไทยสร้างชาติ ส่วนพรรคพลังประชารัฐชู พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรค เป็นนายกฯ และดูเหมือนว่าทั้ง 2 พรรคจะแข่งกัน

Advertisement

แต่หลังการเลือกตั้งอะไรก็เกิดขึ้นได้

ดังนั้น จุดเปลี่ยนของประเทศจะเกิดขึ้นได้ พรรคเพื่อไทยต้องแลนด์สไลด์ระดับ 300 เสียงขึ้นไป และต้องเป็นมิตรกับพรรคการเมืองอื่นๆ เพื่อให้ได้คะแนนเสียงทะลุ 376 เสียง

มองพรรคการเมืองที่มีศักยภาพผนวกรวมกับพรรคเพื่อไทย ณ ยามนั้น

แม้จะมีชื่อพรรคพลังประชารัฐ พรรคภูมิใจไทย พรรคประชาธิปัตย์ พรรคชาติไทยพัฒนา พรรคชาติพัฒนากล้า พรรคเสรีรวมไทย พรรคไทยสร้างไทย เป็นต้น

แต่ในจำนวนนี้ชื่อชั้นอย่างพรรคก้าวไกลนั้นน่าจับตามองที่สุด

ทั้งนี้ เพราะหากคนไทยต้องการความแตกต่างจากเดิม ดูเหมือนว่าพรรคก้าวไกลจะเป็นตัวเลือกที่เด่นชัด

เด่นชัดจนบางคนบางกลุ่มไม่เอา แต่ก็ไม่แน่ใจว่าอีกบางคนอีกบางกลุ่มอาจจะเลือกก็ได้

ยิ่งผลการสำรวจความคิดเห็นประชาชนหลายครั้งหลายหนพบว่า พรรคก้าวไกลติดอันดับต้นๆ ของความนิยม

ได้รับความนิยมในอันดับต้นๆ ทั้งตัวหัวหน้าพรรค และตัวพรรค

ผนวกกับการทำหน้าที่ของ ส.ส.ก้าวไกลที่ผ่านมาเข้าตาประชาชนมากขึ้นเรื่อยๆ แม้ว่าจะคาดการณ์กันว่า กติกาเลือกตั้งแบบหาร 100 บัตร 2 ใบ จะส่งผลกระทบต่อพรรคการเมืองนี้

แต่สถานการณ์ของพรรคก้าวไกล กับพรรคอนาคตใหม่ก็แตกต่างกัน

จึงมองกันว่าหากความต้องการให้ประเทศเปลี่ยนแปลงไปจากรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ นอกจากพรรคเพื่อไทยที่อยู่ในสายตาแล้ว

พรรคก้าวไกลก็เป็นหนึ่งในตัวเปลี่ยนเกมที่จะทำให้รัฐบาลชุดใหม่ไม่เหมือนเดิม

อย่างไรก็ตาม เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา นายสมชัย ศรีสุทธิยากร จากพรรคเสรีรวมไทย ได้โพสต์กฎ กกต.

สรุปว่า ระเบียบใหม่ กกต.คือ ระเบียบว่าด้วยการรวบรวมข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานของนายทะเบียนพรรคการเมือง พ.ศ.2566

สาระสำคัญคือ พรรคไหนถูกร้องว่าล้มล้างการปกครอง ปฏิปักษ์ต่อประชาธิปไตย แสวงหากำไร ยอมให้คนนอกครอบงำ รับบริจาคจากบุคคลเพื่อบ่อนทำลายความมั่นคง สนับสนุนคุกคามความสงบเรียบร้อย เรียกรับเพื่อให้ได้ตำแหน่งทางการเมือง รับเงินจากแหล่งมิชอบด้วยกฎหมาย รับเงินจากคนไม่มีสัญชาติไทย

ให้ กกต.ตรวจสอบ และมีมติสรุป แล้วส่งศาลรัฐธรรมนูญเพื่อยุบพรรคได้

กฎกติกาข้อนี้อย่ามองข้าม

นี่อาจจะเป็นอีกหนึ่งตัวแปรที่เปลี่ยนเกมการเลือกตั้ง

จากแพ้เป็นชนะ จากชนะเป็นแพ้

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image