เดินหน้าชน : รุกได้ถอยเป็น(กลืนเลือด)

เดินหน้าชน : รุกได้ถอยเป็น(กลืนเลือด)

เหมือนจบ…แต่อาจไม่จบ โดยเฉพาะเก้าอี้ ประธานสภาผู้แทนราษฎรที่กว่าพรรคก้าวไกล (ก.ก.) กับ พรรคเพื่อไทย (พท.) หลังคุยกันมาหลายรอบร่วมเดือนเศษ ไม่มีท่าทีว่าจะตกลงกันได้ “การเมือง” ที่หลายคนเปรียบเหมือน “ละคร” มีดราม่า จนกระทั่งจบที่คนกลางอย่าง “วันนอร์” วันมูหะมัดนอร์ มะทา หัวหน้าพรรคประชาชาติ (ปช.)

โดยมีข้อตกลงร่วมกันของ 2 พรรค คือ ปธ.สภา และ 2 รอง ปธ.สภา, ผลักดันวาระให้โปร่งใสตรวจสอบได้, ดันเอ็มโอยู 8 พรรคชดัน “ทิม” พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรค ก.ก. ให้เป็น นายกรัฐมนตรีอย่างสุดความสามารถ และลุยแก้ กม.สำคัญ อาทิ นิรโทษกรรมคดีแสดงออกการเมือง การปฏิรูปกองทัพ ฯลฯ

ทำให้คอการเมือง กูรู มองว่า “ก้าวไกล” เสียเชิงถูก “เพื่อไทย” บีบจนถอย!! ที่ต้องติดตามว่า งานนี้ส่งผลระยะยาวแน่นอน ถึงแม้ ส.ส.ก้าวไกลจะบอกต่อคนอื่นว่าไม่มีอะไร? เพื่อการเดินหน้าจัดตั้งรัฐบาล 8 พรรค

Advertisement

ส่วนบรรดากองเชียร์ รุ่นใหม่อย่าง ด้อมส้มคงเจ็บจี๊ดอย่างแน่นอน แต่คงได้เรียนรู้ว่า นี่แหละ สัจธรรมโดยเฉพาะ “การเมือง”

ดังเช่น ผศ.ปฐวี โชติอนันต์ อาจารย์คณะรัฐศาสตร์ ม.อุบลราชธานี ที่วิเคราะห์ก่อนที่ 2 พรรคจะตกลงกันได้ว่า “พรรค ก.ก.ยังต้องอาศัยพรรค พท.ในการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีของพรรค ก.ก. บางครั้งพรรค ก.ก.อาจต้องกลืนเลือดเพื่อเดินต่อไปกับพรรค พท.ในการโหวตนายกรัฐมนตรี เพราะการโหวตเลือกนายกฯในรอบนี้ มีนัยยะและความหมายทางการเมืองอย่างมาก ในการนำสังคมไทยไปสู่ความหวังและออกจากระบอบเผด็จการอำนาจนิยม”

“คิดว่าการส่งสัญญาณภาวะผู้นำที่ดี รุกได้ถอยเป็นและรู้หลักการในการนำเสนอ พรรคอันดับ 1 ต้องเสนอประธานสภา แต่ในขณะเดียวกัน การรักษาเอกภาพให้ได้เป้าหมายที่ใหญ่กว่าก็เป็นสิ่งสำคัญ แสดงให้เห็นว่าผู้นำคนนี้ก็เข้าใจ เวลารุกก็ต้องรุกให้สุด เวลาถอยถ้าไม่เสียหลักการ ต้องการที่จะเห็นความก้าวหน้าของสภาและเจตจำนงของประชาชนเป็นที่ตั้ง ก็น่าจะแสดงบางอย่างให้ ส.ว.เห็น” พิธาระบุ

Advertisement

สำหรับการโหวต 3 เก้าอี้เป็นไปตามคาดที่ “วันนอร์” ปธ.สภา และพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน ส.ส.เชียงราย พรรค พท. คว้า ปธ.สภาคนที่ 2 แบบไร้คู่ไม่ต้องมีการลงคะแนน แต่ที่เป็นไฮไลต์ คือ “ปธ.สภาคนที่ 1” โดยที่ “หมออ๋อง” ปดิพัทธ์ สันติภาดา ส.ส.พิษณุโลก พรรค ก.ก. กับ “เสี่ยน้อย” วิทยา แก้วภราดัย ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ที่ขอสู้เป็นสัญลักษณ์

ปรากฏว่า มติที่ประชุมเลือก “หมออ๋อง” รอง ปธ.สภาคนที่ 1 ด้วยคะแนน 312 เสียง ส่วน “เสี่ยน้อย” ได้ 105 เสียง งดออกเสียง 77 เสียง บัตรเสีย 2 ใบ รวมผู้ลงคะแนนทั้งสิ้น 496 คน

8 พรรคคุมอยู่หมด ไม่มีแตกแถวเป็นเอกภาพ แถมได้เพิ่มมาอีก 2 หรือ 3 เสียง จากใคร ? (ก.ก.แบน 1 หมออ๋อง และ ปธ.การประชุมงดออกเสียง) ที่น่าสนใจคือ งดออกเสียง 77 เสียง จากพรรคภูมิใจไทย (ภท.) โดยที่ “รองหนู” อนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรค ภท. ยอมรับว่าให้ลูกพรรคฟรีโหวต เนื่องจากพรรค ภท.ไม่ส่งคนไปชิงเก้าอี้

คำถามคือ เกี่ยวหรือไม่ที่ไม่ส่งคนชิง ปธ.สภา หรือรอง ปธ.สภา ต้องถอดรหัส ส่งสัญญาณอะไรหรือไม่ รัฐบาลเดิมไม่ปึ้กเหมือนเก่า โดยเฉพาะเมื่อพรรค ภท. มี ส.ส.ในมือ 71 คน ที่สามารถพลิกวิกฤตฝ่าเสียง ส.ว.ส่ง “พิธา” ขึ้นแท่นนายกฯหรือไม่ มีอะไรตามที่ “รองหนู” บอกว่า “โหวต ปธ.สภา-รอง ปธ.สภา กับ นายกฯ อย่าไปผูกกัน”

ดังนั้น สัปดาห์หน้าที่เบื้องต้นวางวันโหวตเลือกนายกฯ 13 ก.ค. “พิธา” จะฝ่าด่านอรหันต์ ส.ว. โน้มน้าวให้โหวตหนุนทะลุ 376 เสียงได้หรือไม่ หากไม่ได้ จะยื้อลากโหวตกี่รอบ หรือจะมีเซอร์ไพรส์ แต่ที่แน่ๆ “ก้าวไกล” ถอยไม่ได้แล้ว…

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image