ช่วงหยุดปีใหม่ หยิบหนังสือ “อี้จิง” ศาสตร์พื้นฐานแห่งชีวิต โดย “เจิงซื้อเฉียง” และ “หลิวจวินเจิ้ง” เป็นผู้เขียน มี “สุนทร ลีวงศ์เจริญ” เป็นผู้แปล
สำนักพิมพ์มติชนเป็นผู้พิมพ์
หนังสือเล่มนี้พิมพ์มานานแล้ว แต่เมื่อกลับมาอ่านอีก ยังรับรู้ถึงคุณค่า
หลักการอี้จิงเป็นศาสตร์ที่พยายามทำความเข้าใจกับธรรมชาติ
หนังสือบรรยายถึงสัญลักษณ์ “หยิน” และ “หยาง”
เล่าขานว่า ท่านฝูซี เป็นคนชอบตรึกตรองใช้สมองครุ่นคิด
เขาได้สำรวจธรรมชาติพบว่า กลางวันกับกลางคืนหมุนสลับกันไปชั่วนิรันดร์น้ำในทะเลเมื่อขึ้นสูงแล้วก็จะลดลงแล้วก็กลับมาขึ้นสูง ต้นไม้ใบหญ้าเจริญเติบโตแล้วเหี่ยวเฉา
เช่นเดียวกับมนุษย์ที่ถือกำเนิดและตาย
สรรพสิ่งทั้งหลายล้วนมีระเบียบกฎเกณฑ์ที่แน่นอน
ท่านฝูซีสงสัยว่า จะมีพลังมหึมามหาศาลอย่างหนึ่งกำลังควบคุมจักรวาล
พลังงานนี้จะผลักดันให้สรรพสิ่งเคลื่อนไหวเปลี่ยนแปรในลักษณะมีระเบียบกฎเกณฑ์
เขาได้ใช้กิ่งไม้วาดเส้นตรงเส้นหนึ่ง ทำเป็นสัญลักษณ์ (-) เพื่อใช้แทนพลังงานดังกล่าว ซึ่งภายหลังเรียกสัญลักษณ์นี้ว่า “หยาง”
แต่การสำรวจธรรมชาติไม่ได้สิ้นสุดเพียงแค่ไหน ท่านฝูซี ยังเห็นว่า ดวงอาทิตย์ขึ้นและตกทุกวัน เป็นดวงอาทิตย์ดวงเดียวกัน
สังเกตเห็นฤดูกาลทั้งสี่ หมุนเวียนกลับมาเกิดซ้ำ แล้วได้ข้อสรุปว่า การแปรเปลี่ยนของจักรวาลไม่ได้เกิดจากพลังงานประเภทใดประเภทหนึ่ง
จากนั้นได้หักกิ่งไม้มาวาดสัญลักษณ์เป็นเส้นประ (–) ซึ่งต่อมาเรียกว่า “หยิน”
หยินในครั้งหลังแทนมวลสสาร หยางในครั้งหลังแทนพลังงาน
เมื่อเกิดหยินไปจนถึงที่สุดแล้วจะเกิดหยาง เมื่อเกิดหยางไปถึงที่สุดแล้วจะเกิดหยิน
ส่วนคำว่า “อี้จิง” นั้น คำว่า “อี้” ด้านหนึ่งมีควาหมายว่า “เปลี่ยนแปลง” ขณะที่คำว่า “จิง” คือหลักการของความไม่เปลี่ยนแปลง
ทำให้ต้องเข้าใจ “วิถีการดำเนินชีวิตอาจเปลี่ยนแปลงได้ แต่หลักเกณฑ์การดำเนินชีวิตนั้นไม่สามารถเปลี่ยนแปลง”
เมื่อมีทั้ง “เปลี่ยนแปลง” และ “ไม่เปลี่ยนแปลง” จึงควรกำหนดสถานะให้ถูกต้องเหมาะสมระหว่างกัน
อี้จิง ยังเสนอจินตภาพในอนาคตที่เปลี่ยนแปลงได้
ทั้ง “กลับไปกลับมา” ทั้ง “ไปๆ มาๆ” ทั้ง “วนเวียนเป็นวัฏจักร” ทั้ง “ก้าวหน้าถอยหลัง” ทั้ง “แข็งกล้าอ่อนโยน” ทั้ง “รุ่งเรืองเสื่อมถอยลดน้อยเพิ่มพูน” ทั้ง “แปรเปลี่ยนระหว่างสำเร็จกับล้มเหลว”
หนังสือยังยกตัวอย่างพลังของหยินหยาง ว่า เมื่อหยินคือตัวเลข 0 รวมกับหยางคือเลข 1 กลายเป็นเครือข่ายอินเตอร์เน็ตอันกว้างขวางไร้ที่สิ้นสุด
นั่นคือ หนึ่งหยินหนึ่งหยางก่อเกิดเป็นสรรพสิ่งในจักรวาล
ข้อคิดจากอี้จิงมีหลายเรื่องที่สอดแทรกอยู่ในหลายบท
อาทิ บทที่บ่งบอกว่า มนุษย์เมื่อเกิดมาแล้วย่อมมีชีวิต สรรพสิ่งล้วนมีโชคชะตาที่แน่นอน
ใครที่ไม่คิดเปลี่ยนแปลงก็จะดำเนินไปตามโชคชะตาที่เป็นอยู่
ใครที่คิดเปลี่ยนแปลงตนเองก็อาจเปลี่ยนแปลงได้
กระบวนการเปลี่ยนผ่านของชะตาชีวิตขึ้นอยู่กับเรา
เลือกถูกแล้วรับโชค เลือกผิดแล้วประสบเคราะห์
ด้านการบริหาร อี้จิงแนะนำการบริหารจัดการอย่างยั่งยืน
แนะนำว่า “คุณธรรมหลักใหญ่ของฟ้าดินคือชีวิต มนุษย์ชาติต้องให้ตนเองไปสู่ทางสายกลาง จึงสามารถได้รับความคุ้มครองจากฟ้า”
หลักเหตุผลพื้นฐานที่นำไปสู่ทางสายกลาง
ประกอบด้วย โลกต้องการสันติภาพ ประชาชนต้องร่วมมือ ประเทศต้องพัฒนา และสังคมต้องก้าวหน้า
หลักการพื้นฐานแบบนี้อ่านแล้วเห็นว่าสำคัญ
ทั้งคน ทั้งองค์กร หรือแม้แต่ประเทศชาติ จำเป็นต้องมีหลักการพื้นฐาน
มีเหตุผลที่ต้องใช้หลักการพื้นฐานนั้นๆ ในการขับเคลื่อนดำเนินชีวิต ดำเนินกิจการ หรือดำเนินงานของประเทศ
ความจริงแล้วหนังสือ อี้จิง มีเรื่องราวรายละเอียดมากกว่านี้มาก
หากแต่แค่จับประเด็นในช่วงที่มาและหลักการพื้นฐานของชีวิต
ทำให้นึกถึงการดำรงอยู่ของประเทศ องค์กร และครอบครัววงศ์ตระกูล ที่ต้องมีหลักยึด
อย่างหนังสือพิมพ์มติชนที่ครบรอบวันเกิดวันที่ 9 มกราคม 2565 ในวันนี้
ดำเนินกิจการเข้าสู่ปีที่ 45 แล้ว หลังจากออกจำหน่ายหนังสือพิมพ์ฉบับแรกไปเมื่อปี 2521
มติชนถือปฏิบัติตามหลักการทำงานของสื่อมวลชนจากยุคก่อตั้งมาจนถึงปัจจุบัน
ถ่ายทอดข่าวสารให้คนไทยรับทราบด้วยความซื่อสัตย์ตั้งแต่ต้นมาจนถึงบัดนี้
ทำงานกันบนหลักการพื้นฐานที่คนรุ่นก่อนส่งต่อให้คนรุ่นถัดไป
ถามว่าความเป็นมติชนอธิบายได้หรือไม่
ตอบคำถามด้วยโครงกระทู้ที่ ขรรค์ชัย บุนปาน ประพันธ์ขึ้น และสลักไว้หน้าอาคารสำนักงานใหญ่
มติ ต้องถูกต้อง โดยธรรม
ชน กับคนก่อกรรม ชั่วร้าย
ประชา ต่างธงนำ เรามุ่ง
ชาติ นพคุณถ่อยป้าย เปราะขึ้นเงาเสมอ
ปี 2565 จะเป็นอีกหนึ่งปีที่สื่อมวลชนทุกแขนงต้องทำงานหนัก
แต่เชื่อว่าทุกคนที่เกี่ยวข้องต่างยินดีที่จะทำงานหนักต่อไป
ด้วยความหวังที่อยากเห็นประเทศชาติมีอนาคต คนไทยมีความสุข
มีความเจริญรุ่งเรืองสืบต่ออย่างยั่งยืนไปพร้อมๆ กัน
นฤตย์ เสกธีระ
[email protected]