รื้อกฎหมายโรงงาน ตัดวงจรทิ้งกากอุตฯ ‘เพิ่มโทษคุก-ตั้งกองทุนฟื้น’

รื้อกฎหมายโรงงาน ตัดวงจรทิ้งกากอุตฯ ‘เพิ่มโทษคุก-ตั้งกองทุนฟื้น’

ปมปัญหาลักลอบทิ้งกากอุตสาหกรรมตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา ถือเป็นภารกิจร้อนของ “ดร.จุลพงษ์ ทวีศรี” อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม (กรอ.) ตั้งแต่เริ่มรับตำแหน่ง ถึงวันนี้ใกล้ครบ 1 ปี “มติชน” พูดคุยอัพเดตผลงานแม้เจออุปสรรคอยู่บ้างแต่ภาพรวมคืบหน้า โดยเฉพาะการเตรียมยกเครื่องกฎหมายโรงงานครั้งใหญ่!!

เข้ม กม.กาก-สร้างมูลค่าเพิ่ม-ดึงตำรวจจัดการ

อธิบดีจุลพงษ์เล่าถึงการทำงานว่า นโยบายการจัดการกากอุตสาหกรรมของ กรอ.จะเน้น 3 ด้านหลักคือ 1.การบังคับใช้กฎหมายที่ต้องเข้มข้นขึ้น มีการดำเนินคดี ทั้งคดีอาญา คดีแพ่ง และการออกคำสั่งทางปกครอง ตลอดจนปรับปรุงกฎหมายกากที่เกี่ยวข้อง นอกจากนี้ต้องปรับโครงสร้างหน่วยงานที่ทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ 2.มาตรการส่งเสริมเพื่อทำให้ขยะเป็นศูนย์ สามารถนำกลับมาใช้ได้ใหม่ สร้างมูลค่าเพิ่ม ปัจจุบันมีการทำงานร่วมกับสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) และสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) อย่างใกล้ชิด

Advertisement

3.สร้างเครือข่ายร่วมมือกับทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐและเอกชน อาทิ จับมือกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติลงนามความร่วมมือป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการลักลอบทิ้งกากอุตสาหกรรม บังคับใช้กฎหมายในการเอาผิดผู้ประกอบการที่ลักลอบทิ้ง เพื่อเรียกความเชื่อมั่นให้กับภาคอุตสาหกรรม ตามนโยบาย MIND ใช้หัวใจและใจ ปั้นอุตสาหกรรมคู่ชุมชน ของนายณัฐพล รังสิตพล ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม

สำหรับปริมาณกากอุตสาหกรรมปีงบประมาณ 2566 เบื้องต้นมีตัวเลขเข้าระบบการจัดการรวม 32.43 ล้านตัน แบ่งเป็นกากอันตราย 2.50 ล้านตัน และกากไม่อันตราย 29.93 ล้านตัน จากปริมาณกากทั้งหมดมีการขอเก็บไว้ภายในโรงงาน 12.09 ล้านตัน และแจ้งขนส่งออกนอกโรงงานไปจัดการ 20.14 ล้านตัน

อธิบดีจุลพงษ์ให้ข้อมูลว่า ปี 2566 กรมโรงงานพบปัญหาการลักลอบทิ้ง จำนวน 8 กรณี เมื่อได้รับแจ้งข้อมูลได้เข้าตรวจสอบและดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดทันที อาทิ กรณีลักลอบทิ้งในโกดัง ต.ภาชี อ.ภาชี จ.พระนครศรีอยุธยา การลักลอบทิ้งของเสียในโกดังของโรงงาน บริษัท ซันเทค เคมิคอล แอนด์ โลจิสติกส์
จ.พระนครศรีอยุธยา และการลักลอบนำกากของเสียไปทิ้งในพื้นที่ ต.บางตะไนย์ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี กรณีเหล่านี้กรมโรงงานได้บังคับใช้กฎหมาย เจ้าหน้าที่ได้เข้าร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวนให้ดำเนินคดีสืบหาผู้กระทำผิดมาลงโทษ

Advertisement

ขณะเดียวกันยังเดินหน้าเร่งรัดเอาผิดกรณีลักลอบทิ้งกากช่วงก่อนหน้า โดยเฉพาะปี 2565 มีกรณีลักลอบทิ้งกาก 12 กรณี ได้เข้าร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวนให้ดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดมาลงโทษ อาทิ กรณีลักลอบทิ้งกากพื้นที่เอกชน ต.ดีลัง อ.พัฒนานิคม จ.ลพบุรี กรณีลักลอบทิ้งกากของเสียพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมแก่งคอย จ.สระบุรี การออกคำสั่งตามมาตรา 52 และมาตรา 52/1 ตามกฎหมายว่าด้วยวัตถุอันตรายแก่เจ้าของที่ดินที่ลักลอบทิ้งกากของเสียเพื่อนำของเสียเหล่านั้นไปจัดการให้ถูกต้องตามกฎหมายและหลักวิชาการต่อไป รวมถึงสนับสนุนกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (บก.ปทส.) ในการรวบรวมพยานหลักฐาน การสอบสวนหาผู้กระทำผิดมาลงโทษ

ชง‘รมว.อุตแก้’กม.เพิ่มโทษ-ตั้งกองทุนฟื้นฟู

ทั้งนี้ เพื่อให้การแก้ปัญหาลักลอบทิ้งกากเกิดประสิทธิภาพมากขึ้น อธิบดีจุลพงษ์กล่าวว่า กรมโรงงานจึงอยู่ระหว่างปรับปรุง พ.ร.บ.โรงงาน พ.ศ.2535 ในส่วนของกรณีการลักลอบทิ้งกากอุตสาหกรรมในมาตรา 45 โดยจะแก้ไขให้มีการเพิ่มโทษจากเดิมเป็นเพียงโทษปรับ ให้เป็นโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือทั้งจำทั้งปรับ เนื่องจากการมีโทษจำคุกจะทำให้อายุความเพิ่มขึ้นเป็น 5 ปี จากเดิมโทษปรับมีอายุความเพียง 1 ปี เพื่อเป็นประโยชน์ในการสอบสวนหาผู้กระทำผิดมารับโทษ

นอกจากนี้ในการปรับปรุง พ.ร.บ.โรงงาน พ.ศ.2535 ยังเสนอให้จัดตั้งกองทุนฟื้นฟูเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากการประกอบการโรงงานในเบื้องต้น ซึ่งรวมถึงกรณีลักลอบทิ้งกากด้วย โดยจะนำเงินกองทุนมาใช้ดำเนินการก่อนแล้วจึงไปฟ้องร้องคืนจากผู้ประกอบกิจการโรงงานที่กระทำผิดในภายหลัง เหตุผลของการตั้งกองทุนเนื่องจากที่ผ่านมากรมโรงงานขาดการสนับสนุนงบประมาณในการดำเนินการเกี่ยวกับการฟื้นฟูเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบ ดังนั้น แหล่งที่มาของเงินกองทุนอาจกำหนดที่มาจากเงินสมทบจากงบประมาณ เงินคดีอาญาตามกฎหมายว่าด้วยโรงงาน เงินบางส่วนจากค่าธรรมเนียมรายปี นอกจากนี้จะมีการแก้ไขมาตรา 42 พ.ร.บ.โรงงาน พ.ศ.2535 ยกเลิกข้อความที่กำหนดให้นำเงินจากกองทุนสิ่งแวดล้อมมาใช้ดำเนินการ เพื่อให้สอดคล้องกับการจัดตั้งกองทุน

“ปัจจุบันทั้ง 2 ประเด็นอยู่ระหว่างศึกษาแนวทาง รวบรวมข้อมูลกฎหมาย กรณีตัวอย่างที่เกี่ยวข้อง หากผ่านขั้นตอนต่างๆ แล้วจะเสนอต่อ น.ส.พิมพ์ภัทรา วิชัยกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เพื่อเห็นชอบในหลักการก่อนเริ่มดำเนินการในขั้นตอนต่อไป” อธิบดีจุลพงษ์ระบุ

นอกจากนี้กรมโรงงานจะเสนอรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมปรับโครงสร้างการปฏิบัติงานของกรม เพิ่มความเข้มข้นในการกำกับดูแลโรงงาน เพิ่มหน่วยงานและเจ้าหน้าที่ให้ภารกิจที่เกี่ยวกับการกำกับดูแลโรงงานเป็นการเฉพาะ รวมทั้งจะเสนอโครงการรวบรวมข้อมูลในภาพรวมทั้งประเทศสำหรับพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากกากของเสีย ลักษณะของเสีย วิธีการจัดการบำบัดกำจัด และงบประมาณเพื่อจัดทำแผนฟื้นฟูพื้นที่ที่มีการลักลอบทิ้งกากของเสียส่งผลกระทบต่อประชาชน

ทิ้งกากกระทบรุนแรงกองทุนจำเป็น

ตัวอย่างกรณีลักลอบทิ้ง บริษัท แวกซ์ กาเบ็จ รีไซเคิล เซ็นเตอร์ จำกัด จ.ราชบุรี และบริษัท เอกอุทัย สาขาศรีเทพ จำกัด จ.เพชรบูรณ์ ส่งผลกระทบต่อน้ำใต้ดินลึกกว่า 15 เมตร คือชั้นน้ำบาดาล เกิดการแพร่กระจายของของเสียเคมีวัตถุ ซึ่งมีความอันตรายไปได้ในระยะไกล โดยเฉพาะบริษัท แวกซ์ กาเบ็จ รีไซเคิล เซ็นเตอร์ จำกัด จ.ราชบุรี ได้ประสานความร่วมมือทุกฝ่ายจนเกิดเป็นกรณีศึกษา เรียกว่าราชบุรีโมเดล บริษัทไม่สามารถดำเนินการเสร็จตามแผน กระทรวงอุตสาหกรรมจึงเข้าดำเนินการแทน ได้รับการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายงบกลาง 2566 จำนวน 59,853,400 บาท กำจัด/บำบัดสิ่งปฏิกูลหรือวัสดุที่ไม่ใช้แล้วหรือของเสียเคมีวัตถุที่ตกค้างในพื้นที่กว่า 54 ไร่ รวมจำนวนกว่า 12,000 ตัน คาดว่าจะแล้วเสร็จเดือนมีนาคม 2567 ขณะเดียวกันกรมโรงงานจะเดินหน้าฟ้องร้องค่าเสียหายจาก
ผู้ประกอบการควบคู่กันไปด้วย

“ราชบุรีโมเดล คือโมเดลที่กรมโรงงานใช้ทุกข้อกฎหมายทั้งหมดที่มีเป็นเครื่องมือแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น แม้ขั้นตอนกระบวนการดำเนินงานตลอดจนอุปสรรคต่างๆ จะเป็นปัจจัยทำให้ระยะเวลาแก้ปัญหาล่วงเลย แต่ก็มีความคืบหน้ามากที่สุด กรณีนี้ยังสะท้อนให้เห็นว่างบประมาณในการแก้ปัญหาเบื้องต้นมีความจำเป็นอย่างมาก” อธิบดีจุลพงษ์ระบุ

อธิบดีกรมโรงงานทิ้งท้ายว่า กรมโรงงานควรมีงบประมาณสำหรับการแก้ไขปัญหาให้ประชาชนก่อน แล้วจึงฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายคืนจากผู้กระทำผิด ซึ่งการจะจัดตั้งกองทุนจำเป็นต้องมีแผนการจัดการแก้ไขปัญหาพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากการจัดการกากอุตสาหกรรมไม่ถูกต้องทุกพื้นที่ในประเทศไทย โดยการสำรวจ จัดทำแผนที่จุดที่ลักลอบทิ้ง ประเมินความเสียหาย วิธีการและค่าใช้จ่ายบำบัด และจัดทำแผนการของบประมาณแก้ไขปัญหา โดยทั้งหมดกรมโรงงานจะเดินหน้าเป็นรูปธรรมภายใน 5 ปี

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image