จอดป้ายประชาชื่น : ลุ้นแบงก์ชาติลดดอกช่วยทุกคน
หลังจาก “เศรษฐา ทวีสิน” นายกรัฐมนตรี เปิดฉากพูดคุยกับผู้บริหารสถาบันการเงิน ขอให้ปรับลดอัตราดอกเบี้ย ซึ่งสถาบันการเงินทั้งภายใต้การกำกับของรัฐบาลและพาณิชย์ ต่างตอบรับนโยบายด้วยการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% สำหรับผลิตภัณฑ์สินเชื่อที่อ้างอิงอัตราดอกเบี้ย MRR MLR และ MOR เป็นเวลา
6 เดือน ตามเงื่อนไขต่างๆ แตกต่างกันและเป็นไปตามที่แต่ละธนาคารกำหนด
มาตรการนี้อาจช่วยเศรษฐกิจได้ชั่วคราว เนื่องจากเงื่อนไขกำหนดช่วงเวลา 6 เดือน และบางธนาคารช่วยเฉพาะบางกลุ่มเท่านั้น
สุดท้ายสิ่งที่รัฐบาลและเอกชนต้องการจริงๆ คือขอให้ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) โดยคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) พิจารณาปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายจากปัจจุบันอยู่ที่ 2.50% ให้กับประชาชนทุกคนมากกว่าขอให้ช่วยเฉพาะกลุ่มเท่านั้น
สะท้อนจาก “วิศิษฐ์ ลิ้มลือชา” รองประธานกรรมการ หอการค้าไทย และประธานคณะกรรมการอาหารแปรรูปและอาหารแห่งอนาคต ระบุ การลดอัตราดอกเบี้ยดี แต่เป็นห่วงการเข้าถึงแหล่งเงินทุน เพราะดอกเบี้ยยังสูงมีผลต่อการขอสินเชื่อ แม้ดอกเบี้ยนโยบายอยู่ที่ 2.50% และมีมาตรการช่วยเหลือ เมื่อดูดอกเบี้ยเงินกู้ธนาคารอยู่ที่ราว 7-8% ถือว่าต้นทุนยังสูง ดังนั้น การเข้าถึงสินเชื่อยาก ธนาคารระวังการปล่อยสินเชื่อ เพราะเศรษฐกิจยังไม่กลับมาฟื้นได้ทั่วถึง
“คาดว่า กนง.มองภาพใหญ่ของเศรษฐกิจเป็นหลักและอ้างอิงกับธนาคารกลางสหรัฐ หรือเฟด หากเฟดยังไม่ลดดอกเบี้ย กนง.ไม่ลดเช่นกัน เพราะกังวลปัญหาเงินไหลออก ถ้าปรับลดดอกเบี้ย ผลจากนโยบายการเงินต้องใช้เวลา 8-12 เดือนจะเห็นผลได้ชัด รอลุ้นว่า กนง.จะตัดสินใจอย่างไร” วิศิษฐ์กล่าว
ขณะที่ “ธนิต โสรัตน์” รองประธานสภาองค์การนายจ้างผู้ประกอบการค้าและอุตสาหกรรมไทย (อีคอนไทย) ระบุ ธนาคารลดอัตราดอกเบี้ยลงเป็นเรื่องที่ดีจะช่วยบรรเทาความเดือดร้อนกลุ่มเปราะบางได้ โดยสิ่งที่ภาคเอกชนและประชาชนต้องการคือสภาพคล่อง จากอัตราดอกเบี้ยคงระดับสูง เศรษฐกิจหดตัว ทำให้ธนาคารปล่อยกู้ยากขึ้น
ดังนั้น การลดดอกเบี้ยเฉพาะกลุ่มยังไม่ใช่ประเด็นจะช่วยเหลือได้ เช่น หากกู้เงิน 5 ล้านบาท ดอกเบี้ยลดลง 0.25% คิดง่ายๆ ดอกเบี้ยลดปีละ 1,000 บาทเท่านั้น ซึ่งสิ่งที่คนต้องการจริงๆ น่าจะเป็นสภาพคล่อง เพราะเศรษฐกิจไม่ดีคนต้องการเงินไปใช้จ่ายมากกว่าจ่ายหนี้
ด้าน ธนาคารกสิกรไทย ประเมินว่า กนง.จะคงดอกเบี้ยที่ 2.50% ตลอดทั้งปี 2567 จากเดิมคาดจะปรับดอกเบี้ย 2 ครั้ง เพราะ กนง.ส่งสัญญาณชัดเจนคงดอกเบี้ย แรงกดดันเงินเฟ้อมีมากขึ้น รวมถึงนโยบายการเงินของธนาคารกลางทั่วโลกมีแนวโน้มตึงตัวกว่าที่
คาดการณ์ไว้
แบงก์ชาติจะลดดอกเบี้ยช่วยทุกคนเมื่อไหร่ ต้องติดตามต่อไป
ทรรศวรรณ ทัพสุวรรณ
