‘หมอนิธิพัฒน์’ แนะเพิ่ม ‘ชลบุรี’ เป็นจังหวัดแดงเข้ม หลังยอดป่วยโควิดใหม่ทะยาน ครองอันดับ 5

‘หมอนิธิพัฒน์’ แนะเพิ่ม ‘ชลบุรี’ เป็นจังหวัดแดงเข้ม หลังยอดป่วยโควิดใหม่ทะยาน ครองอันดับ 5

เมื่อวันที่ 14 กรกฎาคม รศ.นพ.นิธิพัฒน์ เจียรกุล หัวหน้าสาขาวิชาโรคระบบการหายใจและวัณโรค ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก นิธิพัฒน์ เจียรกุล ระบุว่า

เผลอแป๊บเดียว วันนี้ชลบุรีแซงขึ้นไปครองอันดับห้าจังหวัดที่มีผู้ป่วยใหม่รายวันสูงสุด ที่จริงพื้นที่นี้มีความเสี่ยงอยู่แล้ว เนื่องจากมีโรงงานและแหล่งท่องเที่ยวตั้งอยู่จำนวนมาก มาตรการควบคุมโรคแบบเข้มงวดที่ออกมาใช้กับสิบจังหวัด น่าจะต้องเพิ่มชลบุรีเข้าไปเป็นจังหวัดที่สิบเอ็ดด้วย วันนี้จึงเป็นจังหวะพอดีกับการออกทัวร์พื้นที่นี้

เริ่มตันที่โรงพยาบาลชลบุรี ได้ไปเดินดูสถานที่รองรับผู้ป่วยอาการหนักที่เป็นผู้ใหญ่ ช่วงนี้ศักยภาพกำลังถุูกใช้ไปจนล้นเกินแล้ว มีการปรึกษาหารือกันถึงแนวทางการตั้งคณะกรรมการย่อยของหน่วยงาน เพื่อกำหนดแนวทางการพูดคุยนำเสนอการรักษาแบบประคับประคองช่วงท้ายของชีวิต (end-of-life care) สำหรับผู้ป่วยวิกฤตบางรายที่มีต้นทุนสุขภาพไม่ดีอยู่ก่อน ในสภาพที่ทรัพยากรสุขภาพโดยเฉพาะเตียงไอซียูโควิดที่มีจำกัด นอกจากนั้นก็เป็นการแลกเปลี่ยนประสบการณ์การดูแลรักษาผู้ป่วยปอดอักเสบโควิดในรูปแบบต่างๆ รวมไปถึงแผนการขยายเตียงรองรับผู้ป่วยภายในและริเริ่มเตียงที่บ้านและชุมชน (home and community isolation) รวมไปถึงการเตรียมกำลังหนุนด้านวัสดุอุปกรณ์การแพทย์ที่จำเป็นสำหรับการศึกแบบยืดเยื้อ พร้อมกับการส่งเครื่องไฮโฟลว์อีก 10 เครื่องจากโครงการต่อลมหายใจไปสนับสนุน ก่อนกลับแวะดูความพร้อมสถานที่ตั้งหอผู้ป่วยโควิดเด็ก ที่สามารถดูแลได้จนถึงความรุนแรงระดับต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ และเช่นเดียวกับภาพประทับใจการช่วยเหลือกันเองของผู้ป่วยในสถานที่อื่น เด็กสองคนที่มีแววเป็นบุคลากรทางการแพทย์ในอนาคต ทำหน้าที่ช่วยกันวัดสัญญานชีพ (ชีพจร ความดันโลหิต อัตราการหายใจ และอุณหภูมิ) ให้เพื่อนเตียงใกล้เคียง พร้อมวัดระดับความอิ่มตัวออกซิเจนปลายนิ้ว ก่อนส่งข้อมูลให้พยาบาลที่เคาน์เตอร์ด้านนอก

Advertisement

จากนั้นบ่ายหน้าไปโรงพยาบาลแหลมฉบัง หนึ่งในสนามรบโควิดที่สำคัญของชลบุรี ที่นี่ส่วนใหญ่ปรึกษาหารือกันเรื่องปัญหาในการดูแลรักษาผู้ป่วยปอดอักเสบโควิด การจัดระบบรองรับผู้ป่วยตั้งแต่ห้องฉุกเฉิน หอผู้ป่วย ไอซียู โรงพยาบาลสนาม และฮอสปิเตล ซึ่งไม่ว่าจะขยายเพิ่มมาเท่าไร เตียงก็เต็มภายในเวลาอันสั้น ทำให้ต้องมองไกลไปถึงการทำแผนให้เตียงผู้ป่วยส่วนหนึ่งไปอยู่ที่บ้านหรือชุมชน รวมไปถึงอาจลดระยะเวลาการอยู่โรงพยาบาลแล้วให้ไปรักษาตัวที่บ้านต่อภายใต้การติดตามใกล้ชิด มาถึงนี่ทั้งที่แล้ว ของฝากต้องเป็นอาหารทะเลนานาชนิด หิ้วกันพะรุงพะรังตามมาส่งจนถึงยานพาหนะคู่ใจ

เนื่องจากใช้เวลาเกินกำหนด จึงปรับแผนเคลื่อนย้ายไปเยี่ยมกิจการรพ.สนามที่สัตหีบ แต่เป็นของทีมรพ.ระยองที่แอบมาตีท้ายครัวชลบุรี ขอใช้พื้นที่จากทหารน้ำใจดีมาตั้งแต่วิกฤตระลอกสอง แน่นอนของฝากติดไม้ติดมือให้กับคนหน้างานที่เหน็ดเหนื่อยกันจนตัวกลม คือพิซซ่ากับโค้กกระป่องเย็นชื่นใจ ที่นี่รับคนไทยมาจากระยองเป็นหลัก มีจากชลบุรีประปรายบ้าง เนื่องจากทีมงานทำหน้าที่นี้ต่อเนื่องมาหลายเดือนแล้ว การดำเนินการจึงราบรื่นไม่ค่อยมีปัญหาอุปสรรคอะไรนัก ศักยภาพเกือบสองร้อยเตียงถูกใช้เต็มหมด ขณะนี้เริ่มรับผู้ป่วยสีเหลืองที่ต้องได้รับยาฟาวิพิราเวียร์บ้างแล้ว สำหรับอัตราผู้ป่วยอาการรุนแรงขึ้นจนต้องย้ายกลับรพ.หลักอยู่ระหว่าง 1-2%

ก่อนที่บรูด้าจะเทคมีโฮม ได้แวะเยี่ยมทีมรพ.บางละมุงในเส้นทางขากลับ ที่นี่รับผู้ป่วยเป็นจำนวนมากและมีอาการหนักมากเป็นรองแค่รพ.ชลบุรี ขณะนี้มีผู้ป่วยใช้เครื่องช่วยหายใจถึงห้าราย ส่วนผู้ป่วยระดับความรุนแรงอื่นก็มีอีกมากจนนับไม่ถ้วน ประเด็นเรื่องการรักษาแบบประคับประคองชีวิตระยะท้ายจึงถูกหยิบขึ้นมาถกเช่นเดียวกัน นอกเหนือไปจากการระดมความเห็นมองหาที่สร้างหอผู้ป่วยที่เหมาะสมเพิ่มเติมจากเดิม รวมไปถึงการใช้อุปกรณ์ประกอบเครื่องช่วยหายใจให้ถูกต้อง

Advertisement

#อยู่บ้าน_หยุดเชื้อ_เพื่อชาติ #มองไปข้างหน้าฝ่าวิกฤตโควิดระลอกใหม่

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image