ยกหลักฐานควบรวม ‘ทรู-ดีแทค’ ชงบอร์ด กสทช. 14 ก.ย.นี้ ‘ไตรรัตน์’ ฟันธง ปิดดีลแน่ปีนี้

ยกหลักฐานควบรวม ‘ทรู-ดีแทค’ ชงบอร์ด กสทช. 14 ก.ย.นี้ ‘ไตรรัตน์’ ฟันธง ปิดดีลแน่ปีนี้ ชี้ ‘เอไอเอส’ ซื้อ 3BB แค่หยั่งเชิง

กรณีที่ประชุม กสทช. เมื่อวันที่ 25 สิงหาคม มีมติ 3 ต่อ 2 เสียง ให้สำนักงาน กสทช.ทำหนังสือด่วนที่สุด เรื่อง ขอความอนุเคราะห์ให้คณะกรรมการกฤษฎีกาพิจารณาให้ความเห็นในประเด็นข้อกฎหมายถึงนายกรัฐมนตรี เพื่อขอให้ตีความอำนาจพิจารณาการควบรวมกิจการระหว่าง บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) และบริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือดีแทค หลังจากก่อนหน้านี้ไม่รับตีความ

  • กสทช. เปิด 5 Facts ดีลทรู-ดีแทค ย้ำชัด ไม่มีประเทศใดควบรวมเหลือ 2 ราย
  • ‘หมอลี่’ แง้ม ดีลทรู-ดีแทค จบชัวร์ที่ศาล จวกผลการศึกษาจุฬาฯ จริงครึ่งเดียว

นายไตรรัตน์ วิริยะศิริกุล รักษาการแทน เลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (สำนักงาน กสทช.) เปิดเผยว่า สำนักงาน กสทช.อยู่ระหว่างรอคณะกรรมการกฤษฎีกาเชิญเข้าให้ข้อมูลที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติม ซึ่งสุดแล้วแต่ว่าคณะกรรมการกฤษฎีกาจะรับตีความหรือไม่ และไม่ว่าผลการวินิจฉัยเป็นอย่างไร สำนักงาน กสทช.จะนำมาใช้เพื่อประกอบการพิจารณา

อาทิ หากรับตีความและวินิจฉัยว่า กสทช.มีอำนาจอนุญาตหรือไม่อนุญาต จะเป็นไปตามประกาศ กสทช. เรื่อง มาตรการเพื่อป้องกันมิให้มีการกระทำอันเป็นการผูกขาดหรือก่อให้เกิดความไม่เป็นธรรมในการแข่งขันในกิจการโทรคมนาคม พ.ศ.2549 และหาก กสทช.มีอำนาจอนุญาต อาจมีการกำหนดเงื่อนไขเพื่อป้องกันความเสียหายต่อประโยชน์สาธารณะ

Advertisement

ขณะเดียวกัน หากคณะกรรมการกฤษฎีกาวินิจฉัยว่า กสทช.มีอำนาจแค่รับรายงานจากผู้ขอควบรวมเท่านั้น ก็จะเป็นไปตามข้อ 5 ตามประกาศ กสทช. เรื่อง มาตรการกำกับดูแลการรวมธุรกิจในกิจการโทรคมนาคม พ.ศ.2561 ที่ระบุว่า ผู้รับใบอนุญาตหรือผู้มีอำนาจควบคุมของผู้รับใบอนุญาตที่ประสงค์จะทำการรวมธุรกิจกับผู้รับใบอนุญาตรายอื่นต้องรายงานต่อเลขาธิการ กสทช.ไม่น้อยกว่า 90 วันก่อนการดำเนินการ

“ขณะนี้ สำนักงาน กสทช.ได้รวบรวมข้อมูลการวิเคราะห์ผลกระทบจากการควบรวมกิจการ รวมถึงหลักฐานทางวิชาการและข้อมูลเชิงประจักษ์รองรับ ตามมติที่ประชุม กสทช.เมื่อวันที่ 3 สิงหาคม เสร็จสมบูรณ์แล้ว โดยวันที่ 14 กันยายนนี้ สำนักงาน กสทช.จะรายงานต่อที่ประชุม กสทช.ให้ได้รับทราบต่อไป ซึ่งคาดว่าการพิจารณาการควบรวมกิจการจะเสร็จสิ้นภายในปีนี้ เพราะหากอ้างอิงตามประกาศ กสทช. ปี 2561 จะพบว่า ขณะนี้ล่วงเลยเวลามาพอสมควรหลังจาก สำนักงาน กสทช.เสนอต่อที่ประชุม กสทช.เมื่อเดือนพฤษภาคม 2565” นายไตรรัตน์กล่าว

Advertisement

นายไตรรัตน์กล่าวว่า ผู้ขอควบรวมมีการติดตาม ทวงถามถึงความคืบหน้าในการพิจารณาเรื่องนี้อย่างต่อเนื่อง เนื่องจากก่อนหน้านี้ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) แจ้งต่อทรูและดีแทคว่า จะรับซื้อหุ้นจากผู้ที่คัดค้านได้ต้องรอความชัดเจนจาก กสทช.ก่อน ทำให้ขณะนี้ ผู้ขอควบรวมไม่สามารถดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่งได้ จนกว่าการพิจารณาจะสิ้นสุด

“กสทช.ทำหน้าที่อย่างดีที่สุด และเป็นปกติที่ผู้ขอควบรวมจะบอกว่า การพิจารณาล่าช้าจะก่อให้เกิดความเสียหายอย่างมหาศาลและไม่สามารถเยียวยาแก้ไขแก่ผู้ขอควบรวมและผู้ถือหุ้นได้ เพราะไม่เพียงการควบรวมกิจการเท่านั้นที่จะทำให้ราคาหุ้นปรับตัวสูงขึ้นหรือลดลง ปัจจัยอื่นๆ อย่างสถานการณ์เศรษฐกิจโลกก็มีผลเช่นกัน” นายไตรรัตน์กล่าว

นายไตรรัตน์กล่าวว่า ส่วนกรณีการประกาศเข้าซื้อกิจการ บริษัท ทริปเปิลที บรอดแบนด์ จำกัด (มหาชน) หรือ 3BB ของบริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือเอไอเอสนั้น ขณะนี้ สำนักงาน กสทช.ยังไม่ได้รับหนังสืออย่างเป็นทางการจากเอไอเอส เห็นเพียงหนังสือที่แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ตามการนำเสนอข่าวของสื่อมวลชนเท่านั้น

“เอไอเอสอาจจะยังไม่ซื้อ 3BB และอาจจะแค่หยั่งเชิง เพื่อรอดูท่าทีผลการพิจารณาการควบรวมกิจการระหว่างทรูและดีแทคก่อนว่าเป็นอย่างไร หากทำได้ก็จะทำบ้าง แต่ถ้าไม่ได้ก็คงไม่ทำ ซึ่ง กสทช.จะพิจารณาอย่างรอบคอบ รอบด้าน ภายใต้เงื่อนไขเดียวกัน” นายไตรรัตน์กล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image