‘ศักดิ์สยาม’ เผยรัฐมั่นใจ ปี66 โอกาสทองของไทย พร้อมทุ่มงบ 1.24 แสนล.สานโครงการต่อ

‘ศักดิ์สยาม’ เผยรัฐมั่นใจ ปี66 โอกาสทองของไทย พร้อมทุ่มงบ 1.24 แสนล.สานโครงการต่อเนื่อง

เมื่อวันที่ 27 ธันวาคม ที่อาคารราชรถสโมสร กระทรวงคมนาคม นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลังเป็นประธานสัมมนาเชิงปฏิบัติการ สรุปผลงานปี 2565 และขับเคลื่อนนโยบายไปสู่การปฏิบัติในปี 2566 และปี 2567 ว่า รัฐบาลมั่นใจว่าในปี 2566 จะเป็นโอกาสทองของประเทศไทยตามที่รัฐบาลได้วางยุทธศาสตร์ชาติ และเดินหน้ามาตรการต่างๆ ให้มีความพร้อมในทุกด้าน

โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคมขนส่ง เพื่อส่งเสริมเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวภายในประเทศ รวมถึงการให้บริการประชาชนอย่างทั่วถึงทั่วประเทศ เพื่อสนับสนุนให้ไทยเป็นศูนย์กลางการลงทุนของภูมิภาคอาเซียน จึงได้มอบนโยบายให้หน่วยงานในสังกัดกระทรวงฯ เร่งรัดการดำเนินงานตามภารกิจโดยคำนึงถึงผลประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชนเป็นสำคัญ

ทั้งนี้ จาก 79 นโยบายปี 2565 ที่มีทั้งหมด 167 โครงการ เป็นโครงการที่ดำเนินการแล้วเสร็จหรือเปิดให้บริการแล้ว รวม 61 โครงการ อยู่ระหว่างดำเนินการ จำนวน 64 โครงการ อยู่ในช่วงจัดทำแผนงานหรือออกแบบ จำนวน 42 โครงการ ส่วนโครงการหรือกิจกรรมที่จะต้องดำเนินการต่อเนื่องให้แล้วเสร็จ รวมถึงโครงการใหม่ที่จะทำในปี 2566 จำนวน 171 โครงการ เป็นโครงการใหม่ปี 2566 จำนวน 58 โครงการ สำหรับแหล่งเงินในการพัฒนา 171 โครงการ วงเงินลงทุนทั้งในและนอกงบประมาณภาคคมนาคมทั้งโครงการตั้งแต่ปี 2558-2570 จำนวน 2,718,959 ล้านบาท

Advertisement

ส่วนวงเงินลงทุนทั้งในและนอกงบประมาณภาคคมนาคมเฉพาะของปี 2566 จำนวน 124,839 ล้านบาท ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นการสรุปผลการดำเนินงานของกระทรวงคมนาคมในรอบปี 2565 และโครงการที่กระทรวงคมนาคมจะดำเนินการในปี 2566 และ ปี 2567 เพื่อให้การปฏิบัติงานของกระทรวงคมนาคมเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและเกิดประโยชน์แก่พี่น้องประชาชนอย่างสูงสุด

ด้านแนวทางการขับเคลื่อนคมนาคมที่ยั่งยืน ปี 2566 ย้อนดูอดีตปรับแก้สู่อนาคต ต้องดำเนินการสานต่อดำเนินงานตามนโยบายที่ยังค้างอยู่ไปสู่การปฏิบัติ ดำเนินการให้แล้วเสร็จตามตัวชี้วัด เรียนรู้จากปัญหาที่เกิดในปี 2564/2565 คิดวางระบบป้องกัน แก้ไขปัญหาให้พี่น้องประชาชนในปี 2566/2567 ในส่วนของการจัดสัมมนาเวิร์คชอป ระหว่างวันที่ 21-22 ธันวาคม 2565 มีจุดประสงค์

Advertisement

เพื่อสรุปผลการดำเนินการของหน่วยงานในสังกัดกระทรวงฯ ตาม 79 นโยบาย ในปีงบประมาณ 2565 และทำการประมวลถึงปัญหาอุปสรรคในการดำเนินการสำหรับนโยบายที่ยังไม่แล้วเสร็จ เพื่อหาแนวทางในการผลักดันการดำเนินงานให้เกิดผลเป็นรูปธรรมโดยเร็ว รวมถึงพิจารณาหาแนวทางการพัฒนาโครงข่ายคมนาคมให้เกิดความยั่งยืน ในปี 2566 และ ปี 2567 โดยเนื้อหาการสัมมนามี 3 ส่วน ได้แก่

1.การสรุปผลงานตามนโยบายในปี 2565 จาก 79 นโยบาย 167 โครงการ สามารถสรุปภาพรวมได้ว่าดำเนินการแล้วเสร็จหรือเปิดให้บริการแล้ว รวม 61 โครงการ อยู่ระหว่างดำเนินการ จำนวน64 โครงการ และอยู่ในช่วงจัดทำแผนงานหรือออกแบบ จำนวน 42 โครงการ อาทิ โครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง สายบางปะอิน – นครราชสีมา (M6) สายบางใหญ่ – กาญจนบุรี (M81) สายบางขุนเทียน – บ้านแพ้ว (M82) โครงการทางพิเศษในจังหวัดภูเก็ต สายกะทู้ – ป่าตอง โครงการการจัดระเบียบรถยนต์รับจ้างผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ และโครงการผลักดันเทคโนโลยียานยนต์ไฟฟ้าสำหรับรถขนส่งสาธารณะ (อีวี) โครงการพัฒนารถไฟทางคู่ (ระยะแรก) การศึกษาจัดทำแผนการพัฒนาท่าเรือกรุงเทพ ให้เป็น Automation Port และการพัฒนาระบบการเดินอากาศระบบใหม่ ณ ศูนย์ควบคุมการบินหัวหิน เป็นต้น

2.การสานต่อนโยบายปี 2565 ขับเคลื่อนนโยบายในปี 2566 จากนโยบายในปี 2565 ทั้งหมด 79 นโยบาย 167 โครงการนั้น ในส่วนที่ยังไม่แล้วเสร็จจำนวน 106 โครงการ หน่วยงานจะต้องเร่งรัดดำเนินการให้แล้วเสร็จ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมได้มอบนโยบายใหม่ 24 นโยบาย ที่จะต้องดำเนินการในปี 2566 อาทิ การพัฒนาระบบจัดเก็บค่าผ่านทางอัตโนมัติแบบไม่มีไม้กั้น (เอ็มโฟล์ว) ทางพิเศษสายฉลองรัช สายบูรพาวิถี สายกาญจนาภิเษก แผนเชื่อมต่อการเดินทางเข้าสู่ระบบรถไฟฟ้า เร่งพัฒนาระบบตั๋วร่วม พัฒนารถไฟความเร็วสูง และโครงการขยายลานจอดเครื่องบิน ท่าอากาศยานขอนแก่น เป็นต้น

3.การขับเคลื่อนนโยบายปี 2567 อาทิ โครงการแก้ไขปัญหาการจราจรบนทางด่วน การต่อเติมเพื่อแก้มิสซิ่ง ลิงก์ เชื่อมโยงภูมิภาค และเชื่อมโยงต่างประเทศ การเร่งรัดแผนฟื้นฟู ขสมก. โครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ระยะที่ 2 ช่วงปากน้ำโพ-เด่นชัย การพัฒนาท่าเรือบก (Dry Port) เพิ่มประสิทธิภาพพื้นที่หลังท่า และการพัฒนาท่าอากาศยานชุมพร งานก่อสร้างต่อเติมความยาวทางวิ่งขยายทางขับ ลานจอดเครื่องบิน พร้อมระบบไฟฟ้าสนามบินและองค์ประกอบอื่นๆ และการพัฒนาท่าอากาศยานตรัง ระยะที่ 2 งานต่อเติมความยาวทางวิ่ง เป็นต้น

ข่าวน่าสนใจอื่น:

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image