‘แผ่นดินไหวตุรกี’ ไม่สะเทือนส่งออก ‘ส.อ.ท.’ ชี้ผลดี รัสเซียหันเที่ยวไทยแทน

สำนักข่าวรอยเตอร์

‘แผ่นดินไหวตุรกี’ ไม่สะเทือนส่งออก ‘พณ.’ กางสัดส่วนเพียง 0.49% ‘ส.อ.ท.’ ชี้ผลดี รัสเซียหันเที่ยวไทยแทน

แหล่งข่าวจาก กระทรวงพาณิชย์ ระบุว่า กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ได้ประเมินผลกระทบต่อการส่งออกของไทย เหตุการณ์แผ่นดินไหวในตุรกี เบื้องต้นคาดว่าเหตุการณ์แผ่นดินไหวในตุรกีครั้งนี้ จะไม่ส่งผลกระทบต่อการส่งออกของไทยอย่างมีนัยสำคัญ เนื่องจากตุรกีเป็นตลาดส่งออกอันดับที่ 32 ของไทยในโลก มีสัดส่วนการส่งออกเพียง 0.49% ของการส่งออกทั้งหมดของไทย

แม้ว่าสินค้าส่งออกสำคัญของไทยไปตุรกี มีรถยนต์อุปกรณ์และส่วนประกอบ เป็นสินค้าส่งออกอันดับ 1 สัดส่วนประมาณ 30% ของการส่งออกทั้งหมดของไทยไปตุรกี แต่โดยที่พื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากแผ่นดินไหว ส่วนใหญ่เป็นพื้นที่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของตุรกีใกล้พรมแดนซีเรีย ในขณะที่นครอิสตัลบูล เมืองขนาดใหญ่สุด และกรุงอังการาเมืองหลวงและเมืองขนาดใหญ่อันดับ 2 ของตุรกี ไม่ได้รับผลกระทบ

ทั้งนี้ จากสถานการณ์ดังกล่าว ไทยมีโอกาสขยายการส่งออกสินค้าอาหารไปตุรกี โดยเฉพาะน้ำตาลทราย และข้าว ซึ่งในปี 2565 ทั้ง 2 รายการ มีการขยายตัวของการส่งออกไปตุรกีในอัตราสูงมากอยู่แล้ว โดยเฉพาะน้ำตาลทราย ซึ่งขยายตัวกว่า 2 แสน% ส่วนข้าวขยายตัว 894% สะท้อนความต้องการที่มีอยู่สูง นอกจากนี้ ยังมีโอกาสในการขยายการส่งออกสินค้าเครื่องแพทย์และอุปกรณ์ และวัสดุก่อสร้าง อย่างไรก็ตาม แต่กรมได้มอบหมายทูตพาณิชย์ไทย ณ กรุงอังการา ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และรายงานมายังกรมอย่างต่อเนื่อง

ในรายละเอียดพบว่า สินค้าส่งออก 10 อันดับแรกของไทยไปตุรกี ปี 2565 มีมูลค่ารวม 36,461.90 ล้านบาท ขยาย 19.43% ได้แก่ รถยนต์อุปกรณ์และส่วนประกอบ มีมูลค่า 14,287.54 ล้านบาท ขยาย 16.8% ยางพารา 6,060.53 ล้านบาท ขยาย 7.59% เครื่องปรับอากาศและส่วนประกอบ 4,067.64 ล้านบาท ขยาย 64.49% ผลิตภัณฑ์ยาง 2,690.68 ล้านบาท ลด -5.94% เม็ดพลาสติก 2,678.37 ล้านบาท ขยาย 2.55% อุปกรณ์กึ่งตัวนำ ทรานซิสเตอร์ และไดโอด 1,852.38 ล้านบาท ขยาย 58.48% เส้นใยประดิษฐ์ 1,741.57 ล้านบาท 4.34% เคมีภัณฑ์ 1,159.31 ล้านบาท 3.47% น้ำตาลทราย 969.85 ล้านบาท ขยาย 225,446.51% ทองแดงและของทำด้วยทองแดง 954.03 ล้านบาท ขยาย 25.36% และอื่นๆ 12,728.04 ล้านบาท 5.62% รวม 49,189.94 ล้านบาท ขยาย 15.52%

Advertisement

นายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่า จากที่สอบถามนักธุรกิจ ยังมีการเข้าไปลงทุนและค้าขายกับตุรกียังไม่สูงมากนัก ผลกระทบต่อการส่งออกไม่น่าจะมาก ขณะเดียวกันจะมีต่อภาคท่องเที่ยวของไทย โดยเฉพาะชาวรัสเซีย นิยมเดินทางไปเที่ยวและพักผ่อนในตุรกีมากสุด รองลงมาเป็นไทย ในระยะสั้นนี้เชื่อว่านักท่องเที่ยวรัสเซียจะเปลี่ยนมาเที่ยวในเมืองไทยแทนตุรกี จำนวนจะมากเท่าไหร่ขึ้นกับแพคเกจที่จะกระตุ้นชาวรัสเซียมาไทยแทนที่จะบินไปเที่ยวประเทศอื่นๆ ที่กำลังชิงตลาดนักท่องเที่ยว เหมือนอย่างที่คนไทยมีการเดินทางไปเที่ยวญี่ปุ่นจำนวนมากในเวลานี้

“คนทั่วโลกอั้นมานาน จากการชะลอทุกอย่างในช่วงโควิด-19 ระบาด ตอนนี้เมื่อทุกอย่างคลี่คลาย อารมณ์อยากใช้เงินและท่องเที่ยวจะเพิ่มรวดเร็ว อยู่ที่ไทยจะสร้างความโดดเด่นจากคู่แข่งได้แค่ไหน” นายเกรียงไกรกล่าว

ข่าวน่าสนใจอื่น:

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image