ปลัดอุตสาหกรรม จับมือ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เอ็มโอยู ปราบกลุ่มอิทธิพลลักลอบทิ้งกากอุตสาหกรรม พลิกฟื้นภาพลักษณ์ เรียกศรัทธากลับคืน
วันที่ 13 มีนาคม กระทรวงอุตสาหกรรม (อก.) ร่วมกับ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) บูรณาการความร่วมมือลงนามบันทึกความเข้าใจ ความร่วมมือว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการลักลอบทิ้งกากอุตสาหกรรม ระหว่าง ดร.ณัฐพล รังสิตพล ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม และ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ โดยมี ดร.จุลพงษ์ ทวีศรี อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม และ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็นพยานในพิธีลงนามฯ พร้อมด้วย ผู้บริหารระดับสูงของทั้ง 2 หน่วยงาน ร่วมเป็นสักขีพยาน ณ ห้องประชุม 1 ชั้น 2 อาคารสำนักงานปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม
ดร.ณัฐพล รังสิตพล ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า การจัดพิธีลงนามบันทึกความเข้าใจความร่วมมือในครั้งนี้ เป็นการยกระดับขีดความสามารถในการบังคับใช้กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการแก้ปัญหาการลักลอบทิ้งกากอุตสาหกรรมอย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงร่วมกันตรวจสอบโรงงานต้องสงสัยที่มีแนวโน้มเสี่ยงต่อการลักลอบทิ้งกากอุตสาหกรรม ตลอดจนการกระทำอื่นที่มีความคาบเกี่ยวเชื่อมโยงกัน เพื่อนำผู้กระทำความผิดมาลงโทษและชดใช้ค่าเสียหายที่เกิดขึ้นต่อส่วนรวม ขับเคลื่อนการพัฒนาตามนโยบายกระทรวงอุตสาหกรรม “MIND ใช้หัวและใจ ปั้นอุตสาหกรรมคู่ชุมชน” ที่มุ่งพัฒนาและสร้างความสมดุล ทั้งในมิติเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน
ภาคอุตสาหกรรมมีบทบาทสำคัญต่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ สะท้อนจาก GDP ภาคอุตสาหกรรมมีสัดส่วนกว่า 34% ของ GDP ประเทศไทย ในปี 2565 ซึ่งมีมูลค่ากว่า 17.4 ล้านล้านบาท ปัจจุบันประเทศไทยมีโรงงานรวม 73,382 โรงงาน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นโรงงานที่ดี สร้างการจ้างงาน เกิดการกระจายรายได้ต่อพื้นที่โดยรอบ และประกอบกิจการอย่างเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม อย่างไรก็ตาม ยังมีโรงงานส่วนน้อยที่ไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย ลักลอบทิ้งกากอุตสาหกรรม ส่งผลกระทบต่อประชาชน สิ่งแวดล้อม และภาพลักษณ์ของภาคอุตสาหกรรมทั้งระบบ
พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติจะดำเนินการตรวจสอบพื้นที่สาธารณะและพื้นที่ทั่วไปที่มีเบาะแสหรือเป็นพื้นที่สุ่มเสี่ยงต่อการลักลอบทิ้งกากอุตสาหกรรม สืบสวน สอบสวน รวบรวมพยานหลักฐานที่จำเป็นต่อการดำเนินคดี เพื่อให้ผู้กระทำความผิดได้รับการลงโทษตามกฎหมาย ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายของผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ “การแก้ไขปัญหาอาชญากรรมที่สร้างความเดือดร้อนต่อประชาชนและขับเคลื่อนนโยบายสำคัญของรัฐบาล”
ด้าน ดร.จุลพงษ์ ทวีศรี อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม กล่าวเพิ่มเติมว่า ปัจจุบันกรมโรงงานอุตสาหกรรมได้ใช้ระบบไอทีในการกำกับดูแลการกำจัดกากอุตสาหกรรมทั้งระบบ อย่างไรก็ตาม ก็ยังมีผู้ฝ่าฝืนกฎหมาย ลักลอบทิ้งกากอุตสาหกรรมอยู่เป็นระยะ ทั้งในพื้นที่เอกชน บ่อดินเก่า และที่รกร้างว่างเปล่า โดยในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา มีการลักลอบทิ้งกากอุตสาหกรรมไม่ต่ำกว่า 78 ครั้ง เฉพาะปี 2565 มากถึง 12 ครั้ง เจ้าหน้าที่กรมโรงงานฯพยายามเข้าดำเนินการแต่กลับเจอกลุ่มอิทธิพล ข่มขู่เจ้าหน้าที่ จึงจำเป็นต้องขอความร่วมมือจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติช่วยจัดการ ทำให้ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมโดยรวม ทั้งชุมชนโดยรอบ และห่วงโซ่อาหารจากพื้นที่การเกษตรปนเปื้อนสารเคมีอันตราย
ดังนั้น ความร่วมมือในครั้งนี้จึงเป็นการป้องกันปราบปรามไม่ให้เกิดเหตุการลักลอบทิ้งกากอุตสาหกรรม ลดปัญหาที่จะส่งผลกระทบต่อชุมชนและสิ่งแวดล้อมได้อย่างมีประสิทธิภาพ
อ่านข่าวน่าสนใจ: