กทพ.เปิดเวทีดึงเอกชนร่วมลงทุน ‘ที่พักริมทาง’ 2 แห่ง วงเงินรวมกว่า 5.1 พันล้าน

กทพ.เปิดเวทีดึงเอกชนร่วมลงทุน ที่พักริมทาง 2 แห่ง วงเงินรวมกว่า 5.1 พันล้าน คาดเสนอเข้า ครม.กลางปี’67

เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 23 มิถุนายน ณ ห้องแกรนด์บอลรูม โรงแรมแกรนด์ฟอร์จูน กรุงเทพ นายสุรเชษฐ์ เหล่าพูลสุข ผู้ว่าการการทางพิเศษแห่งประเทศไทย เปิดเผยภายหลังเป็นประธานในการเปิดการประชุมรับฟังความคิดเห็นของภาคเอกชน (มาร์เก็ต ซาวดิ้ง) สำหรับการให้เอกชนร่วมลงทุนโครงการพัฒนาและบริหารจัดการที่พักริมทางในเขตทางพิเศษบริเวณบางโปรง และโครงการพัฒนาและบริหารจัดการที่พักริมทางในเขตทางพิเศษ และ Park and Ride บริเวณข้างมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต ว่าได้เชิญผู้ประกอบการ นักลงทุน สถาบันการเงิน ภาคเอกชนทั้งในประเทศ และต่างประเทศ เข้าร่วมการประชุม

โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อนำเสนอรายละเอียดของโครงการและนำข้อคิดเห็นที่เป็นประโยชน์จากภาคเอกชนมาพิจารณาประกอบการศึกษาและวิเคราะห์โครงการ ตามขั้นตอนการเสนอโครงการตามพระราชบัญญัติการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน พ.ศ.2562 ต่อไป

สำหรับ โครงการการพัฒนาและบริหารจัดการที่พักริมทางในเขตทางพิเศษบริเวณบางโปรง มีพื้นที่ 60 ไร่ ตั้งอยู่บริเวณ กม. 17+300 ของทางพิเศษกาญจนาภิเษก (บางพลี-สุขสวัสดิ์) ซึ่งเป็นทางพิเศษที่มีปริมาณการจราจรสูงและมีการควบคุมการเข้าออกอย่างสมบูรณ์ เป็นที่พักริมทางที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ เช่น พื้นที่จอดรถ สถานีบริการน้ำมัน ร้านค้า ห้องน้ำ บริการข้อมูลการเดินทาง เป็นต้น โครงการมีมูลค่าลงทุนรวมประมาณ 2,324 ล้านบาท แบ่งเป็น ค่าก่อสร้าง 627 ล้านบาท และค่าบริหารจัดการและบำรุงรักษาตลอดอายุโครงการ 1,697 ล้านบาท

Advertisement
โครงการการพัฒนาและบริหารจัดการที่พักริมทางในเขตทางพิเศษบริเวณบางโปรง

ขณะที่ โครงการพัฒนาและบริหารจัดการที่พักริมทางในเขตทางพิเศษ และ Park and Ride บริเวณข้างมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต มีพื้นที่ 80 ไร่ อยู่บริเวณข้างมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ศูนย์รังสิต ตั้งอยู่ในพื้นที่ศูนย์กลางของการเชื่อมโยงในระดับภูมิภาค ใกล้เคียงชุมชนการศึกษาขนาดใหญ่และหน่วยงานต่าง ๆ ใมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต เป็นที่พักริมทางและพื้นที่จอดแล้วจร (Park+&Ride) อยู่ในพื้นที่เดียวกัน โครงการมีมูลค่าลงทุนรวมประมาณ 2,780 ล้านบาท แบ่งเป็น ค่าก่อสร้าง 706 ล้านบาท และค่าบริหารจัดการและบำรุงรักษาตลอดอายุโครงการ 2,074 ล้านบาท

นายสุรเชษฐ์กล่าวว่า ปัจจุบัน กทพ.อยู่ระหว่างดำเนินการในขั้นตอนการจัดทำรายงานการศึกษาและวิเคราะห์โครงการคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในปลายปี 2566 หลังจากนั้นจะเสนอโครงการเพื่อขออนุมัติต่อ ครม.ภายในช่วงกลางปี 2567 และจะเริ่มกระบวนการคัดเลือกเอกชนเพื่อร่วมลงทุนภายในรูปแบบ PPP net cost โดยมีสัญญาสัมปทาน 33 ปีได้ทันที โดยที่ไม่ต้องเสนอคณะกรรมการนโยบายการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน (คณะกรรมการพีพีพี) เนื่องจากวงเงินในการลงทุนไม่สูง หลังจากนั้นจะเริ่มก่อสร้างได้ภายในช่วงต้นปี 2568 และเปิดให้บริการเต็มรูปแบบในปี 2571 โดยคาดว่าทั้ง 2 โครงการจะสร้างผลตอบแทนทางเศรษฐกิจ (อีไออาร์อาร์) ได้ประมาณ 10%

โครงการพัฒนาและบริหารจัดการที่พักริมทางในเขตทางพิเศษ และ Park and Ride

นายสุรเชษฐ์กล่าวอีกว่า ในส่วนของรูปแบบการลงทุน กทพ.จะเปิดกว้างโดยเอกชนสามารถร่วมประมูล แบบรายเดียว รวมกลุ่ม หรือสามารถรวมกลุ่มกับนักลงทุนต่างชาติได้ ซึ่งโครงการจะแยกประมูลคนละสัญญา แต่จะเปิดประมูลพร้อมกันทั้ง 2 โครงการ

Advertisement

“ทั้ง 2 โครงการเป็นโครงการที่พักริมทางที่ให้เอกชนเข้าร่วมลงทุนกับภาครัฐในรูปแบบพีพีพี ซึ่งไม่ใช่โครงการทางด่วน โดย กทพ.มีพื้นที่ของตัวเองประมาณ 50-60 แห่ง ปัจจุปันมีรายได้ประมาณ 20,000 ล้านบาทต่อปี เรายอมรับว่าเรามีพื้นที่และงบประมาณ แต่เราไม่มีความรู้ หรือวิธีการ ทำให้เราให้แผนอยากให้เอกชนเข้ามาร่วมลงทุนในครั้งนี้ด้วย” นายสุรเชษฐ์กล่าว

โครงการพัฒนาและบริหารจัดการที่พักริมทางในเขตทางพิเศษ และ Park and Ride

นอกจากนี้ กทพ.มีแผนออกแบบ ทางลาด (Ramp) เพื่อเชื่อมทางเข้า-ออก ภายในพื้นที่โครงการที่พักริมทางบางโปรง พื้นที่ 60 ไร่ ซึ่งอยู่บริเวณถนนกาญจนาภิเษกเชิ่อมทางด่วนบูรพาวิถีเพื่อแก้ปัญหารถติด ขณะที่โครงการที่พักริมทางในเขตทางพิเศษบริเวณมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต ซึ่งอยู่ใกล้บริเวณทางด่วนอุดรรัถยา พื้นที่ 80 ไร่ เชื่อว่าการพัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์ในครั้งนี้จะช่วยตอบโจทย์ผู้ใช้บริการของโรงพยาบาลธรรมศาสตร์ รังสิต ให้มีความสะดวกมากขึ้น

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image