ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ ที่ระดับ 35.57 บาทต่อดอลลาร์ ‘อ่อนค่าลง’ รับเฟดคงดอกเบี้ย

ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ ที่ระดับ 35.57 บาทต่อดอลลาร์ ‘อ่อนค่าลง’ รับเฟดคงดอกเบี้ย

นายพูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน Krungthai GLOBAL MARKETS ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ ที่ระดับ 35.57 บาทต่อดอลลาร์ อ่อนค่าลงจากระดับปิดวันก่อนหน้า ที่ระดับ 35.47 บาทต่อดอลลาร์ มองกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 35.35-35.65 บาท/ดอลลาร์

นายพูน กล่าวว่า โดยในช่วงคืนก่อนหน้า ค่าเงินบาทเคลื่อนไหวผันผวนสูงและโดยรวมอ่อนค่าลง (แกว่งตัวในช่วง 35.27-35.62 บาทต่อดอลลาร์) โดยมีจังหวะผันผวนแข็งค่าในช่วงก่อนตลาดรับรู้ผลการประชุมเฟด หลังรายงานยอดการจ้างงานภาคเอกชนโดย ADP และดัชนีต้นทุนการจ้างงาน (Employment Cost Index) ออกมาต่ำกว่าคาด อย่างไรก็ดี เงินบาทพลิกกลับมาอ่อนค่าลงต่อเนื่อง หลังเฟดมีมติคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 5.25%-5.50% ตามคาด

และย้ำจุดยืนไม่รีบลดดอกเบี้ยในการประชุมเดือนมีนาคม จนกว่าจะมั่นใจว่าอัตราเงินเฟ้อจะกลับเข้าสู่เป้าหมาย 2% ได้อย่างยั่งยืน ซึ่งมุมมองดังกล่าวได้หนุนให้ เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น พร้อมกับการปรับตัวลดลงของราคาทองคำ อย่างไรก็ดี ภาวะปิดรับความเสี่ยงของตลาดหุ้นสหรัฐฯ หลังรับรู้ผลการประชุมเฟด ก็มีส่วนกดดันให้บอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ ย่อตัวลง และทำให้เงินดอลลาร์อ่อนค่าลงเล็กน้อย ซึ่งช่วยชะลอแรงกดดันเงินบาทฝั่งอ่อนค่าได้บ้าง ทำให้เงินบาทยังไม่ได้อ่อนค่าทะลุโซนแนวต้าน 35.50-35.60 บาทต่อดอลลาร์ ไปไกลนัก

Advertisement

นายพูน กล่าวว่า สำหรับวันนี้ ในส่วนของรายงานข้อมูลเศรษฐกิจฝั่งยุโรป ผู้เล่นในตลาดจะรอลุ้นรายงานอัตราเงินเฟ้อ CPI ของยูโรโซน ซึ่งจะเป็นข้อมูลเศรษฐกิจที่ช่วยสะท้อนแนวโน้มการปรับนโยบายการเงินของธนาคารกลางยุโรป (ECB) ในปีนี้ได้

นอกจากนี้ ผู้เล่นในตลาดจะรอจับตาผลการประชุมธนาคารกลางอังกฤษ (BOE) อย่างใกล้ชิด เพราะแม้ว่าในการประชุมครั้งนี้ เราจะมองว่า BOE จะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ระดับ 5.25% และอาจยังไม่ส่งสัญญาณปรับลดดอกเบี้ย เหมือนกับเฟด ทว่าจากการศึกษาข้อมูลในอดีตของทาง Bloomberg พบว่า หากมีคณะกรรมการเริ่มโหวต “ลดดอกเบี้ย” หลังจากนั้นราว 2 การประชุม BOE มักจะเริ่มทยอยลดดอกเบี้ยลงได้ ซึ่งหากมีการโหวตลดดอกเบี้ยราว 1-2 เสียงในการประชุมครั้งนี้ ก็อาจเปิดโอกาสในการลดดอกเบี้ยของ BOE ในช่วงไตรมาสที่ 2 ได้

ส่วนในฝั่งสหรัฐฯ ผู้เล่นในตลาดจะรอลุ้น รายงานข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญ ทั้ง ยอดผู้ขอรับสวัสดิการการว่างงาน (Jobless Claims) รวมถึง ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคการผลิตอุตสาหกรรม โดย ISM

Advertisement

และนอกเหนือจากรายงานข้อมูลเศรษฐกิจดังกล่าว เราประเมินว่า ผู้เล่นในตลาดจะติดตามรายงานผลประกอบการของบรรดาบริษัทจดทะเบียนอย่างใกล้ชิด

นายพูน กล่าวว่า สำหรับ แนวโน้มของค่าเงินบาท เราประเมินว่า ค่าเงินบาทอาจแกว่งตัวในกรอบ sideways หลังผลการประชุมเฟดล่าสุด ก็ไม่ได้ต่างจากที่ผู้เล่นในตลาดคาดหวัง นอกจากนี้ รายงานข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ล่าสุด รวมถึงความกังวลปัญหาธนาคารภูมิภาคของสหรัฐฯ ที่เริ่มกลับเข้ามา ก็ยังคงทำให้ผู้เล่นในตลาดต่างคาดหวังว่า เฟดอาจลดดอกเบี้ยได้มากกว่า 3 ครั้ง ที่ระบุไว้ใน Dot Plot

อย่างไรก็ดี เรามองว่า เงินบาทอาจเคลื่อนไหวผันผวนได้พอสมควร และมีโอกาสอ่อนค่าลงบ้าง ตามแรงขายสินทรัพย์เสี่ยงของไทย หลังบรรยากาศในตลาดการเงินกลับมาอยู่ในภาวะปิดรับความเสี่ยง (Risk-Off) แต่โดยรวมเรามองว่า ผู้เล่นในตลาดอาจยังไม่รีบกลับมาเพิ่มสถานะ Short THB (มองเงินบาทอ่อนค่าลง) จนกว่าจะรับรู้รายงานยอดการจ้างงานสหรัฐฯ ในวันศุกร์นี้ ทำให้เงินบาทก็อาจไม่ได้อ่อนค่าทะลุโซนแนวต้าน 35.70 บาทต่อดอลลาร์ไปได้ง่ายนัก

ทั้งนี้ ควรจับตาผลการประชุม BOE อย่างใกล้ชิด เพราะหาก BOE กลับส่งสัญญาณพร้อมทยอยลดดอกเบี้ยลงได้ เร็วกว่าเฟด ก็อาจยิ่งกดดันให้ เงินปอนด์อังกฤษ (GBP) ผันผวนอ่อนค่าลง และหนุนให้เงินดอลลาร์ปรับตัวแข็งค่าขึ้นต่อได้

นอกจากนี้ เงินบาทก็ยังขาดปัจจัยหนุนฝั่งแข็งค่าอยู่ในช่วงนี้ ทำให้การแข็งค่าของเงินบาทจะเป็นไปอย่างจำกัด และเราคงประเมินให้ โซน 35.30 บาทต่อดอลลาร์ เป็นแนวรับหลักในช่วงนี้ จนกว่าจะมีปัจจัยสนับสนุนเงินบาทที่แข็งค่าชัดเจน

“ความผันผวนของเงินบาทที่สูงกว่าค่าเฉลี่ยในอดีตที่ผ่านมาผู้ประกอบการควรใช้เครื่องมือป้องกันความเสี่ยงที่หลากหลาย อาทิ Option เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน และการเลือกทำธุรกรรมในสกุลเงินท้องถิ่น (Local Currency) ก็เป็นอีกแนวทางในการบริหารความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนที่น่าสนใจ ซึ่งผู้ประกอบการควรเปรียบเทียบต้นทุนในการทำธุรกรรมและแผนการป้องกันความเสี่ยงก่อนตัดสินใจทุกครั้ง”นายพูน กล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image