‘พิชัย’ ฟิต เข้าทำงานกระทรวงคลังทันที หลังประชุมครม.นัดแรก พร้อมเคลียร์แบงก์ชาติทุกประเด็น ไม่ขอลดดอกเบี้ยแน่
เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 7 พฤษภาคม ที่กระทรวงการคลัง นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และ นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ได้เดินทางเข้ามาสักการะสิ่งศักดิ์ประจำกระทรวงการคลังก่อนเริ่มปฏิบัติหน้าที่รัฐมนตรีวันแรก พร้อมด้วย นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง และผู้บริหารกระทรวงการคลัง
นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยถึงกรณีที่ได้รับมอบหมายให้ประสานกับธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เมื่อไหร่นั้นว่า จะเข้าพบทาง ธปท.ในทันทีที่มีโอกาส โดยเป็นการพูดคุยทำความเข้าใจให้ตรงกัน ดังนั้นไม่จำเป็นต้องรีบคุยในวันนี้ หรือพรุ่งนี้ และไม่ติดขัดว่าจะพูดคุยกันที่ไหน จะเป็นที่ ธปท.ก็ได้ เพราะตนก็คุ้นเคยกับ ธปท. เนื่องจากเคยเป็นกรรมการมาก่อน
“แน่นอนว่าเมื่อมองไปที่ ธปท. ก็อยากเห็นสถานการณ์การเงินของประเทศที่มั่นคง มีเงินสำรองระหว่างประเทศเยอะๆ ขณะเดียวกันก็อยากเห็นประเทศไทยมีรายได้เพิ่มขึ้น ก็ต้องดูกันว่าจะช่วยกันเร่งเศรษฐกิจอย่างไร โดยทุกวันนี้คันเร่งก็ดูฝืดๆ เลยอยากให้ช่วยกันเหยียบคันเร่งหน่อยได้ไหม ซึ่งจะเหยียบอย่างไร ของบางอย่างเหยียบแล้วใช้เงิน บางอย่างเหยียบแล้วไม่ใช้เงิน ก็คุยๆ กันไป คุยภาษาเดียวกัน จริงๆ ก็น่าจะคุยภาษาไม่ต่างกันเท่าไหร่” นายพิชัยกล่าว
นายพิชัยกล่าวว่า โดยเรื่องที่เป็นข้อที่ติดขัดกับ ธปท.นั้นในหลายข้อคงต้องช่วยกันขยายความ เช่น เรื่องลดดอกเบี้ยนโยบาย ที่จะช่วยให้คนใช้เงินมากขึ้น ส่วนตัวมองว่าส่วนหนึ่งก็ใช่ ถ้าคนไม่มีหนี้ หนี้น้อย แต่ขณะนี้หนี้ครัวเรือนไทยสูง ต่อให้ดอกเบี้ยน้อยลง ก็คงไม่สามารถมีรายได้เพิ่มได้ สิ่งที่ทำให้ได้คือ ทำอย่างไรให้มีเงินใช้คืนหนี้ ดังนั้นยังเป็นคนละบริบท
ส่วนเรื่องที่ ธปท.เสนอให้แจกเงินมาตรการกระตุ้นเฉพาะกลุ่ม มองว่าเรื่องมาตรการกระตุ้นนั้นไม่ใช่เพื่อให้แค่กินมีใช้ แต่เป็นการให้โอกาสไม่ใช่แค่ใช้บริโภค เงินที่ให้ไปก็ใช้จ่ายแทน ส่วนเงินที่มีอยู่ก็ใช้จ่ายหนี้ หรือไปซื้อของลงทุนแทน จึงเรียกว่าการกระตุ้นเศรษฐกิจ และถามว่าทำไมรัฐบาลต้องมีมาตรการกระตุ้นใหญ่ขนาดนี้ ในเวลานี้ เพราะว่ารัฐบาลมีการกระตุ้นการลงทุนจากต่างประเทศ และสร้างความเชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจไทยจะก็โตได้
“สำหรับ ธปท.นั้น ทุกวันนี้มีอิสระอยู่แล้ว หมายถึงอิสระทางความคิด การวิเคราะห์ อิสระในการเลือกทางเลือกที่ดีที่สุด แต่ทางเลือกนั้นๆ จะต้องตอบสนองความต้องการของประชาชน และต้องตอบสนองผู้ที่มาทำแทนประชาชน คือรัฐบาลด้วย ถ้ามันลงตัว และทำให้มันวินวิน ทุกคนได้ประโยชน์หรือไม่ และถ้าผมไปพบ ธปท. ผมก็ไม่พูดเรื่องดอกเบี้ย” นายพิชัยกล่าว
นายพิชัยกล่าวว่า ส่วนกรณีกระแสข่าวจะมีการแก้ไขพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) นั้น ขณะนี้ยังไม่มีแนวคิดดังกล่าว เนื่องจากเป็นกฎหมายที่ดีอยู่แล้ว ขณะที่การแก้ปัญหากองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน (Financial Institutions Development Fund) หรือ FIDF ให้ ธปท.ดูแลนั้น เรื่องกองทุนเป็นเรื่องที่นานมาแล้ว สุดท้ายเงินก็อยู่ตะกร้าเดียวกัน
“เบื้องต้น ผมเข้าใจว่าสุดท้ายไม่ว่าจะอยู่ตรงไหนก็เป็นของประเทศ ต้องมาดูว่าใครกำลังดีกว่า โดยปี 2540 ธปท.น่าจะลำบาก ท่านจะไปกู้เงินมาทำอะไรก็ลำบาก เพราะคนที่ยังมีแรงกู้คือภาครัฐ ส่วนสุดท้ายแล้วจะเป็นอย่างไรนั้นก็ต้องมีการหารือกัน และเงินก็อยู่ในตะกร้าเดียวกัน” นายพิชัยกล่าว
ทั้งนี้ เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าจะมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจใหม่ก่อนเริ่มโครงการดิจิทัลวอลเล็ตหรือไม่ นายพิชัยกล่าวว่า ถ้าจะออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในวันเดียว พรุ่งนี้ก็มาออกมาตรการใหม่อีก ถ้าแบบนี้ขอบินให้ดูก่อน คงต้องเป็นซุปเปอร์แมนแล้ว
