สภาพอากาศสุดขั้ว ภาคธุรกิจอ่วม สนค.แนะวิธีเปลี่ยนวิกฤตเป็นโอกาส พา ปชช.รอดไปด้วย

สนค.กางธุรกิจมีได้-มีเสีย จากพิษสภาพอากาศเปลี่ยน พลิกวิกฤตเอลนีโญ-ลานีญา

จากการ กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์ว่าปี 2567 ฤดูร้อนของไทยจะยาวนานไปถึงกลางเดือนพฤษภาคม โดยปรากฏการณ์เอลนีโญจะยังมีผลกระทบต่อเนื่อง ทำให้อากาศแห้งแล้งและร้อนจัด ก่อนจะอ่อนกำลังลง เป็นกลาง ในช่วงเดือนเมษายนถึงมิถุนายน และมีโอกาสถึงร้อยละ 60 ที่จะเข้าสู่ช่วงปรากฏการณ์ลานีญาในช่วงเดือนมิถุนายน-สิงหาคม อาจทำให้เกิดฝนตกหนักติดต่อกันและน้ำท่วมได้

นายพูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ที่ผ่านมาภาครัฐได้ประชาสัมพันธ์ให้เกษตรกรและผู้ประกอบการภาคอุตสาหกรรมวางแผนเพาะปลูกและใช้น้ำในการผลิตอย่างรอบคอบเพื่อเตรียมพร้อมรับมือกับสภาพอากาศในปี 2567 นี้แล้ว แต่อาจยังไม่มีการประชาสัมพันธ์ไปยังผู้ประกอบการภาคบริการให้เตรียมความพร้อมรับมือเท่าที่ควร

ทั้งนี้ ภาคบริการเป็นภาคธุรกิจที่มีความสำคัญมากต่อเศรษฐกิจของไทย โดยในปี 2566 ภาคบริการมีสัดส่วนสูงถึงร้อยละ 61 ของ GDP ไทย คิดเป็นมูลค่ากว่า 10.93 ล้านล้านบาท และครอบคลุมธุรกิจหมวดใหญ่ๆ ถึง 15 สาขา เกี่ยวข้องเชื่อมโยงกับชีวิตประจำวันของประชาชน ซึ่งสภาพอากาศอาจส่งผลกระทบได้ทั้งทางบวกและทางลบต่อผู้ประกอบการภาคบริการ จึงต้องเตรียมพร้อมรับมือเพื่อหลีกเลี่ยงผลกระทบทางลบและคว้าโอกาสจากผลกระทบทางบวก

Advertisement

ธุรกิจที่อาจพิจารณาเตรียมการเพื่อคว้าโอกาสจากผลกระทบทางบวกจากสภาพอากาศตามที่คาดการณ์ อาทิ ห้างสรรพสินค้าและร้านค้าต่างๆ ซึ่งอาจพิจารณาจัดหาสินค้า โดยเฉพาะ เครื่องใช้ไฟฟ้ากลุ่มเครื่องปรับอากาศ พัดลม ตู้เย็น ตลอดจนวัสดุอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องในการซ่อมบำรุงอุปกรณ์กลุ่มดังกล่าวให้เพียงพอกับความต้องการของผู้บริโภคในช่วงที่เอลนีโญยังไม่คลี่คลาย และจัดหาสินค้ากลุ่มร่ม เสื้อกันฝน และเครื่องเป่าแห้ง เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคในช่วงฤดูฝนที่อาจได้รับอิทธิพลจากลานีญา

กลุ่มธุรกิจร้านอาหาร อาจคว้าโอกาสจัดจำหน่ายอาหารที่เหมาะสมกับอากาศร้อนในช่วงเอลนีโญ เช่น ไอศกรีม น้ำแข็งไส หรืออาหารไทย อาทิ ข้าวแช่และแตงโมปลาแห้ง ซึ่งอยู่ในกระแสซอฟต์พาวเวอร์ของไทยด้วย

ส่วน กลุ่มธุรกิจซ่อมยานยนต์และจักรยานยนต์ ก็อาจพิจารณาเตรียมพร้อมการให้บริการซ่อมแซมยานพาหนะที่ได้รับผลกระทบจากอากาศร้อนในช่วงเอลนีโญและอุทกภัยในช่วงลานีญา ในขณะที่ธุรกิจกลุ่มการดูแลรักษาสุขภาพก็อาจต้องพิจารณาเตรียมการดูแลรักษาผู้ได้รับผลกระทบจากสภาพอากาศ เช่น การเป็นลมร้อน ลมแดด อาหารเป็นพิษ ในช่วงอากาศร้อนจัด ไข้หวัดในช่วงอากาศเปลี่ยนแปลง และโรคน้ำกัดเท้า ตาแดง ตลอดจนไข้เลือดออก ซึ่งเป็นโรคติดต่อและอันตรายที่มาจากน้ำท่วม

Advertisement

นอกจากที่กล่าวข้างต้น ธุรกิจบริการที่เกี่ยวข้องกับสภาพอากาศอีกกลุ่มที่น่าจับตามองคือ ด้านข้อมูลข่าวสารและสารสนเทศ ซึ่งนำข้อมูลสถิติและภูมิสารสนเทศที่เกี่ยวข้องมาช่วยบริหารจัดการในธุรกิจอื่นๆ ให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศในแต่ละฤดูกาล ตลอดจนการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของโลก โดยเฉพาะในภาคบริการ เช่น การพยากรณ์และวางแผนการจัดการโลจิสติกส์และห่วงโซ่อุปทานสินค้าและบริการต่างๆ บริการกลุ่มนี้ยังช่วยในการวางแผนและบริหารจัดการภาคการผลิตอื่นๆ ทั้งทางเกษตรและอุตสาหกรรม ซึ่งเป็นภาคส่วนที่สภาพอากาศและการเปลี่ยนแปลงตามฤดูกาลเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อผลผลิต

ในทางกลับกัน ธุรกิจบริการอีกหลายกลุ่มก็อาจ พิจารณาแผนรับมือผลกระทบทางลบจากสภาพอากาศ อาทิ กลุ่มห้างสรรพสินค้า และร้านค้าต่างๆ ที่ต้องเฝ้าระวังสถานการณ์ที่อาจเกี่ยวข้องกับการจัดการห่วงโซ่อุปทานของสินค้า เช่น อุทกภัย ทำให้ไม่สามารถจัดส่งสินค้าได้

กลุ่มร้านอาหาร ที่ต้องบริหารจัดการวัตถุดิบให้ไม่เน่าเสียและมีความปลอดภัยตลอดห่วงโซ่การผลิต รวมถึงความต่อเนื่องในการดำเนินกิจการ กลุ่มบริการขนส่งและโลจิสติกส์ ที่อาจต้องจัดหาและซ่อมบำรุงระบบควบคุมอุณหภูมิสำหรับการขนส่งในห่วงโซ่ความเย็นได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อรับมือกับอุณหภูมิที่จะสูงขึ้นและอาจกระทบต่อสินค้าที่ขนส่ง รวมถึงวางแผนการใช้ยานพาหนะและเส้นทางสำรองในกรณีที่เกิดอุทกภัย กลุ่มการท่องเที่ยว เช่น โรงแรม ที่อาจต้องเพิ่มมาตรการเฝ้าระวังแขกผู้เข้าพักจากผลกระทบของสภาพอากาศด้วย

ทั้งนี้ แม้ว่าสถานการณ์เอลนีโญและลานีญาจะเป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติที่เกิดขึ้นตามวัฏจักร แต่ก็อาจปฏิเสธไม่ได้ว่าการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของโลกมีส่วนทำให้สภาพอากาศผันแปรและเกิดความสุดโต่งอย่างผิดปกติ ภาคธุรกิจต่างๆ โดยเฉพาะภาคบริการ ซึ่งมีส่วนร่วมอย่างมากในระบบเศรษฐกิจ ก็มีบทบาทสำคัญในการปรับเปลี่ยนสู่การทำธุรกิจที่มีความยั่งยืนและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น เพื่อบรรเทาผลกระทบทางลบที่จะเกิดขึ้นจากการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศที่รุนแรงขึ้นในอนาคต อาทิ การติดตามและลดปริมาณการปล่อยคาร์บอนจากการดำเนินธุรกิจของตน

“ธุรกิจข้างต้นเป็นเพียงส่วนหนึ่งของภาคบริการที่มีความสำคัญต่อเศรษฐกิจ และมีบทบาทต่อการดำเนินชีวิตของประชาชนในช่วงเวลาที่สภาพอากาศมีความเปลี่ยนแปลงอย่างสุดขั้วเช่นในปัจจุบัน จึงขอให้ผู้ประกอบการภาคบริการให้ความสำคัญกับการวางแผนและเตรียมการรับมือเหตุไม่คาดฝัน เพื่อการดำเนินธุรกิจอย่างต่อเนื่อง และสามารถคว้าโอกาสจากความท้าทายที่อาจเกิดขึ้นได้” นายพูนพงษ์กล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image