เมื่อวันที่ 16 ธันวาคม นางเกศทิพย์ ศุภวานิช ผู้อำนวยการสำนักติดตามและประเมินผลการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สตผ.) และผู้อำนวยการสำนักพัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษา(สพค.) สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(สพฐ.) เปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆ นี้ มีการประชุมวิดีโอทางไกล (คอนเฟอเรนซ์) เพื่อติดตามตรวจสอบการดำเนินงานและการรายงานข้อมูลการมีตัวตนอยู่จริงของนักเรียนในสถานศึกษาสังกัด สพฐ. ร่วมกับสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา (สพท.) ทั่วประเทศรวม 225 เขต ผู้อำนวยการโรงเรียนและผู้อำนวยการสถานศึกษาในสังกัด ซึ่งขณะนี้โรงเรียนทั่วประเทศดำเนินการตรวจนับจำนวนนักเรียนเสร็จพร้อมได้รายงานข้อมูลในระบบ DMC เมื่อวันที่ 10 ธันวาคมที่ผ่านมา และ สพฐ. ได้ปิดระบบในการให้โรงเรียนเข้ากรอกข้อมูลเรียบร้อยแล้ว ต่อไป สพท.ทั่วประเทศ จะต้องตรวจสอบและวิเคราะห์ข้อมูลของโรงเรียนในพื้นที่อีกครั้ง โดยนำข้อมูลของวันที่ 10 ธันวาคมเป็นตัวตั้ง พร้อมเปรียบเทียบข้อมูลในวันที่ 10 มิถุนายน และ 10 พฤศจิกายน ว่ามีความแตกต่างหรือไม่ และส่งข้อมูลมายัง สพฐ.ภายในวันที่ 14 ธันวาคม ทั้งนี้ ในส่วนของ สตผ. จะดำเนินการตามข้อสั่งการของนายบุญรักษ์ ยอดเพชร เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) โดยตั้งคณะกรรมการติดตามเชิงประจักษ์ ลงพื้นที่สุ่มติดตามการตรวจนับรายหัวนักเรียน ใน 6 ภูมิภาคของประเทศ ซึ่งภายในคณะกรรมการชุดนี้จะมีคนจากส่วนกลางและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ เช่น อดีตผู้อำนวยการ สพท. อดีตผู้อำนวยการสถานศึกษา ที่มีความเชี่ยวชาญในแต่ละพื้นที่เข้าร่วมด้วย
“คณะกรรมการติดตามเชิงประจักษ์ จะลงพื้นที่สุ่มตรวจโรงเรียนในจังหวัดต่างๆ ในวันที่ 17-21 ธันวาคมนี้ โดยมีวัตถุประสงค์หลักคือ เพื่อติดตามตรวจสอบ และแก้ปัญหานักเรียนที่ไม่มีตัวตนอยู่จริง โดยสิ่งที่โรงเรียนต้องดำเนินการ เมื่อคณะกรรมการติดตามฯ ลงไปตรวจสอบคือ ฐานข้อมูลนักเรียนคล้ายกับกรอกลงไปใน DMC หรือไม่ นอกจากนี้จะมีคำถามเพิ่มเติมอีก เช่น มีการดำเนินการตั้งคณะกรรมการตรวจนับนักเรียนระดับโรงเรียนหรือไม่ หรือหากไม่ได้ดำเนินการเป็นเพราะเหตุใด ผลการตรวจนับนักเรียน ตรงหรือไม่ตรง หากไม่ตรงเพราะเหตุใด ซึ่งจะมีเหตุผล 2 ข้อ หากจำนวนนักเรียนไม่ตรงกับฐานข้อมูล คือ เป็นจำนวนนักเรียนที่อยู่ระหว่างการติดตามการจำหน่าย หรือนักเรียน ติด 0, ติด ร และจำนวนนักเรียนที่ไม่มีตัวตนจริงที่มีเจตนารายงานเท็จ ซึ่งโรงเรียนต้องชี้แจงให้ได้ในทุกประเด็นที่คณะกรรมการติดตามฯ สอบถาม” นางเกศทิพย์ กล่าวและว่า นอกจากนี้คณะกรรมการตรวจนับนักเรียนประจำโรงเรียนต่างๆ ต้องมีข้อคิดเห็น และข้อเสนอแนะให้คณะกรรมการติตตามฯ ด้วย เพื่อให้เกิดข้อมูลเชิงประจักษ์ และสามารถนำไปแก้ปัญหาต่อไปอนาคต
นางเกศทิพย์ กล่าวต่อว่า การลงพื้นที่สุ่มตรวจของคณะกรรมการติดตามฯ ไม่ได้ลงไปติดตามตรวจสอบนักเรียนที่ไม่มีตัวตนเท่านั้น เพราะ นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) และนายบุญรักษ์ ไม่อยากให้ไปรบกวนโรงเรียนมากเกินไป สตผ.จึงบรูณาการติดตามเรื่องอื่นๆ ด้วย เพื่อเข้าไปช่วยเหลือลดภาระให้กับโรงเรียน เช่น ติดตามโครงการของ สพฐ. จำนวน 28 โครงการ โรงเรียนแต่ละแห่งรับไปทำ มีกี่โครงการ โครงการใดมีปัญหา ต้องการให้ สตผ.เข้าไปให้คำแนะนำช่วยเหลือบ้าง เป็นต้น
“หลังจากการลงพื้นที่ในวันที่ 21 ธันวาคม คณะกรรมการติดตามฯ จะเร่งทำหนังสือสรุปตรวจสอบจำนวนนักเรียนที่ไม่มีตัวตนอยู่จริง และการติดตามโครงการต่างๆ เสนอต่อเลขาธิการ กพฐ. ภายใน 1 สัปดาห์”นางเกศทิพย์ กล่าว
