เมื่อวันที่ 17 ธันวาคม นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยว่า หลังจากที่ตนตรวจสอบเรื่อง ร่างขอบเขตงานหรือทีโออาร์ การดำเนินโครงการเครือข่ายเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อพัฒนาการศึกษา หรือยูนิเน็ต (UniNet) ของสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) ล่าสุดมีรายงานว่า ยูนิเน็ตใช้งานไม่ได้ในสถาบันการศึกษาทั่วประเทศ ซึ่งถือเป็นการเสียที่ผิดปกติ โดยผู้เชี่ยวชาญ บอกว่า อาจเป็นการกระทำของคน เพราะมีอัตราการเสียค่อนข้างมาก โดยนพ.อุดม คชินทร รัฐมนตรีช่วยว่าการศธ. ระบุว่าจากข้อมูล อัตราการเสียดังกล่าวถือว่า มากกว่าปกติถึง 5 เท่า ดังนั้นตนจึงได้ตั้งคณะกรรมการสืบข้อเท็จจริง โดยมีนายอรรถพล ตรึกตรอง ผู้ตรวจราชการศธ. เป็นประธานทั้งนี้ คณะกรรมการสืบข้อเท็จจริง จะลงไปดูทั้งระบบยูนิเน็ต รวมถึงตรวจสอบกล้องวงจรปิด หรือซีซีทีวีในจุดที่เสียด้วย หากพบว่า การที่ระบบยูนิเน็ตเสียครั้งนี้เป็นการกระทำของคน คนนั้นก็ต้องรับผิดชอบ ฐานทำลายสมบัติของราชการ
นพ.ธีระเกียรติ กล่าวต่อว่า การที่ระบบยูนิเน็ตเสียมากขนาดนี้ ตนคิดว่า ถึงเวลาที่จะต้องมาทบทวนว่า คุ้มค่าที่จะคงไว้ หรือไม่ โดยอาจจะปรับมาใช้วิธี ดำเนินการแบบเครือข่าย MOENetของกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) คือ เปิดให้เอกชนเข้ามาแข่งขัน ซึ่งอยู่ระหว่างการพิจารณา แต่เบื้องต้น สถานศึกษา สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) ประมาณ 60 แห่งแจ้งมาแล้วว่า หากยูนิเน็ตยังไม่เสถียรหรือเสียบ่อย ก็พร้อมที่เปลี่ยนไปใช้ระบบอื่น นอกจากนี้ยังมอบหมายให้นพ.อุดม สอบถามไปยังมหาวิทยาลัยด้วย ส่วนความคืบหน้าเรื่องการตรวจสอบข้อเท็จจริง ทีโออาร์นั้น ล่าสุดนายอำนาจ วิชยานุวัติ รองปลัดศธ. รายงานว่า ใกล้สรุปผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว แต่ยังไม่สามารถบอกรายละเอียดได้ ขอย้ำว่า เรื่องนี้ ตนไม่มีธง ขอให้คณะกรรมการตรวจสอบให้เต็มที่ ทุกอย่างเดินตามกฎหมาย
“ผมตั้งข้อสังเกตว่า การที่ระบบยูนิเน็ตใช้ไม่ได้ครั้งนี้ เป็นเพราะอยู่ในช่วงที่มีตรวจสอบความโปร่งใสของทีโออาร์ เหมือนเป็นการตีรวนหรือไม่ ให้เห็นว่า ตัวเองมีค่า ทั้งที่ใช้มานานแล้ว ถือว่า ผิดปกติ คนที่ทำจะเป็นภาคเอกชน หรือราชการผมไม่ทราบ แต่ถ้าเป็นราชการถือว่ามีความผิดร้ายแรง รวมถึงทำลายสมบัติราชการ หากเป็นเอกชน ก็ถือว่ามีความผิดฐานทำลายสมบัติราชการ ซึ่งตรวจสอบได้ เช่น เมื่อก่อนจะมีคำพูดว่า ส่งหนูลงไปแทะ เดาไม่ได้เลยว่า เป็นภาคเอกชนหรือราชการทำ หรือร่วมมือกัน ทั้งนี้ไม่อยากให้ทุกคนกังวลใจ เพราะสกอ.จะต้องรับผิดชอบเรื่องการซ่อมบำรุง ซึ่งมีงบประมาณอยู่จำนวนหนึ่ง ทุกอย่างเดินตามกฎหมายหมด ผมยังไม่ได้ฟันธงว่าใครทำอะไร แต่ใครที่ทำ ก็ขอให้รู้ว่า มีกล้องวงจรปิดติดเต็มไปหมด ผมเองไม่สงสัยใคร แต่ก็ต้องมีเหตุจูงใจให้ทำ อาจต้องการจะดิสเครดิตผม หรือรัฐมนตรีช่วยว่าการศธ. ผมก็ยังไม่ทราบ เพราะถ้าเสียเขาก็ต้องไปซ่อมอยู่ดี ”นพ.ธีระเกียรติกล่าว ทั้งนี้ยูนิเน็ตใช้งบปีละประมาณ700- 800 ล้านบาท นานกว่า 20 ปีซึ่งตนคิดว่า ถึงเวลาต้องประเมินแล้วว่า คุ้มค่าหรือไม่ ซึ่งตนได้ยินมาว่า ยูนิเน็ตเสียครั้งนี้มาจากฝ่ายนโยบาย ที่ไปหยุดเลยทำให้เสียมาก ซึ่งตนไม่ได้หยุด แต่ให้ตรวจสอบทีโออาร์ และหากหยุดจริงอัตราการเสียก็ไม่น่าจะมากผิดปกติขนาดนี้
