เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม นายอรรถพล ตรึกตรอง ผู้ตรวจราชการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ในฐานะปฏิบัติหน้าที่เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (สกสค.) เปิดเผยว่า ขณะนี้มีเสียงร้องเรียนปัญหาจากครูในโครงการสวัสดิการเงินกู้การฌาปนกิจสงเคราะห์ช่วยเพื่อนครูและบุคคลากรทางการศึกษา(ช.พ.ค.) ในโครงการที่ 6 และ 7 ที่พบปัญหาว่า เมื่อกรมธรรม์ประกันชีวิตเดิมหมด ตามข้อกำหนดเดิมนั้นครูจะต้องต่ออายุกรมธรรม์ใหม่ภายใน 30 วัน ถ้าไม่มาต่อด้วยตนเอง ธนาคารออมสินจะต่อให้เองโดยอัตโนมัติ และนำเบี้ยประกันที่ต้องจ่ายรายปีไปรวมกับยอดหนี้ ซึ่งที่ประชุม สกสค. ได้หารือถึงประเด็นปัญหานี้ และมองว่าถ้าไปบังคับครูทุกราย ให้ต่อกรมธรรม์ประกันชีวิตจะเป็นการบังคับและเพิ่มภาระค่าใช้จ่ายของครู เป็นไปได้หรือไม่ว่าครูที่มีหนี้เหลือไม่ถึง 700,000 บาท จะตัดสินใจในการต่อกรมธรรม์ประกันชีวิตของตนด้วยความสมัครใจได้หรือไม่ สกสค.จึงนัดเจรจากับตัวแทนจากธนาคารออมสิน ในวันที่ 27 ธันวาคมนี้ เพื่อเจรจาตกลงปัญหาเรื่องนี้กันใหม่ และตนจะเจรจากับธนาคารออมสิน อีกเช่นกันว่า การทำประกันรูปแบบใหม่ สามารถเปลี่ยนเป็นการทำประกันสินเชื่อและประกันชีวิตได้หรือไม่ เพราะที่ผ่านมาเป็นการทำประกันวินาศภัย ซึ่งธนาคารออมสินกำหนดทำให้ครูทำสัญญาประกัน 9 ปี ถือว่าเป็นการทำสัญญาที่ผูกขาด ทั้งที่ความจริงแล้วการทำประกันวินาศภัยต้องทำปีต่อปี
“ส่วนแนวทางการทำประกันรูปแบบใหม่ เดิม สกสค.จะเป็นตัวกลางหาบริษัทประกันใหม่ จำนวน 5 – 6 บริษัท เพื่อให้ครูเลือกตามความต้องการตนเอง ว่าต้องการจะทำประกันชีวิตรูปแบบไหน แต่ขณะนี้มีการปรับแนวทางใหม่ โดย สกสค. จะเปิดรับข้อมูลจากบริษัทประกัน จำนวน 5-6 บริษัท ให้ยื่นเสนอประกันชีวิตในรูปแบบต่างๆ เพื่อให้ได้ดอกเบี้ยต่ำสุด มาให้ สกสค.พิจารณา และขั้นต่อไป สกสค.จะเลือกบริษัทประกันที่เสนอเบี้ยประกันต่ำที่สุด ครูได้ประโยชน์มากสุด และตรงกับนโยบายของ นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) มาบันทึกทำข้อตกลงร่วมกันระหว่าง บริษัทประกันใหม่ ธนาคารออมสิน และสกสค. อย่างไรก็ตาม สกสค.มีหน้าที่ประสานและต่อรองแทนครูเท่านั้น หากครูต้องการที่จะทำประกันกับบริษัทอื่นนอกเหนือจากนี้ ต้องดำเนินการติดต่อกับบริษัทประกันนั้นๆ เอง” นายอรรถพล กล่าว
