ไหว้ 10 พระศักดิ์สิทธิ์ เสริมมงคลชีวิต ‘ปีหมู’

ขณะนี้ทั่วโลกกำลังเข้าสู่โหมดเฉลิมฉลองส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ 2562 เทศกาลแห่งความรื่นเริงบันเทิงใจ กิน ดื่ม เที่ยว เดินทาง ส่งความสุขให้แก่กัน

สำหรับประเทศไทย ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบ 13 กิจกรรม ตามที่กระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) เสนอ เพื่อส่งมอบความสุขให้แก่ประชาชนในมิติด้านศาสนา ศิลปะ และวัฒนธรรม อาทิ

“สวดมนต์ข้ามปี ถวายพระราชกุศล เสริมสิริมงคลทั่วโลก ส่งท้ายปีเก่าวิถีไทย ต้อนรับปีใหม่วิถีธรรม พ.ศ.2562” โดย วธ.ร่วมกับวัดทุกวัดทั่วประเทศ จัดสถานที่สำหรับสวดมนต์ข้ามปี วันที่ 29 ธันวาคม 2561-1 มกราคม 2562 เพื่ออุทิศถวายพระราชกุศลแด่สมเด็จพระบูรพมหากษัตริยาธิราช และถวายเป็นพระราชกุศลแด่สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ โดยเชิญชวนประชาชนทุกพื้นที่รักษาศีล เจริญภาวนา ปฏิบัติธรรม และสวดมนต์เป็นสิริมงคลให้ประเทศ ครอบครัว และตนเอง

หนึ่งในไฮไลต์สำคัญได้แก่ กิจกรรม “อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ และพระพุทธรูปสำคัญที่ประดิษฐานทั้งใน และต่างประเทศ” 13 ประเทศ ได้แก่ ภูฏาน กัมพูชา จีน ญี่ปุ่น อินโดนีเซีย อินเดีย ลาว มองโกเลีย เมียนมา สิงคโปร์ ศรีลังกา เวียดนาม และไทย จากลานพลับพลามหาเจษฎาบดินทร์ เพื่ออัญเชิญไปประดิษฐาน ณ มณฑลพิธีท้องสนามหลวง ให้ประชาชนสักการะ ตั้งแต่วันที่ 29 ธันวาคม-1 มกราคม และจะอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ หรือพระพุทธรูปที่สำคัญจากต่างประเทศไปประดิษฐานให้ประชาชนสักการะ ณ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ (พช.) พระนคร จนถึงวันที่ 15 มกราคม

Advertisement

“ไหว้พระ 10 วัด สืบสิริสวัสดิ์ 10 รัชกาล” ที่เกี่ยวเนื่องกับพระมหากษัตริย์แห่งราชวงศ์จักรี วันที่ 30 ธันวาคม-1 มกราคม ตั้งแต่เวลา 08.00-16.30 น. จัดรถบริการรับ-ส่งฟรี ได้แก่ วัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหาร, วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร, วัดราชโอรสารามราชวรวิหาร, วัดราชประดิษฐสถิตมหาสีมารามราชวรวิหาร, วัดเบญจมบพิตรดุสิตวนารามราชวรวิหาร, วัดบวรนิเวศราชวรวิหาร, วัดราชบพิธสถิตมหาสีมารามราชวรวิหาร, วัดสุทัศนเทพวรารามราชวรมหาวิหาร, วัดพระราม 9 กาญจนาภิเษก และวัดวชิรธรรมสาธิตวรวิหาร

รวมไปถึงกิจกรรม “ไหว้พระวังหน้า พระปฏิมาแห่งแผ่นดิน : นพปฏิมารัตนมารวิชัย” อัญเชิญพระแก้วปางมารวิชัย ซึ่งทำจากรัตนชาติวรรณะต่างๆ 9 องค์ ร่วมกับการสักการะพระพุทธสิหิงค์ พระพุทธรูปสำคัญประจำวังหน้า รวม 10 องค์ เพื่อให้ประชาชนได้สักการะ เนื่องในเทศกาลปีใหม่ 2562 ณ พระที่นั่งพุทไธสวรรย์ พช.พระนคร วันที่ 29 ธันวาคม-27 มกราคม ในส่วนภูมิภาคได้อัญเชิญพระพุทธรูปสำคัญประจำท้องถิ่นให้ประชาชนได้สักการะ ณ พช.ทุกแห่ง เป็นต้น

นายวีระ โรจน์พจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการ วธ.กล่าวว่า กิจกรรมสวดมนต์ข้ามปีในปีนี้ มีความพิเศษอย่างยิ่งที่สมเด็จพระสังฆราช สังฆนายก และผู้นำสงฆ์ จาก 12 ประเทศ ได้แก่ ภูฏาน กัมพูชา จีน ญี่ปุ่น อินโดนีเซีย อินเดีย ลาว มองโกเลีย เมียนมา สิงคโปร์ ศรีลังกา และเวียดนาม จะเดินทางเข้าร่วมกิจกรรมการสวดมนต์ข้ามปี ณ มณฑลพิธีท้องสนามหลวง พร้อมอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ และพระพุทธรูปสำคัญที่ประดิษฐานใน 12 ประเทศ มาให้ประชาชนได้สักการบูชา ร่วมกับพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ของไทย

Advertisement

นอกจากนี้ มีริ้วขบวนอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ และพระพุทธรูปสำคัญ จากในและต่างประเทศรวม 13 ริ้ว เคลื่อนจากลานพลับพลามหาเจษฎาบดินทร์ ไปประดิษฐาน ณ มณฑลพิธีท้องสนามหลวง เพื่อให้ประชาชนสักการะ ซึ่งริ้วขบวนอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ และพระพุทธรูปสำคัญ ประกอบด้วย “จีน” พระพุทธรูป และวัดเส้าหลิน, “อินโดนีเซีย” พระศากยมุนี วัดเมนดุดเกะชวา ประทับนั่งห้อยขา และบุโรพุทโธ พุทธสถานศูนย์กลางพระพุทธศาสนาอันยิ่งใหญ่, “เวียดนาม” พระพุทธรูปศรีอริยเมตไตรย ที่วัดโต๋งเลิม เมืองญาจาง และเจดีย์วัดเฉินก๊วก วัดเก่าแก่ในกรุงฮานอย

“อินเดีย” พระพุทธเมตตาปางมารวิชัยสมัยปาละ ในวัดพระมหาโพธิ ใกล้ต้นพระศรีมหาโพธิ์ ต.พุทธคยา และพระมหาโพธิ์เจดีย์, “ญี่ปุ่น” พระพุทธรูปไดบุทสึ พระใหญ่แห่งเมืองคามาคุระ และวัดโทไดจิ วัดพุทธ ในเมืองนะระ ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนมรดกโลก, “มองโกเลีย” พระพุทธรูปพระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์ พระพุทธรูปยืนที่สูงที่สุดในโลก และวัดกานดาน วัดคู่บ้านคู่เมือง, “กัมพูชา” พระแก้วมรกต วัดเจดีย์เงิน และนครวัด ซึ่งเป็นศาสนสถานที่ใหญ่ที่สุดในโลก ในช่วงปลายศตวรรษที่ 12 “เมียนมา” พระพุทธรูป พระมหามัยมุนีที่วัดมหาชัย เมืองมัณฑะเลย์ และพระมหาเจดีย์ชเวดากอง,

“สิงคโปร์” หลวงพ่อโต พระพุทธปฏิมาองค์ใหญ่โตปางมารวิชัย และวัดพระเขี้ยวแก้ว วัดจีนศิลปกรรมสมัยราชวงศ์ถัง, “ลาว” พระพุทธรูป พระบางพุทธลาวรรณที่ประดิษฐานอยู่ในหอพระบาง เป็นพระพุทธรูปปางห้ามสมุทร และพระธาตุหลวง, “ศรีลังกา” พระพุทธรูปในวัดเกลานียาราชมหาวิหาร และเจดีย์ถูปาราม เป็นเจดีย์ทางพุทธศาสนาองค์แรกที่สร้างขึ้นในเกาะศรีลังกา, “ภูฏาณ” พระพุทธรูปดอร์เดนมา เป็นพระพุทธรูปประทับนั่งบนวัชระอาสน์ และวัดทักซัง ที่ตั้งอยู่บนหน้าผาสูง และ “ไทย” พระศรีศากยะทศพลญาณ ประธานพุทธมณฑลสุทรรศน์ เป็นพระพุทธรูปยืนปางลีลาขนาดใหญ่ ประดิษฐาน ณ พุทธมณฑล

โดยริ้วขบวนสุดท้ายของไทย ได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทาน “พระบรมสารีริกธาตุ” จากพระบรมมหาราชวัง ไปประดิษฐานชั่วคราวให้ประชาชนได้สักการะ ณ มณฑลพิธีท้องสนามหลวง ในวันที่ 30 ธันวาคม

สำหรับกิจกรรม “ไหว้พระวังหน้า พระปฏิมาแห่งแผ่นดิน : นพปฏิมารัตนมารวิชัย” ซึ่งเป็นกิจกรรมที่ประชาชนชาวไทยตั้งหน้าตั้งตารอ ปีนี้ กรมศิลปากร โดย พช.พระนคร ได้อัญเชิญพระพุทธรูปสำคัญออกมาให้ประชาชนสักการบูชา ระหว่างวันที่ 29 ธันวาคม 2561-27 มกราคม 2562 ต่อเนื่องเป็นเวลา 1 เดือน ซึ่งพระพุทธรูปทั้ง 9 องค์ ล้วนเป็นพระพุทธรูปรัตนชาติ (แก้ว) วรรณะต่างๆ ในปางมารวิชัย โดยมีพระพุทธสิหิงค์เป็นประธาน ณ พระที่นั่งพุทไธสวรรย์ พช.พระนคร ดังนี้

พระพุทธสิหิงค์ ปางสมาธิ ศิลปะสุโขทัย-ล้านนา ประมาณปลายพุทธศตวรรษที่ 20-21 สมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาสุรสิงหนาท (วังหน้ารัชกาลที่ 1) ทรงอัญเชิญมาจากเมืองเชียงใหม่เมื่อประมาณ พ.ศ.2338 ปัจจุบันประดิษฐาน ณ พระที่นั่งพุทไธสวรรย์ พช.พระนคร

สำหรับพระพุทธรูปอีก 9 องค์ เป็นพระพุทธรูปรัตนชาติ ในสมัยโบราณมักเรียกรัตนชาติเหล่านี้ว่า “แก้ว” เปรียบดุจพระรัตนตรัยอันประกอบด้วยแก้วทั้งสาม ถือเป็นอัญมณีสูงค่าอันหาได้ยาก มีค่ามากดุจแก้วสารพัดนึก แม้จะมีขนาดเล็ก แต่ก็มีค่ากว่าพระพุทธรูปที่หล่อด้วยโลหะ ซึ่งแต่ละสีจะมีชื่อ และความหมายที่แตกต่างกันออกไป โดยพระพุทธรูปรัตนชาติทั้ง 9 องค์ ยังแสดงปางมารวิชัย อันเป็นภาวะที่มั่นคง ไม่ไหวติงต่อภยันอันตรายทั้งปวง ซึ่ง “นพปฏิมารัตนมารวิชัย” หมายถึง พระแก้วปางมารวิชัย ทั้ง 9 องค์ ประกอบด้วย

1.พระแก้วน้ำค้าง ให้คุณด้านอยู่เย็นเป็นสุข สมัยรัตนโกสินทร์ พุทธศตวรรษที่ 24-25 เจ้าพรหมสุรธาดา เจ้านครเมืองน่าน ทูลเกล้าฯถวายพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 7 โปรดเกล้าฯพระราชทานให้ พช.พระนคร

2.พระแก้วกาบมรกตอ่อน สมัยรัตนโกสินทร์ พุทธศตวรรษที่ 24-25 ได้จากการขุดค้นทางโบราณคดีในพระอุโบสถวัดบวรสถานสุทธาวาส เมื่อเดือนเมษายน 2507

3.พระแก้วน้ำค้าง ให้คุณด้านอยู่เย็นเป็นสุข สมัยรัตนโกสินทร์ พุทธศตวรรษที่ 24 เป็นพระพุทธรูปที่อยู่ใน พช.มาแต่เดิม

4.พระแก้วน้ำค้าง ให้คุณด้านอยู่เย็นเป็นสุข สมัยรัตนโกสินทร์ พุทธศตวรรษที่ 25 เป็นพระพุทธรูปที่อยู่ใน พช.มาแต่เดิม

5.พระแก้วกาบมรกต ให้คุณด้านปลอดภัย แคล้วคลาด และยศตำแหน่ง สมัยรัตนโกสินทร์ พุทธศตวรรษที่ 24 เป็นพระพุทธรูปที่อยู่ใน พช.มาแต่เดิม

6.พระแก้วน้ำหาย ให้คุณด้านอยู่เย็นเป็นสุข สมัยรัตนโกสินทร์ พุทธศตวรรษที่ 24 เป็นพระพุทธรูปที่อยู่ใน พช.มาแต่เดิม

7.พระแก้ววิฑูรย์น้ำผึ้ง ให้คุณด้านเมตตามหานิยม และป้องกันอัคคีภัย สมัยรัตนโกสินทร์ พุทธศตวรรษที่ 25 เป็นพระพุทธรูปที่อยู่ใน พช.มาแต่เดิม

8.พระแก้วจันทรกานต์ ให้คุณด้านโชคลาภ และการติดต่อค้าขาย สมัยรัตนโกสินทร์ พุทธศตวรรษที่ 24 เป็นพระพุทธรูปที่อยู่ใน พช.มาแต่เดิม

9.พระแก้ววิฑูรย์สีน้ำผึ้ง ให้คุณด้านโชคลาภทวีคูณ ชื่อเสียง และอำนาจ สมัยรัตนโกสินทร์ พุทธศตวรรษที่ 24 เป็นพระพุทธรูปที่อยู่ใน พช.มาแต่เดิม

ปีใหม่นี้ ใครที่ยังไม่มีโปรแกรมพิเศษ ก็ขอเชิญชวนให้ไปไหว้พระศักดิ์สิทธิ์ เพื่อเสริมสิริมงคลให้กับตนเอง และครอบครัวตลอดทั้งปีหมู!!

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image