เมื่อวันที่ 26 กันยายน นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆ นี้ ได้รับข้อมูลเกี่ยวกับการค้างจ่ายค่าตอบแทนครูธุรการและนักการภารโรงในโรงเรียนสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ทั่วประเทศ ในเดือนสิงหาคมและกันยายน ซึ่ง ศธ.ไม่ได้นิ่งนอนใจ เร่งหาทางแก้ไข โดยได้หารือกับสำนักงบประมาณ ทำเรื่องขอแปลงงบประมาณอุดหนุน ปี 2562 กว่า 500 ล้านบาท นำมาจ่ายเป็นค่าตอบแทนบรรเทาปัญหาความเดือดร้อนของครูธุรการและภารโรงทุกคนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และได้เร่งรัดให้นายสุเทพ ชิตยวงษ์ เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) เร่งเบิกจ่ายเงินให้แก่ผู้ที่ยังไม่ได้รับเงินตอบแทนให้ครบถ้วนโดยเร็ว เพื่อดูแลบุคลากรที่ได้รับผลกระทบอย่างทั่วถึง
นายณัฏฐพลกล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตาม ปัญหางบสะดุดครั้งนี้ เกิดจากการวางแผนเชิงระบบ ซึ่งหน่วยงานในศธ. ต้องปรับปรุงให้มีประสิทธิภาพ โดยได้กำชับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ดำเนินการอย่างรอบคอบ ไม่ให้เกิดปัญหาแบบนี้ หากมีความจำเป็นจะต้องจัดสรรงบหรือโยกย้ายงบในส่วนใดก็ต้องทำ เพราะตนไม่ต้องการให้บุคลากรของ ศธ.ได้รับความเดือดร้อน คิดว่าในส่วนของงบประมาณ ปี 2563 จะสามารถบริหารจัดการได้ดีกว่านี้ ขณะที่ปีงบประมาณ 2564 จะมีความชัดเจนมากยิ่งขึ้น เพราะตนจะลงมาดูแลด้วยตัวเอง ให้มีการเบิกจ่ายตรงเวลา ไม่ให้มีปัญหา โดยคำนึงผลสัมฤทธิ์สุดท้ายที่จะเกิดกับเด็กเป็นสำคัญ เพราะหากครูธุรการ หรือภารโรงหรือบุคลากรได้รับเงินเดือนล่าช้า ก็ไม่มีสมาธิในการทำงาน
“ผมตั้งใจจะนำเรื่องสวัสดิการต่างๆ ของบุคลากรมานั่งดู โดยเฉพาะเรื่องการจ้างลูกจ้างต่างๆ ที่ทำงานโดยไม่ได้รับการบรรจุ ส่วนหนึ่งเป็นปัญหาเชิงบริหารที่ต้องมาดู เป็นเรื่องของประสิทธิภาพการทำงาน ซึ่งต้องมาคิดว่าหากบรรจุลูกจ้างเหล่านี้เป็นพนักงานได้หรือไม่ ซึ่งก็ต้องมาดูกฎระเบียบและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง หากสามารถทำได้ก็เป็นเรื่องดี ให้เขาได้มีขวัญกำลัง ได้รับสิทธิประโยชน์สวัสดิการต่างๆ เพิ่มขึ้น จากเดิมที่ได้เงินเดือนเพียง 9,000 บาทเท่านั้น” นายณัฏฐพลกล่าว
