มติสภาม.รามฯ ค้านคำสั่งศาลปกครอง ยันไม่มีผลให้ ‘สืบพงษ์’ กลับมานั่งเก้าอี้อธิการฯ

มติสภาม.รามฯ ค้านคำสั่งศาลปกครอง ยันไม่มีผลให้ ‘สืบพงษ์’  กลับมานั่งเก้าอี้อธิการ เหตุถูกเลิกจ้าง-ไม่ตรงคุณสมบัติ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ สภามหาวิทยาลัยรามคำเเหง (ม.ร.) ออกประกาศมหาวิทยาลัยรามคําแหงเรื่อง มติการประชุมสภามหาวิทยาลัยรามคําแหงใจความว่า ตามที่สภามหาวิทยาลัยรามคําแหง ในการประชุม ครั้งที่ 4/2566วาระที่ 5.1เมื่อวันที่16 กุมภาพันธ์ 2566 เรื่อง แจ้งการปฏิบัติตามคําสั่งของศาลปกครอง นั้น สภามหาวิทยาลัยรามคําแหง ได้ร่วมกันพิจารณาแล้วมีมติดังนี้ 1.การประชุมในวันนี้เกิดขึ้นเนื่องจาก ผศ.สืบพงษ์ ปราบใหญ่ ได้รับทราบ มติของสภามหาวิทยาลัยตามการประชุมครั้งที่ 3/2566วาระที่ 6.11เมื่อวันที่ 13กุมภาพันธ์ 2566 ตลอดจนหนังสือที่ อว 0601.01/530เรื่อง แจ้งมติสภามหาวิทยาลัยรามคําแหง แล้ว และได้มีหนังสือถึง นายกสภามหาวิทยาลัย เรื่อง การแจ้งการปฏิบัติตามคําสั่งของศาลปกครอง ซึ่งนายกสภามหาวิทยาลัย ได้เรียกประชุมและให้ผศ.สืบพงษ์ ปราบใหญ่ เข้าชี้แจงข้อเท็จจริงในวันที่ 17 กุมภาพันธ์แล้ว แต่ผศ.สืบพงษ์ ปราบใหญ่ ปฏิเสธเข้าชี้แจง

2.ที่ประชุมเห็นชอบให้ยืนยันมติของสภามหาวิทยาลัยตามการประชุมครั้งที่ 3/2566วาระที่ 6.11เมื่อวันที่ 13กุมภาพันธ์ 2566ในการปฏิบัติตามคําสั่งของศาลปกครองกลาง เกี่ยวกับการ ทุเลามติและคําสั่งเกี่ยวกับการถอดถอนผศ.สืบพงษ์ ปราบใหญ่ ให้พ้นจากตําแหน่งอธิการบดี มหาวิทยาลัยรามคําแหง เนื่องจากเข้าข่ายเป็นผู้บกพร่องในศีลธรรมอันดี ซึ่งเป็นลักษณะต้องห้ามตามข้อ 7(4)ของข้อบังคับของมหาวิทยาลัยรามคําแหง ว่าด้วยคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามของผู้บริหาร พ.ศ.2562 ในการประชุมครั้งที่ 21/2565เมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน 2565

แต่ทั้งนี้ภายหลังการถอดถอนดังกล่าวเมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน 2565 มหาวิทยาลัยรามคําแหงได้มีหนังสือบอกเลิกสัญญาจ้างผศ.สืบพงษ์ ปราบใหญ่ จากการเป็นพนักงานของ มหาวิทยาลัย ด้วยสาเหตุจากการที่  ผศ.สืบพงษ์ ปราบใหญ่ ได้ใช้คุณวุฒิปริญญาดุษฎีบัณฑิต ที่ไม่ได้รับการรับรองจากสํานักงาน ก.พ. มาใช้สมัครเป็นพนักงานมหาวิทยาลัย ตําแหน่งอาจารย์ คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคําแหง ผู้ช่วยศาสตราจารย์สืบพงษ์ ปราบใหญ่ จึงเป็นผู้ขาดคุณสมบัติ ในการเป็นพนักงานมหาวิทยาลัย ตําแหน่งอาจารย์ คณะศึกษาศาสตร์มาตั้งแต่ต้น และศาลปกครองกลาง ไม่ได้มีคําสั่งให้คุ้มครองการเลิกจ้างผู้ช่วยศาสตราจารย์สืบพงษ์ ปราบใหญ่ด้วย

Advertisement

ผลของการบอกเลิกสัญญาจ้างย่อมถือเป็นเหตุให้ผู้ช่วยศาสตราจารย์สืบพงษ์ ปราบใหญ่ พ้นจากการเป็นพนักงานของมหาวิทยาลัย รามคําแหงและตกเป็นผู้ที่ขาดคุณสมบัติในการดํารงตําแหน่งอธิการบดีของมหาวิทยาลัยรามคําแหง 23แห่งพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยรามคําแหง พ.ศ. 2541ประกอบกับพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการ พลเรือนในสถาบันอุดมศึกษา พ.ศ. 2547และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่2) พ.ศ. 2551มาตรา 4,18และ 65/2กําหนดให้อธิการบดีเป็นตําแหน่งประเภทผู้บริหารและผู้ที่จะดํารงตําแหน่งอธิการบดีได้จะต้องเป็น ข้าราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษาหรือต้องเป็นพนักงานของมหาวิทยาลัยเท่านั้น

เมื่อผศ.สืบพงษ์ ปราบใหญ่ พ้นจากการเป็นพนักงานของมหาวิทยาลัยรามคําแหงแล้ว จึงไม่มีสถานะใด ๆ รองรับให้ ผู้ช่วยศาสตราจารย์สืบพงษ์ ปราบใหญ่ สามารถกลับเข้ามาดํารงตําแหน่งอธิการบดีได้อีกต่อไปนอกจากนี้ ผศ.สืบพงษ์ ปราบใหญ่ ยังเข้าข่ายเป็นผู้บกพร่องในศีลธรรม อันดี เนื่องจากขาดจริยธรรมและไม่ซื่อสัตย์สุจริต ซึ่งเป็นลักษณะต้องห้ามตามข้อ 7(4) ของข้อบังคับ ของมหาวิทยาลัยรามคําแหง ว่าด้วยคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามของผู้บริหาร พ.ศ. 2562ผู้ช่วยศาสตราจารย์ สืบพงษ์ ปราบใหญ่ จึงไม่สามารถที่จะทําหน้าที่อธิการบดีได้อีกต่อไปเช่นเดียวกัน

3.เนื่องจากคําสั่งทุเลาการบังคับของศาลปกครองกลางมิได้ระบุว่าให้มีผลย้อนหลัง ไปนับตั้งแต่วันที่ 4 พฤศจิกายน 2555 ซึ่งเป็นวันที่สภามหาวิทยาลัยรามคําแหงมีมติให้ถอดถอน ผศ.สืบพงษ์ ปราบใหญ่ ออกจากตําแหน่งอธิการบดี จึงต้องถือว่าคําสั่งทุเลาการบังคับ ของศาลปกครองกลางมีผลนับตั้งแต่วันที่ 13กุมภาพันธ์ 2566ซึ่งเป็นวันที่ศาลปกครองกลางแจ้งคําสั่ง ให้ผู้ถูกร้องทราบ ตามข้อ 72วรรคท้าย ของระเบียบของที่ประชุมใหญ่ตุลาการในศาลปกครองสูงสุด ว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ. 2543และการทุเลาการบังคับมีผลเฉพาะตัวผศ.สืบพงษ์ ปราบใหญ่ เพียงคนเดียวเท่านั้น ผู้ที่ดํารงตําแหน่งรองอธิการบดีขณะที่ผศ.สืบพงษ์ ปราบใหญ่ ดํารงตําแหน่งอธิการบดีนั้น ย่อมไม่ได้รับการคุ้มครองการทุเลาตามคําสั่งของศาลปกครองกลางด้วย

Advertisement

รองอธิการบดีทั้งหมดดังกล่าวต้องพ้นจากตําแหน่งนับแต่วันที่ผศ.สืบพงษ์ ปราบใหญ่ ถูกถอดถอนออกจากตําแหน่งอธิการบดีคือตั้งแต่วันที่ 8พฤศจิกายน 2565เป็นต้นไป ตามมาตรา 23วรรคท้าย แห่งพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยรามคําแหง พ.ศ. 2541

4.ที่ประชุมเห็นชอบให้แจ้งยืนยันมติที่ประชุมในวันนี้ต่อผศ.สืบพงษ์ ปราบใหญ่ ว่า ผศ.สืบพงษ์ ปราบใหญ่ ไม่อาจดํารงตําแหน่งอธิการบดีมหาวิทยาลัยรามคําแหง ในขณะนี้ได้

5.ที่ประชุมเห็นชอบให้รักษาราชการแทนอธิการบดีมหาวิทยาลัยรามคําแหง ทําประกาศ มติสภามหาวิทยาลัยแจ้งเวียนให้บุคลากรในหน่วยงานต่าง ๆ ของมหาวิทยาลัยรามคําแหงทราบและถือปฏิบัติ โดยทั่วกัน และหากผู้ใดกระทําการฝ่าฝืนมติดังกล่าว ให้มหาวิทยาลัยดําเนินการทางกฎหมายต่อไป

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image