ตั้ง ‘คมกฤช’ รก.อธิบดี สกร.เร่งยกร่างกฎกระทรวง-จัดโครงสร้างใหม่ ปัดเอี่ยวปมทุจริตแปลงงบจัดซื้อหนังสือ

ตั้ง ‘คมกฤช’ นั่งรักษาการอธิบดี สกร. เร่งยกร่างกฎกระทรวง-จัดโครงสร้างใหม่ ปัดเอี่ยวปมทุจริตแปลงงบจัดซื้อหนังสือ

นายคมกฤช จันทร์ขจร รองอธิบดีกรมส่งเสริมการเรียนรู้ (สกร.) ในฐานะรักษาราชการแทนอธิบดีกรมส่งเสริมการเรียนรู้ (สกร.) เปิดเผยว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ นายอรรถพล สังขวาสี ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ได้ลงนามในหนังสือคำสั่งแต่งตั้งตน ในตำแหน่งรักษาราชการแทนอธิบดีสกร. ทั้งนี้เพื่อให้การปฏิบัติราชการเป็นไปด้วยความเรียบร้อย เกิดความคล่องตัว ต่อเนื่องและเกิดประสิทธิภาพสูงสุดในการบริหารราชการกรมส่งเสริมการเรียนรู้ ดังนั้นจากนี้ตนจะหารือกับ ผู้บริหารสกร. เพื่อจัดทำนโยบายการดำเนินการ ซึ่งในช่วงการเปลี่ยนผ่าน ช่วงเปลี่ยนผ่าน คงต้องใช้เวลาทำความเข้าใจกับบุคคลกร เพราะการทำงาของสกร. จากนี้จะแตกต่างไปจาก สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย (กศน.) เดิม ที่เน้นในเรื่องส่งเสริมการเรียนรู้ แต่ สกร.จะเพิ่มในเรื่อง การส่งเสริมกระบวนการเรียนรู้แบบใหม่ ที่เรียกว่า การจัดการเรียนรู้ ซึ่งมองที่ผลลัพธ์ที่ประชาชนจะได้รับ มากกว่า การจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานตามรูปแบบเดิม ตรงนี้เป็นเป้าหมายใหม่ อีกเรื่องที่จะต้องเร่งดำเนินการ คือ สร้างกระบวนการเทียบโอนความรู้ของประชาชน เข้าสู่ระบบหน่วยกิต เพื่อเปิดช่องให้ผู้ที่รู้ความรู้ในศาสตร์ต่าง ๆ สามารถนำมาเทียบโอน เข้าสู่ระบบการศึกษาได้

“ขณะนี้การทำงานของสกร. อยู่ในช่วงการถ่ายโอนทรัพย์สิน และหนี้สิน เบื้องต้นจะใช้โครงสร้างกศน. เดิมไปพลางก่อน จากนั้นจะต้องจัดทำกฎกระทรวง ว่าด้วยการแบ่งส่วนราชการ ให้สอดคล้องกับพ.ร.บ.ส่งเสริมการเรียนรู้ พ.ศ.2566 และวิเคราะห์ภ่รกิจ ตามโครงสร้างแต่ละระดับ เพื่อเสนอให้ คณะกรรมพัฒนาระบบราชการ (ก.พ.ร.) คณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) คณะกรรมการกฤษฎีกา พิจารณา ก่อนเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบ โดยกระบวนการทั้งหมดคาดว่าจะใช้เวลา ประมาณ 180 วัน หรือ 6 เดือน จึงแล้วเสร็จ อย่างไรก็ตาม การทำงานในช่วงนี้ ยังไม่พบปัญหา ส่วนงบประมาณที่ระงับไว้ ก็ไม่ใช่งบในส่วนที่จะนำไปใช้ในการพัฒนาการจัดการศึกษา โดยสกร. ยังสามารถจัดสรรงบปกติลงไปยัง สกร.จังหวัด และศูนย์ส่งเสริมการเรียนรู้ตำบล ได้ตามปกติ”นายคมกฤช กล่าว

รักษาราชการแทนอธิบดีสกร. กล่าวต่อว่า ส่วนในเรื่องการตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีถูกกล่าวหา เรื่อง การจัดสรรงบประมาณให้สำนักงาน กศน.กทม. จำนวน 60 ล้านบาท เพื่อให้สำนักงาน กศน.กทม.และสำนักงาน กศน.เขต จัดซื้อสื่อจากสำนักพิมพ์ต่าง ๆ ตามที่กำหนด รวมถึงให้ซื้อสื่อจากสำนักพิมพ์ที่สามารถเรียกเก็บเงินทอน 65% โดยอ้างว่า จำเป็นต้องส่งให้รัฐมนตรี เพื่อให้ได้เป็นเลขาธิการกศน. และเรียกรับเงินจากการแต่งตั้งผู้อำนวยการ กศน.จังหวัด/รองผู้อำนวยการ กศน.จังหวัดและตำแหน่งอื่น ๆ รวมถึงการเรียกรับเงินจากผู้เขียนตำราในการตรวจตำราของกศน.เป็นต้น นั้น เรื่องนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อเท็จจริง ซึ่งส่วนตัวไม่ทราบกระบวนการและขั้นตอนของคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ซึ่งในส่วนที่มีการแปลงงบประมาณ การจัดกิจกรรม เพื่อนำไปใช้ในการจัดซื้อหนังสือเรียนนั้น ก็ไม่ได้เกิดขึ้นในช่วงที่ตนนั่งในตำแหน่งรักษาราชการแทนเลขาธิการกศน. และงบดังกล่าว ก็ยังไม่มีการนำไปใช้ เมื่อมีการทักท้วง ตนก็จะหารือผู้บังคับบัญชาและผู้ที่เกี่ยวข้อง เพื่อนำงบดังกล่าวไปใช้ให้ถูกต้อง โดยจะเสนอให้มีการนำงบประมาณดังกล่าว ไปใช้จัดกิจกรรมที่สอดคล้องตามนโยบายที่จะจัดทำขึ้น เช่น ส่งเสริมการจัดการศึกษาในศตวรรษที่ 21 การพัฒนาครู การจัดระบบการเทียบโอนความรู้ใหม่ ฯลฯ เป็นต้น

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image