เรียนไทยได้จีน : นิทานสุภาษิตจีน (287) 成语故事 (二八七)

เรียนไทยได้จีน : นิทานสุภาษิตจีน (287) 成语故事 (二八七)

นิทานสุภาษิตจีนที่ “เรียนไทยได้จีน” จะนำเสนอในฉบับนี้คือ 一问三不知 /一問三不知 yī wèn sān bù zhī (อีเวิ่น สาน ปู้ จือ) โดย คำว่า 一 yī (อี) แปลว่าหนึ่ง แต่ในที่นี้จะหมายถึงปุ๊บปั๊บ ทันทีทันใด 问/問 wèn (เวิ่น) แปลว่า ถาม สอบถาม 三 sān (ซาน) แปลว่า จำนวนสาม สาม 不 bù (ปู้) แปลว่า ไม่ 知 zhī  (จือ) แปลว่า รู้ ทราบ เมื่อร่วมกันแล้วจะหมายถึง ถามปุ๊บถึงรู้ว่าไม่รู้สามประการ หรือไม่รู้อะไรเอาเสียเลย โดยคำว่าไม่รู้สามประการ (三不知 ซาน ปู้ จือ) จะหมายถึงไม่รู้ในต้นเหตุ การดำเนินไป และผลของมัน ซึ่งจะหมายถึง ตอนที่ไม่ได้สอบถาม ก็ดูเหมือนจะมีความรู้มากมาย แต่พอทดสอบถามดูปุ๊บ ก็จะรู้ได้ทันที่ว่าไม่มีความรู้เอาเสียเลย ใช้เปรียบเทียบกับคนที่ดูเหมือนมีความรู้มากมาย แต่ความจริงแล้วกลับไม่มีความรู้เอาเสียเลย มาดูตัวอย่างจากนิทานสุภาษิตจีนนี้กัน

การศึกในสมัยโบราณนั้น นอกจากการยกกำลังพลเข้าประหัตประหารกันจนกว่าจะรู้ผลแพ้ชนะต่อกัน โดยทั้งสองฝ่ายต่างก็ต้องสูญเสียทั้งชีวิตคน และทรัพย์สินเงินทองมากมาย แต่ในหลายๆ สงครามนั้น จะเห็นว่า ทั้งสองฝ่ายไม่ได้ใช้กำลังทหารเข้ารบกันอย่างจริงจัง แต่ชนะกันด้วยการเจรจา หรือกลลวงต่างๆ นานา๐ กลยุทธ์เหล่านี้ได้ตกผลึกมาเป็นกลศึกต่างๆ มากมายให้เราได้ศึกษา

ประเทศจีนในช่วงปลายยุคชุนชิว รัฐเล็กเริ่มถูกรัฐใหญ่รุกรานควบรวมดินแดน สงครามใหญ่น้อยจึงก่อเกิดมิหยุดหย่อน ในช่วงเวลาดังกล่าวมีเรื่องเล่าว่า รัฐจิ้น晋国/晉國 Jìn Guó (จิ้น กั๋ว)ได้ส่งกองทัพใหญ่ไปบุกโจมตีรัฐเจิ้ง 郑国/鄭國 Zhènɡ Guó (เจิ้ง กั๋ว) หวังยึดดินแดน รัฐเจิ้งเมื่อเห็นกองทัพของรัฐจิ้นยกมา เมื่อประเมินดูแล้วเห็นว่าคงไม่อาจต้านทานการบุกของกองทัพจิ้นได้ จึงได้ส่งคนไปเจรจาโน้มน้าวขอให้รัฐฉี 齐国/齊國 Qí Guó (ฉี กั๋ว) มาช่วย ด้วยความสามารถในการเจรจา รัฐฉีจึงตกลงส่งกองทัพไปช่วยเหลือรัฐเจิ้ง โดยแต่งตั้งขุนศึกเฉินเฉิงจื่อ 陈成子/陳成子 Chén Chénɡzi เป็นแม่ทัพนำกำลังรัฐฉีไปช่วยรัฐเจิ้ง ต้านการรุกรานของรัฐจิ้น

Advertisement

(ที่มาภาพ : https://image.baidu.com/search/index?tn)

กองทัพของรัฐจิ้นที่ยกมาตีรัฐเจิ้งนั้น เมื่อเห็นกองทัพรัฐฉียกมาช่วย จึงได้ไปสังเกตการณ์ก็เห็นว่า กองทัพฉีภายใต้การนำของขุนพลเฉินเฉิงจื่อนั้น มีระเบียบวินัยมาก การจัดกองทัพก็อยู่ในรูปแบบที่ถูกต้อง เมื่อไปสืบดูภายในก็เห็นว่า ขวัญกำลังใจของทหารทั้งหลายก็ดีมาก มีความฮึกเหิมเต็มที่ เมื่อได้ข้อมูลมาแล้ว บรรดาขุนพลทั้งหลายของกองทัพรัฐจิ้น จึงลงความเห็นว่า หากเอาชนะขาดจากกันคงเป็นไปได้ยาก และจะรบยืดเยื้อก็ไม่เป็นผลดี จึงได้วางแผนถอยทัพกลับดีกว่า

Advertisement

แต่ก่อนกลับ ก็มิวายวางแผนยุยงให้แตกแยกดู เผื่อว่าจะได้ผล จึงส่งนักเจรจาไปคุยกับเฉินเฉิงจื่อ โดยหว่านล้อมแม่ทัพเฉินเฉิงจื่อว่า แต่เดิมเป็นคนรัฐเฉิน 陈国/陳國 Chén Guó (เฉิน กั๋ว) มาก่อน แม้นว่ารัฐเฉินต้องสิ้นไปเพราะถูกรัฐฉู่ 楚国/楚國 Chǔ Guó (ฉู่ กั๋ว) รุกรานยึดเอาดินแดนไป แต่ที่รัฐเฉินต้องสิ้น ก็เพราะรัฐเจิ้งเองก็มีส่วนช่วยเหลือรัฐฉู่ด้วยมิใช่หรือ ตอนนี้รัฐจิ้นยกมารุกรานรัฐเจิ้ง ก็มิใช่การช่วยท่านแก้แค้นหรอกหรือ ขุนศึกเฉินเฉิงจื่อจึงตอบกลับว่า รัฐเฉินสิ้นแล้ว ตอนนี้ตัวข้าเป็นแม่ทัพแห่งรัฐฉี รับบัญชามาให้ต้านทานข้าศึก ข้าก็ต้องทำตามหน้าที่ให้ถึงที่สุด นักเจรจาจากกองทัพจิ้นเห็นว่าการหว่านล้อมไม่เป็นผลจึงลากลับไป

จากนั้นกองทัพจิ้นก็ปล่อยข่าวว่าจะส่งรถม้าศึกหลายพันลำบุกตะลุยเข้ามาในกองทัพฉี รองแม่ทัพในกองทัพฉีนามว่า สวิน อิ๋น 荀寅 Xún Yín ได้ข่าวก็รีบมารายงานแม่ทัพเฉินเฉิงจื่อด้วยอาการตื่นตูม เสนอให้รีบถอยทัพก่อนที่ทัพจิ้นจะมาถึง แม่ทัพเฉินเฉิงจื่อจึงถามสวิน อิ๋น ว่าสองทัพตั้งเผชิญหน้ากันเช่นนี้ จะถอยทัพได้อย่างไรกัน ที่ท่านว่ามาท่านเห็นการจัดวางกองทัพ กุลยุทธ์การรบ และขวัญกำลังใจของข้าศึกแล้วหรือยัง สวิน อิ๋น ส่ายหน้าบอกไม่รู้ แม่ทัพเฉินเฉิงจื่อจึงต่อว่ารองแม่ทัพของตนว่า สามสิ่งที่ควรรู้ในการศึก ท่านกลับไม่รู้อะไรเลยสักอย่าง กลับมาพูดจาทำลายขวัญกำลังของฝ่ายตนเองเช่นนี้ ท่านทำให้ข้าผิดหวังยิ่งนัก ต่อมาคำพูดเกี่ยวกับสิ่งควรรู้สามสิ่งในสนามรบ แต่ขุนศึกผู้อยู่ในสมรภูมิกลับไม่รู้สักนิดนี้ จึงกลายมาเป็นคำสุภาษิตจีนที่ใช้เปรียบเปรยกับคนที่ชอบทำตัวโดดเด่น ทำตัวเหมือนมีความรู้มากมาย แต่เอาเข้าจริงเขาคนนั้นกลับไม่รู้อะไรเลย

ข้อคิดจากประโยคสุภาษิตนี้

成语比喻:对实际情况一点也不知道。

成語比喻:對實際情況一點也不知道。

Chénɡyǔ bǐyù:Duì shíjì qínɡkuànɡ yīdiǎn yě bù zhīdào.

เฉิงยหวี่ ปี่ยวี่ :  ตุ้ย ฉือจี้ ฉิงขว้าง อีเตี๋ยน เหย่ ปู้ จือต้าว

สุภาษิตเปรียบว่า: ไม่รู้อะไรเลยเกี่ยวกับสถานการณ์จริง

ประโยคตัวอย่างที่ใช้สำนวนสุภาษิตนี้ เช่น

有些人在学术界上摆样子,把自己的名誉高高挂起,当真的遇到情况时,却一问三不知,真是丢脸啊。

有些人在學術界上擺樣子,把自己的名譽高高掛起,當真的遇到情況時,卻一問三不知,真是丟臉啊。

Yǒuxiē rén zài xuéshù jiè shànɡ bǎi yànɡzi,bǎ zìjǐ de mínɡyù ɡāo ɡāo ɡuà qǐ,dānɡ zhēn de  yù dào qínɡkuànɡ shí,què yī wèn sān bùzhī,zhēn shì diūliǎn ɑ.

โหย่วเซีย เหริน จ้าย เสวฉู้ เจี้ย ฉ้าง ป่าย ย่างจื่อ, ป่า จื้อจี่ เตอะ หมิงยวี่ เกาเกา กว้า ฉี่, ตัง เจิน เตอะ ยวี่ ต้าว ฉิงขว้าง ฉือ, เชว่ อี เวิ่นซาน ปู้จือ, เจิน ฉื้อ ติวเหลี่ยน อา

บางคนวางตัวเป็นนักวิชาการ เสกสรรปั้นแต่งตัวเองให้มีชื่อเสียงโด่งดัง แต่ยามประสบกับสถานการณ์จริงๆ เข้า กลับไม่รู้อะไรเอาเสียเลย ช่างน่าอายจริงๆ

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image