เรียนไทยได้จีน : นิทานสุภาษิตจีน (292) 成语故事 (二九二)

เรียนไทยได้จีน : นิทานสุภาษิตจีน (292) 成语故事 (二九二)

นิทานสุภาษิตจีนที่ “เรียนไทยได้จีน” จะนำเสนอในฉบับนี้คือ 穷兵黩武/窮兵黷武 qiónɡ bīnɡ dú wǔ (ฉยง ปิง ตู๋ อู่) โดย คำว่า 穷/窮 qióng (ฉยง) เฉพาะในบทความนี้แปลว่า ถูกใช้จนหมดสิ้น 兵 bīnɡ (ปิง) แปลว่า ทหาร 黩/黷 dú (ตู๋) เฉพาะในบทความนี้ แปลว่า การใช้อย่างสิ้นเปลือง ใช้อย่างไม่ยั้งคิด 武 wǔ (อู่) เฉพาะในบทความนี้ แปลว่า กองกำลังทหาร เมื่อรวมกันแล้วหมายถึง การใช้กำลังทหารอย่างฟุ่มเฟือยจนกองทัพหมดสิ้น การใช้อย่างสิ้นเปลืองจนหมดตัว ใช้จนหมดหน้าตัก ใช้ทรัพยากรอย่างไม่ยับยั้งชั่งใจ หรือแปลสั้นๆได้ว่า หมดเนื้อหมดตัว มาดูตัวอย่างจากนิทานสุภาษิตจีนนี้กัน

ประเทศจีนในช่วงปลายยุคสามก๊ก 三国/三國 Sān ɡuó (ซาน กั๋ว) ช่วงนี้แผ่นดินจีนจากสามก็ลดลงเหลือสอง ซึ่งก็คือรัฐจิ้น 晋国/晉國 Jìn ɡuó (จิ้น กั๋ว) กับรัฐอู๋ 吴国/吳國 Wú ɡuó (อู๋กั๋ว) สองรัฐตั้งทัพเผชิญกันรอวันตัดสินชะตา แต่กว่าจะถึงวันนั้น ก็มีเรื่องเล่ามากมาย หนึ่งในนั้นก็คือที่มาของสุภาษิตจีนในวันนี้ มีเรื่องเล่าว่า ขุนศึกยอดนักรบนักยุทธศาสตร์ของรัฐอู๋นามว่า ลู่คั่ง 陆抗/陸抗 Lù Kànɡ ได้รับคำสั่งให้เฝ้ารักษาชายแดน ดังนั้น ชายแดนในเขตที่ลู่คั่งดูแลนั้น มีความเข้มแข็งไร้จุดอ่อน ยากนักที่ศัตรูจะบุกรุกเข้ามาได้

แต่ในขณะเดียวกัน ที่ชายแดนอีกด้านที่มีขุนศึกนามว่า ปู้ฉาน 步阐/步闡 Bù Chǎn นำกำลังพร้อมเขตแดนที่ตนดูแลอยู่ไปสวามิภักดิ์ต่อรัฐจิ้น สร้างความไม่พอใจยิ่งต่อเจ้านครรัฐอู๋ เขาจึงสั่งให้ลู่คั่งนำกำลังเข้าปราบปรามกองกำลังของปู้ฉานทันที ด้วยการวางแผนอย่างรอบคอบ และจัดทัพอย่างดี จึงทำให้กองทัพของลู่คั่งปราบปรามพร้อมจับตัวขุนศึกปู้ฉานส่งตัวไปลงโทษที่เมืองหลวง ผลการรบครั้งนี้สร้างความพึงพอใจให้กับเจ้าผู้ครองรัฐอู๋เป็นยิ่งนัก รวมเข้ากับเหล่าขุนพลพลอยพยักทั้งหลายในวังหลวง จึงทำให้เจ้าผู้ครองรัฐอู๋คิดไปเองว่ากองกำลังของตนเข้มแข็งกว่ารัฐจิ้น จึงคิดที่จะทุ่มอย่างสุดตัว เพื่อบุกขึ้นเหนือหวังควบรวมดินแดนให้เป็นหนึ่งเดียวให้ได้

Advertisement

(ที่มาภาพ https://m.thepaper.cn/newsDetail_forward_21486830)

แผนการรบนี้ได้รับเสียงคัดค้านอย่างยิ่งจากขุนพลลู่คั่ง ด้วยเหตุผลว่า รัฐจิ้นเป็นรัฐใหญ่ และการทำศึกนั้นจะต้องสูญเสียไพร่พล และทรัพยากรทุกอย่างมากมาย โดยยังไม่แน่ชัดได้ว่าจะชนะศึกนี้หรือไม่ ซึ่งการทุ่มเทไปอย่างนั้น มันได้ไม่คุ้มเสีย แต่เสียงส่วนน้อยไหนเลยจะสู้เสียงส่วนใหญ่ได้ เขาจึงถูกบีบให้ต้องรับคำสั่งยกทัพไปโจมตีดินแดนของรัฐจิ้น ด้วยสภาพที่กองทัพไม่พร้อมรบมากนัก ขุนศึกลู่คั่งรู้ดีว่ากองทัพของรัฐอู๋ไม่ได้เข้มแข็งไปกว่ากองทัพรัฐจิ้น และหลายปีมานี้ ทางการรัฐอู๋ก็ใช้จ่ายงบอย่างสิ้นเปลือง ขูดรีด และเกณฑ์แรงงานประชาชนมากขึ้นทุกวัน จนประชาชนรู้สึกไม่พอใจยิ่งนัก ด้วยสภาพความไม่พร้อมทั้งหลายนี้ จึงเป็นเหตุผลที่ลู่คั่งรู้ดีว่าไม่ควรรบ

Advertisement

ดังนั้น เมื่อเขายกทัพมาถึงชายแดน เขาจึงใช้วิธีสร้างชายแดนให้เข้มแข็ง ไม่บุกเข้าไปยังรัฐจิ้นเสียที ทางเมืองหลวงก็สั่งอยู่เช้าเย็นให้บุกเข้าไป จนสุดท้ายเขาก็ต้องบุกตามคำสั่ง ผลการรบกองทัพอู๋ก็ต้องพ่ายแพ้ทุกครั้งไป ที่เป็นเช่นนี้ เพราะรัฐจิ้นมีการเตรียมความพร้อมเป็นอย่างดี และในช่วงนี้ รัฐจิ้นก็เพิ่งจะโค่นล้มรัฐฌู่ 蜀国/蜀國 Shǔ ɡuó (ฌู่กั๋ว) ได้สำเร็จ กองทัพจึงมีความฮึกเหิมยิ่งนัก แต่แม้นว่ากองทัพจิ้นจะพร้อมสักเพียงใดก็ตาม รัฐจิ้นก็รู้ดีว่ากองทัพภายใต้การนำของลู่คั่งนั้น ไม่อาจจะผลีผลามบุกเข้าทำลายได้ในระยะนี้ จึงได้แต่เสริมกองกำลังไว้ และคุมเชิงอยู่เช่นนั้น จนกระทั่งลู่คั่งเสียชีวิตแล้ว

เมื่อข่าวรัฐอู๋สิ้นลู่คั่งแพร่ไปถึงรัฐจิ้น การบุกใหญ่จากรัฐจิ้นก็มาถึงทันที ไม่นานจากนั้น รัฐอู๋ก็ถูกรัฐจิ้นเอาชนะได้ และรัฐจิ้นก็กลายเป็นผู้ควบรวมดินแดนที่แตกแยกของยุคสามก๊กให้กลับเข้ามาเป็นแผ่นดินเดียวกันได้สำเร็จอีกครั้งหนึ่ง

ข้อคิดจากประโยคสุภาษิตนี้

成语比喻:用尽所有的兵力,任意发动侵略战争。

成語比喻:用盡所有的兵力,任意發動侵略戰爭。

Chénɡyǔ bǐyù:Yònɡ jìn suǒyǒu de bīnɡlì, rènyì fādònɡ qīnlüè zhànzhēnɡ.

เฉิงยหวี่ ปี่ยวี่:  ย่ง จิ้น สัวโหย่ว เตอะ ปิงลี่,  เริ่นอี้ ฟาต้ง ชินเลว่ จ้านเจิง

สุภาษิตเปรียบว่า ใช้กองกำลังทั้งหมดที่มีอยู่และเปิดศึกรุกรานอย่างตามใจ (ใช้ทรัพยากรที่มีอยู่จำกัดอย่างไม่ยับยั้งชั่งใจ)

ประโยคตัวอย่างที่ใช้สำนวนสุภาษิตนี้ เช่น

从历史上看,我们会知道有多少穷兵黩武的领导,最后都遭到推翻,难道我们还要再走那条路吗?

從歷史上看,我們會知道有多少窮兵黷武的領導,最後都遭到推翻,難道我們還要再走那條路嗎?

Cónɡ lìshǐ shànɡ kàn, wǒmen huì zhīdào yǒu duōshǎo qiónɡbīnɡdúwǔ de lǐnɡdǎo,zuìhòu dōu zāo dào tuīfān,nándào wǒmen hái yào zài zǒu nà tiáo lù ma?

ฉง ลี่ฉื่อ ฉั้ง คั่น, หวั่วเมิน ฮุ่ย จือต้าว โหย่ว ตัวฉ่าว ฉยงปิงตู๋อู่ เตอะ หลิงต่าว, จุ้ยโห้ว โตว เจาต้าว ทุยฟาน, หนานต้าว หวั่วเมิน ไห เหย้า โจ่ว น่า เถียว ลู่ มะ

จากมุมมองทางประวัติศาสตร์ เราจะรู้ว่าผู้นำกี่คนแล้วที่ถูกโค่นล้มหลังหมดตัว แล้วเรายังจะเดินตามเส้นทางนั้นอีกหรือ

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image